ว่าที่อดีตพระสุเทพ เผยพรุ่งนี้ลาสิกขา 6 โมงเช้า ก่อนทำบุญเลี้ยงพระ 3 วัน เข้า กทม. 30 ก.ค.เพื่อแถลงข่าวร่วม กก.มูลนิธิมวลมหาประชาชน ย้ำแนวทางมุ่งปฏิรูป ปัดนั่งสภาขับเคลื่อนฯ แต่คนอื่นไม่รู้ ยันไม่เคยต่อรอง มองปรับ ครม.เรื่องธรรมดา ยึดติดไม่ได้ ชี้ไร้นักการเมืองเก่าร่วมเรื่องดี ยก “ประยุทธ์” ทำดีมาตลอด ลั่นไม่ใช่เวลานักการเมือง ถ้าดีจะยึดอำนาจเพื่อ รับไม่ให้ทะเลาะกันถูกแล้ว
วันนี้ (27 ก.ค.) ที่วัดธารน้ำไหล สวนโมกขพลาราม จ.สุราษฎร์ธานี พระสุเทพ ปภากโร แกนนำ กปปส. กล่าวว่า จากที่ได้บวชมาตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. 2557 มาจนถึงวันนี้รวมเป็นระยะเวลา 1 ปี 12 วัน รับกิจนิมนต์ไปได้ครบทุกจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ การลาสิกขาที่ในวันที่ 28 ก.ค. 2558 จะมีขึ้นในเวลาประมาณ 06.00 น. ที่วัดไตรธรรมรราม อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ที่โดยมีพระธรรมวิมลโมฬี เจ้าคณะภาค 16 เป็นเจ้าอาวาสวัดและเป็นพระอุปัชฌาย์ในการบวช เป็นทำผู้พิธีในการลาสิกขา โดยหลังจากที่ลาสิกลาแล้วก็จะอยู่ทำบุญตักบาตร เลี้ยงพระเป็นเวลา 3 วันในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานีก่อน และในวันที่ 30 ก.ค.ก็จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเปิดแถลงข่าวร่วมกับกรรมการมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ถึงอนาคตว่าจะทำอะไรบ้าง ในเวลาประมาณ 11.00 น.ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ย่านราชประสงค์ ในวันนี้จึงยังคงไม่สามารถตอบข้อซักถามอะไรมาก และหากใครต้องการที่จะซักถามให้ไปถามได้ในวันแถลงข่าวดังกล่าว
เมื่อถามว่า มูลนิธิฯจะเป็นส่วนหนึ่งของสภาขับเคลื่อนฯ ได้หรือไม่ พระสุเทพกล่าวว่า เป็นส่วนหนึ่งของภาคประชาชน แต่แนวทางของมูลนิธิฯ จะเน้นผลักดันในเรื่องการปฏิรูปประเทศ ส่วนทางราชการจะทำอย่างไรก็แล้วแต่ อะไรที่เราสนับสนุนได้ก็สนับสนุน เมื่อถามต่อว่าหากมีการเชิญคนของมูลนิธิฯ เข้าไปเป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อน พระสุเทพกล่าวว่า นอกจากตัวเราแล้วคงไม่เอา แต่หากสมาชิกของมูลนิธิฯ ก็เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ยินดีทั้งนั้นยกเว้นตัวเรา เพราะประกาศไว้ว่า หลังการต่อสู้เพื่อชาติบ้านเมืองแล้วเราคงไม่ไปรับตำแหน่งใดๆ และเรื่องของมูลนิธิฯ จะไม่เกี่ยวกับกับพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนแกนนำในมูลนิธิฯที่เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ใครจะไปไหนก็เป็นสิทธิแต่ละคน กับสภาขับเคลื่อนฯเอง ทางมูลนิธิฯไม่เคยต่อรองว่าจะต้องมีคนของมูลนิธิฯ เข้าไปอยู่ และไม่เคยคิด
พระสุเทพยังกล่าวถึงการปรับ ครม.ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าการจะปรับ ครม.ในเวลานี้ก็เป็นเรื่องธรรมดาปกติ ในทางพระมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องที่สามารถแก้ไขปรับปรุงเปลี่ยนไปได้ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ ยึดติดไม่ได้ ส่วนที่จะไม่มีอดีตนักการเมืองเข้าร่วมใน ครม.ชุดใหม่ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก
“อาตมาถึงได้เชียร์นายกฯ ประยุทธ์มาตลอด เพราะท่านทำอะไรดีๆ มาตลอด ท่านตัดสินใจถูกต้อง ปรับ ครม.ไม่ต้องเอานักการเมืองเข้าไป ถ้ามันเก่งแล้วท่านต้องมายึดอำนาจต้องมาปฏิวัติทำไม นักการเมืองมันพาบ้านเมืองไปไม่ได้ เกิดความวุ่นวายเสียหาย เมื่อมายึดอำนาจแล้วท่านจะต้องใช้อำนาจพิเศษให้เต็มที่ เพราะอำนาจที่มีตามปกติที่นักการเมืองเคยใช้มันใช้ไม่ได้ วันนี้อยู่ในสถานการณ์พิเศษ รัฐบาลต้องใช้อำนาจพิเศษ มาตรการพิเศษ การที่จะปรับ ครม.ทำได้ เมื่อตัดใจไม่เอานักการเมืองต้องขอชื่นชม สาธุ เลยว่าคิดถูกแล้ว ไม่ใช่เวลาของนักการเมือง” พระสุเทพกล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวในงานหนึ่งว่า ทุกฝ่ายควรหยุดทะเลาะกันแล้วมองไปข้างหน้านั้น พระสุเทพกล่าวว่า ก็เป็นเรื่องถูกต้องแล้ว เพราะถ้ามัวทะเลาะกันแล้วประเทศจะเดินหน้าได้อย่างไร ต้องหยุดกันได้แล้ว