นายกรัฐมนตรี เปิดงานตลาดนัดสินค้าชุมชน ข้างทำเนียบรัฐบาล แนะแสดงความจงรักภักดีพระราชินี 83 พรรษา เป็นคนดี ทำบ้านเมืองสงบ กลับไปกราบแม่ ยันรัฐบาลช่วยผู้มีรายได้น้อย ทำทุกอย่างให้มีเงินกลับประเทศ เผยพาณิชย์ไปอเมริกา ขายข้าวได้พอควร เตือนอย่าเอาข้าวเน่าในคลังไปขาย อะไรไม่ภูมิใจอย่าไปทำ อย่าทำลายกันเองให้ตื่นตระหนก เอือมพวกนักการเมืองที่พูดเศรษฐกิจไม่ดี แต่ไม่ช่วยแก้ไข เซ็งไม่มีใครรบก็รบกันเอง ชอบตื่นเต้นเลยหาเรื่อง
วันนี้ (3 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 17.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีเปิดงานตลาดนัดสินค้าชุมชน “อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของขวัญแด่แม่” และนิทรรรศการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2558 ณ ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 - 23 ส.ค. โดยมี นางนราพร จันทร์โอชา ภริยา, นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รมว.อุตสาหกรรม ร่วมงาน ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นการจัดงานในช่วงเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระชนมายุครบ 83 พรรษา ถือเป็นเดือนประเสริฐ และเป็นวันแม่ ที่เราต้องแสดงความจงรักภักดี ซึ่งสิ่งใดก็ตามทำแล้วให้พระองค์ท่านมีความสุขก็ช่วยกันทำ จะมากบ้าง น้อยบ้าง อย่างน้อยขอให้เป็นคนดี ช่วยดูแลทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ซึ่งข้อสำคัญทุกคนต้องกลับไปกราบพ่อแม่ด้วย ใครไม่เคยกราบใกล้วันแม่ก็กลับไปกราบแม่ เหมือนกับเพลง “ค่าน้ำนม” และกิจกรรมครั้งนี้ มีของจากศูนย์ศิลปาชีพมาร่วมงานด้วย
นายกฯ กล่าวว่า ทำวันนี้ให้ดีที่สุด กิจกรรมวันนี้เป็นการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเป็นหลัก ซึ่งรัฐบาลมีความเป็นห่วงตลอดวลาอย่างต่อเนื่อง จะเห็นว่า รัฐบาลพยายามทำทุกอย่างแม้สถานการณ์ปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ จะมีปัญหาอยู่บ้าง แต่เราก็จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ซึ่งเราพยายามจะทำทุกอย่าง ให้มีเงินกลับมาประเทศ วันนี้โลก เศรษฐกิจ เปลี่ยนแปลงไปเยอะ เราคงไม่ใช้วิธีการเก่า ๆ ต่อไปได้ การหวังพึ่งแต่รายได้จากการส่งออกอย่างเดียวไม่ได้ ต้องทั้งเกษตรกรรม อุตสาหกรรม การท่องเที่ยวและการบริการ ซึ่งเป็นศักยภาพของไทย อะไรก็ทำที่ให้บ้านเมืองมีเสถียรภาพ ให้ทุกคนอยากลงทุนในประเทศมันก็เป็นสิ่งที่ดีทั้งนั้น วันนี้เพื่อนบ้านต้องอาศัยซึ่งกันและกัน เชื่อมโยงการค้า การลงทุน วางแผน การสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน
