พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วยนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เป็นประธานเปิดงาน "อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ของขวัญแด่แม่" ที่ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม บริเวณด้านข้างทำเนียบรัฐบาล จัดโดยกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2558 ภายในงานได้จัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ "พระคุณแม่ก่อร่างสร้างชีวิต" พร้อมเปิดให้ประชาชนลงนามถวายพระพร ควบคู่กับการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องใช้ไฟฟ้าราคาย่อมเยา สินค้าหัตถกรรม เครื่องประดับตกแต่ง สมุนไพรบำรุงสุขภาพ และผลิตภัณฑ์หรืออาหารเพื่อสุขภาพ สำหรับนำไปเป็นของขวัญวันแม่ นอกจากนี้ยังมีบริการรับสั่งทำกระเช้าของขวัญด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดกิจกรรมนี้เป็นเป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถที่ทรงเจริญพระชนม์มายุ 83 พรรษา และอยากให้ทุกคนรำลึกถึงบุญคุณของแม่ในวันที่ 12 สิงหาคมนี้ ขณะเดียวกัน ยังเป็นการช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อยที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจ ทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอก ซึ่งรัฐบาลมีความตั้งใจที่จะเข้าไปแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน เพราะขณะนี้โลกเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก จะพึ่งเศรษฐกิจอย่างเดิมที่ใช้การส่งออกเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ดังนั้น จึงต้องใช้เรื่องของการเกษตรและภาคอุตสาหกรรมเข้ามามีส่วนร่วม ควบคู่กับการส่งเสริมการลงทุนตลาดทั้งในและต่างประเทศ ขณะเดียวกัน การจัดกิจกรรมดังกล่าวยังเป็นการส่งเสริมให้ผู้ผลิตได้มีโอกาสพบกับผู้บริโภคสินค้าโดยตรง ซึ่งในภูมิภาคต่าง ๆ มีความต้องการให้จัดตลาดชุมชนในพื้นที่ด้วย
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า สัปดาห์ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ได้เดินทางไปทวีปแอฟริกาเพื่อหาช่องทางในการระบายข้าว ซึ่งประสบความสำเร็จ สามารถส่งออกข้าวไปยังแอฟริกาได้เป็นจำนวนมาก แต่ติดปัญหาคือต่างประเทศไม่มั่นใจข้าวในคลังของรัฐบาล ที่มีข่าวว่าเป็นข้าวที่รับความเสียหาย ทำให้การขายข้าวหลังจากนี้จะต้องเป็นข้าวนอกคลังเท่านั้น ทั้งนี้ ประเทศในทวีปแอฟริกายังได้สอบถามผ่านมายังรัฐบาลว่า ประเทศไทยจะตั้งราคาขายข้าวที่ไม่เป็นไปตามกลไกของตลาดเหมือนในอดีตที่ผ่านมาหรือไม่ ซึ่งตนได้บอกผ่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ว่าไม่ทราบ แต่ในสมัยรัฐบาลนี้จะไม่มีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แม้จะกล่าวอ้างว่าโครงการดังกล่าวทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ แต่ก็มีปัญหาตามมาในภายหลังมาก
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดกิจกรรมนี้เป็นเป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถที่ทรงเจริญพระชนม์มายุ 83 พรรษา และอยากให้ทุกคนรำลึกถึงบุญคุณของแม่ในวันที่ 12 สิงหาคมนี้ ขณะเดียวกัน ยังเป็นการช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อยที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจ ทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอก ซึ่งรัฐบาลมีความตั้งใจที่จะเข้าไปแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน เพราะขณะนี้โลกเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก จะพึ่งเศรษฐกิจอย่างเดิมที่ใช้การส่งออกเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ดังนั้น จึงต้องใช้เรื่องของการเกษตรและภาคอุตสาหกรรมเข้ามามีส่วนร่วม ควบคู่กับการส่งเสริมการลงทุนตลาดทั้งในและต่างประเทศ ขณะเดียวกัน การจัดกิจกรรมดังกล่าวยังเป็นการส่งเสริมให้ผู้ผลิตได้มีโอกาสพบกับผู้บริโภคสินค้าโดยตรง ซึ่งในภูมิภาคต่าง ๆ มีความต้องการให้จัดตลาดชุมชนในพื้นที่ด้วย
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า สัปดาห์ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ได้เดินทางไปทวีปแอฟริกาเพื่อหาช่องทางในการระบายข้าว ซึ่งประสบความสำเร็จ สามารถส่งออกข้าวไปยังแอฟริกาได้เป็นจำนวนมาก แต่ติดปัญหาคือต่างประเทศไม่มั่นใจข้าวในคลังของรัฐบาล ที่มีข่าวว่าเป็นข้าวที่รับความเสียหาย ทำให้การขายข้าวหลังจากนี้จะต้องเป็นข้าวนอกคลังเท่านั้น ทั้งนี้ ประเทศในทวีปแอฟริกายังได้สอบถามผ่านมายังรัฐบาลว่า ประเทศไทยจะตั้งราคาขายข้าวที่ไม่เป็นไปตามกลไกของตลาดเหมือนในอดีตที่ผ่านมาหรือไม่ ซึ่งตนได้บอกผ่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ว่าไม่ทราบ แต่ในสมัยรัฐบาลนี้จะไม่มีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แม้จะกล่าวอ้างว่าโครงการดังกล่าวทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ แต่ก็มีปัญหาตามมาในภายหลังมาก
