เลขานุการมูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ ย้ำ ตั้งมูลนิธิเพื่อป้องผลประโยชน์ชาติ เดินหน้าประเทศ ชี้ ปฏิรูปก่อนเลือกตั้งไม่ใช่เลื่อนการเลือกตั้ง ก้าวข้าม “โอ๊ค” โอ้อวดเลือกตั้งกี่ครั้งก็ชนะ เชื่อ “ธรรมะย่อมชนะอธรรม” มุ่งปฏิรูปตามเจตนารมณ์ เพื่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศไทยที่แท้จริง
วันนี้ (1 ส.ค.) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขานุการมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ (ขิง) ว่า ตามคาด! เหล่าบรรดาสมุน ทั้งลูกพรรคเพื่อไทย - แกนนำ นปช. และคุณโอ๊ค เต้นเป็นจังหวะเดียวกันเหมือนเงาตามตัว กลัวจนร้องเสียงหลงปล่อยไก่ไปตาม ๆ กัน แต่ก็ต้องขอบคุณที่ช่วยพิสูจน์ให้สังคมได้เห็นถึงความสำคัญของมูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ จนต้องเรียงตัวกันออกมาสกัดกั้นขนาดนี้เห็นทีดีกรีต้องไม่ธรรมดา โฆษณาให้ฟรี ๆ
ก่อนอื่นเพื่อให้เข้าใจง่าย มูลนิธิได้แถลงจุดยืน คือ
1. การเชิญชวนประชาชนร่วมอุดมการณ์มาเป็นเจ้าของมูลนิธิ
2. ปกป้องรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนคนไทย
3. เป็นศูนย์รวบรวมข้อมูลนำเสนอการปฏิรูปตามเจตนารมณ์ของมวลมหาประชาชน
ทั้งหมดนี้ไม่เห็นมีอะไรที่เป็นปัญหา...ปัญหามันเกิดจากการบิดเบือนคำพูด ซึ่งเราต่างก็คุ้นเคยกับพฤติกรรมลักษณะนี้เป็นประจำ เพราะพวกเขาใช้บ่อยจนคนจับได้
หลายคนคงแปลกใจว่าทำไมขบวนการที่อ้างประชาธิปไตยต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกกลับหลวมตัวออกมาเรียกร้องให้จำกัดสิทธิ์ผู้อื่น แสดงว่าประชาธิปไตยเป็นเพียงฉากบังหน้าละครตบตาประชาชนเท่านั้น?
จริง ๆ เรื่อง “ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง” พวกเราพูดกันมานาน เพราะเชื่อว่าถ้าต้องการปฏิรูปอย่างแท้จริงไปหวังพึ่งนักการเมืองที่เห็นแก่ตัวคงไม่ได้ แล้วก็จะเกิดแต่ปัญหาเดิม ๆ ถ้าจะให้ปฏิรูปกระจายอำนาจ ก็คิดแต่จะกอดอำนาจเอาไว้ ถ้าจะให้ปฏิรูปเรื่องป้องกันการทุจริตก็คิดแต่จะล้างผิดให้กับตัวเองเหมือนที่ผ่านมา
แต่ปฏิรูปก่อนเลือกตั้งไม่ใช่เลื่อนการเลือกตั้ง หรือปรับโรดแมป มันไม่ใช่อำนาจของเราด้วย เป็นดุลพินิจของ คสช. เหมือนถ้าอาจารย์บอกว่าทำการบ้านให้เสร็จก่อนส่ง...มันก็หมายถึงต้องทำการบ้านให้เสร็จแล้วส่งให้ตรงเวลาไม่ได้หมายถึงให้เลื่อนกำหนดส่งการบ้าน ยกตัวอย่างแบบนี้คงชัดเจน เราอยากเห็นความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมก่อนการเลือกตั้งที่ถูกกำหนดไว้แล้ว ซึ่ง คสช. ก็พยายามที่จะขับเคลื่อนทุกอย่างให้เสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนดเพื่อเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งอยู่แล้ว
พูดถึงนักการเมือง ผมคนหนึ่งพูดเต็มปากว่าเคยเป็นนักการเมือง และชนะการเลือกตั้งมา กรรมการมูลนิธิทุกท่านก็เป็นนักการเมืองที่ชนะการเลือกตั้งมา หลายคนหลายสมัยเช่นกัน ทั้งนี้ ไม่ได้ออกมารับจ๊อบนำม็อบจนได้บำเหน็จเป็นตำแหน่ง (ตัวอย่างเก่า ๆ ก็มีเห็น ๆ กันอยู่) แต่เราก็กล้าที่จะพูดถึงนักการเมืองที่ไม่ดี นักการเมืองที่เห็นแก่ตัว เราแยกแยะชัดเจนครับ
ส่วนเรื่องที่ชอบโอ้อวดกันว่า “ยังไงก็ชนะ” ถ้าชนะแล้วโกง ชนะเพราะโกหก ชนะเพราะหลอกคนเขามา อนาคตก็แพ้ได้ สำหรับคนที่แพ้แล้วก็กลับมาชนะได้ครับ คุณโอ๊คคงจำได้ว่าสมัยคุณพ่อเป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรม แพ้หนักขนาดไหน พวกผมไม่เคยกลัวแพ้ ไม่ท้อแท้ที่ต้องต่อสู้ อันที่จริงวันนี้ไม่ควรคิดแต่เรื่องแพ้ชนะของพรรคการเมืองในการเลือกตั้ง แต่ควรคิดถึงชัยชนะของคนไทยทั้งประเทศ นั้นก็คือ ความเจริญก้าวหน้าของประเทศไทยที่แท้จริง
วันนี้เราคงต้องเดินไปข้างหน้า คนที่จ้องแต่จะสกัดกั้นขัดขวาง ดีแต่ด่า ดีแต่วิจารณ์ มีแต่จะทำให้ล้าหลัง ก็คงจะเสื่อมศรัทธาในสายตาประชาชน ขนาดคนที่เคยร่วมเดินกับพวกคุณยังเมินหายไปหลายคน มูลนิธิ จะคิด จะพูด จะทำ อย่างสร้างสรรค์เพื่อประชาชนคนไทย ในที่สุดสังคมที่เป็นธรรมจะเป็นผู้ตัดสินเองครับ
“ธรรมะย่อมชนะอธรรม”