ทั้งนี้ สัปดาห์ที่แล้วกระทรวงพาณิชย์เดินทางไปแอฟริกา ขายข้าวได้พอสมควร ซึ่งน่าจะเป็นรายได้ เป็นอนาคตที่ดีของข้าวไทย เขาเชื่อมั่นในข้าวไทย ซึ่งเขาก็บอกว่า ถ้าจะขายข้าวให้เขาให้เอาข้าวนอกคลังไปขาย อย่าเอาข้าวในคลัง เพราะได้ข่าวว่ามันเสีย ผมก็อายเขาอยู่เหมือนกัน การปลูกข้าวใหม่ ถ้าฝนลงข้าวก็น่าจะได้ราคาที่ดีขึ้น แล้วรัฐมนตรีพาณิชย์อยู่ ๆ ก็ถูกถามมาคำว่า การที่ไทยตั้งราคาข้าวไม่เป็นไปตามท้องตลาด แบบที่ผ่านมา จะเกิดขึ้นอีกหรือเปล่า เพราะมันทำให้โครงการค้าข้าวทั้งโลกปั่นป่วนไปหมด ผมก็ไม่รู้ ผมบอกสมัยผมอยู่เรื่องนี้ไม่เกิดอยู่แล้ว ก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน พี่น้องได้ประโยชน์ก็ว่าไป แต่ปัญหาที่ตามมาก็ต้องช่วยกันแก้ต่อไป
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้าทุกคนร่วมใจกันทำทุกอย่าง อะไรที่ไม่น่าภูมิใจอย่ากลับไปทำอีก ตามที่เราร่วมกันในวันนี้ไปเรื่อย ๆ ตนคิดว่าขวัญกำลังใจเราจะดีขึ้น ขวัญกำลังใจเราจะดีขึ้นเรื่อย ๆ เราอย่ามาทำลายกันเอง อย่ามาพูดจากันให้ตื่นตระหนก เสียขวัญ มันแย่ พูดไปก็ไม่ได้ดีกว่าเดิม มันก็จะยิ่งแย่ ถ้าพูดในสิ่งที่มันดี แนะนำในส่งที่เป็นไปได้ สิ่งที่ควรจะเกิด ตนก็พยายามทำทุกอย่าง รัฐบาลพยายามทำ รัฐมนตรีทุกกระทรวงทำด้วยความตั้งใจ เพราะฉะนั้น ก็ขอความกรุณาพูดถึงประเทศตัวเอง ในทางที่ดีบ้างนะ อย่าเอาการเมืองหรืออะไรต่าง ๆ มายุ่งกันทุกเรื่อง มันทำให้คนเดือดร้อน ตนก็อยากทำให้ทุกอย่างเรียบร้อยให้เร็วที่สุด วันนี้เราสร้างอะไรให้เขาหรือยัง รอกลับไปถามตัวเองดู ทุกคนที่ออกมาพูดกันอยู่วันนี้ เรื่องเศรษฐกิจมานั่งบ่นไม่ดี ๆ อยู่นั้นแหละ ต้องช่วยกันแก้ไข
“ไม่ใช่รัฐบาลจะสบาย นอนไม่หลับทุกวัน ปัญหาเยอะแยะไปหมด เรื่องการเมือง มันวุ่นไปหมด ไม่รู้เป็นอะไรกัน ประเทศเราเป็นประเทศรักสงบ แต่ก็รบไม่ขาด ไม่มีใครรบด้วยก็รบกันเอง คนไทยชอบอะไรที่ใหม่ ๆ แปลก ๆ ชอบตื่นเต้น ก็เดี๋ยวหาเรื่องกันสักหน่อย มันเงียบกันไปหลายวัน ขี่จักรยาน กลับมาอีกแล้ว พูดเรื่องการเมืองกันอีกแหละ น่ารำคาญ ผมจะพยายามไม่คิดถึงมันสักวันไม่ได้เชียวหรือ อดไม่ได้สักที” นายกฯ กล่าว
จากนั้น นายกฯได้เยี่ยมชมสินค้าภายในงาน ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมได้นำสินค้าอุปโภค บริโภคมาจำหน่าย โดยนายกฯ ได้แวะสอบถามราคาราคาไข่ไก่และบอกว่าต้องให้มีจำหน่ายให้เพียงพอต่อความต้องการ พร้อมบอกกับนักข่าวว่า เมื่อเขาขายราคาถูกก็อย่าไปเขียนว่า ตนทำลายราคาจริงอีกล่ะ เมื่อทราบว่าถูกกว่าราคาท้องตลาด
ทั้งนี้ นอกจากนายกฯ ได้เดินชมเยี่ยมชมและให้กำลังใจร้านค้าต่าง ๆ ภายในงานแล้ว ยังได้อุดหนุนซื้อเสื้อแจ๊กเก็ตยีนส์ จากร้านฑีตา ในราคา 5 พันบาท โดยไม่ต่อรองราคา ขณะที่ นางนราพร ได้เลือกซื้อผ้าไหม 1 ผืนด้วย และขณะทีนายกฯ เดินชมมาถึงบูทสมาคมเสริมสวยแห่งประเทศ ที่มาให้บริการตัดผมฟรี ซึ่งขณะนั้นมีสุภาพสตรี 2 คน มารับบริการ นายกฯ จึงเดินเข้าไปพร้อมกับหยิบกรรไกรตัดที่ปลายผมของสุภาพสตรีทั้ง 2 คน ซี่งอาจารย์ช่างได้แนะนำนายกฯถึงวิธีการตัดผมด้วย โดยนายกฯ บอกว่า “ตอนเป็นทหารเคยตัดผมให้ลูกน้องมาบ้าง”