xs
xsm
sm
md
lg

ปรับ ครม.ครบปีรอมืออาชีพ หรือเกลี่ยเก้าอี้บิ๊กกองทัพเกษียณ!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

“ยืนยันว่าไม่ได้ปรับเพราะรัฐมนตรีทำงานทำไม่ดี แต่เพราะอายุ สุขภาพ และการหมุนเวียน ซึ่งที่ผ่านมามืออาชีพทำมานานแล้ว”

“ตอนนี้ขอให้คณะรัฐมนตรีทำงานครบปีก่อน หรืออาจเร็วกว่านั้น หากสถานการณ์เป็นแบบเดิมจะยังเป็นแบบนี้ไหม วันนี้ลืมไปหมดแล้วว่าที่ผ่านมาเป็นอย่างไร”

คำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม ทำให้มีความชัดเจนแล้วว่าการปรับคณะรัฐมนตรีของเขาจะมีขึ้นในราวเดือนกันยายน หรือล่วงไปจนถึงต้นเดือนตุลาคม

ขณะเดียวกัน ยังมีความเป็นไปได้สูงที่การปรับคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้จะเป็นลักษณะปรับแบบ “ชุดใหญ่” นอกเหนือจากทีมเศรษฐกิจที่กำลังถูกวิจารณ์อย่างหนักอยู่ในขณะนี้ในเรื่องความไร้ประสิทธิภาพและไร้ผลงาน

คำพูดของ นายกรัฐมนตรีดังกล่าวข้างต้น ยังออกมาในลักษณะให้เกียรติและเกรงใจกับบรรดารัฐมนตรีที่ต้องถูกปรับออกในครั้งนี้ ว่า เพราะ “อายุมาก มีปัญหาด้านสุขภาพ” และที่สำคัญ เป็นการปรับในลักษณะหมุนเวียนกัน เนื่องจากหากพิจารณาจากระยะเวลาก็ครบหนึ่งปีเต็มถึงเวลาที่จะต้องสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันใหม่ ดูแล้วไม่เป็นการ “หักหน้า” หรือทำลายจิตใจคนที่ถูกปรับออกไปมากเกินไปนัก ยังเป็นการออกตัวให้ด้วยว่าไม่ใช่เป็นเพราะทำงานไม่ดีอะไรประเภทนั้น

แน่นอนว่า เป้าหมายที่เห็นชัดที่สุด และเกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ประจำวันของประชาชนก็ต้องชี้ไปที่ “ทีมเศรษฐกิจ” ที่นำโดย “หม่อมอุ๋ย” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ที่เกือบปีที่ผ่านมายัง “ไม่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น” แม้จะพยายามโบ้ยให้เห็นว่าเป็นเพราะปัจจัยภายนอก เรื่องเศรษฐกิจโลกตกต่ำ สหรัฐฯ ยุโรป หรือแม้แต่จีนมีปัญหา ทำให้ส่งออกไม่ได้ตามเป้า นั่นก็ใช่ แต่เสียงบ่นจากภาคเอกชน เช่น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ก็เพิ่งส่งเสียงออกมาว่า “ชักช้ายืดยาด” ตอบสนองไม่ทันการณ์ ที่ผ่านมา หากจำกันได้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังเคยหงุดหงิดกับเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณที่ล่าช้าไปไม่ถึงไหน ซึ่งหากไล่เรียงกันมาทีละกระทรวง นอกเหนือจากรองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจแล้ว ก็ต้องมาที่ รมว.คลัง สมหมาย ภาษี รมว.พาณิชย์ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรฯ ปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.คมนาคม พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.อุตสาหกรรม จีกรมณฑ์ ผาสุกวนิช รมว.ต่างประเทศ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร เป็นต้น และยังมีรัฐมนตรีคนอื่น ๆ ประเภทอยู่ไปวัน ๆไปเช้าเย็นกลับ สรุปก็คือ แทบทั้งหมดภายใต้ “รัฐบาลพิเศษ” ไม่มีใครมากวนใจ แต่ผลที่ออกมาทำได้แค่นี้เป็นใครก็ต้องผิดหวัง

อย่างไรก็ดี ถึงอย่างไรก็ต้องชื่นชม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่รับรู้ถึงความรู้สึกรอบข้างเป็นอย่างดี และเตรียมปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่ในโอกาสทำงานมาครบหนึ่งปีในเดือนกันยายนนี้ ขณะเดึยวกัน เพื่อพิจารณาจังหวะเวลาก็ต้องบอกว่า “เหมาะสม” นอกเหนือจากการปรับคนเก่าออกไปแบบ “ไม่ให้เสียหน้า” เสียน้ำใจกันแล้ว ในช่วงปลายเดือนกันยาฯถึงต้นเดือนตุลาฯเป็นช่วงที่ “เกษียณอายุของข้าราชการ” พอดี มีข้าราชการมือดีที่อาจหมายตากันเอาไว้ เช่น ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ที่จะพ้นเก้าอี้ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย โดยเฉพาะ “เพื่อนพ้องน้องพี่” ในกองทัพ ที่อาจต้องสับเปลี่ยน “หมุนเวียน” กันเข้ามา ในจำนวนนั้นก็มี ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รวมอยู่ด้วย จะให้คงเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมแค่นี้หรือว่าจะขยับขึ้นมานั่ง “ว่าการ” หรือไม่ก็น่าติดตาม รวมไปถึงตำแหน่งอื่น ๆ ที่บอกว่า “หมุนเวียน” กันหรือเปล่า

แต่ที่ไม่ต้องคาดเดากันอีกต่อไปก็คือ ในคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่จะมาถึง มีการเอ่ยชื่อ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็น่าจะมาเป็น"หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ “คนใหม่” ในตำแหน่งรองนายกฯ นั่นแหละ

ดังนั้น หากพิจารณาตามรูปการณ์แล้วก็เข้าใจได้ว่าการปรับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ในเดือนกันยายนต้องเป็นการ “ปรับใหญ่” เป็นการหมุนเวียนตำแหน่ง และน่าจะแบ่งเป็น “สองส่วน” ส่วนแรกก็เป็น “ทีมเศรษฐกิจ” ที่คงโละกันยกชุด ขณะเดียวกัน ใน “ส่วนที่สอง” ก็คงต้องสงวนเอาไว้สำหรับ “คนไว้ใจได้” จากกองทัพเข้ามา ที่สำคัญ เที่ยวนี้ยังต้องปรับเพื่อ “กระชับอำนาจ” ให้ตัวเองเต็มร้อยแบบไม่ต้อง “สั่งผ่าน” เหมือนก่อนอีกแล้ว !!
กำลังโหลดความคิดเห็น