อดีตแกนนำและแนวร่วมพันธมิตรฯ ชี้แจงเงินบริจาคผ่านบัญชีสู้คดี 9.5 ล้าน พร้อมขออภัยกรณีเงินวางค่าธรรมเนียมศาลในชั้นฎีกาคลาดเคลื่อน เพราะฝ่ายโจทก์ไม่ได้ยื่นอุทธรณ์ แต่ยังมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายคดีอื่น ทั้งวิทยุการบิน การบินไทย คดีอาญา รวมทั้งคดี "ทักษิณ" ฟ้องหมิ่นประมาท หากต้องการเงินคืนนำหลักฐานโอนเงินขอรับคืนได้ภายใน 20 ส.ค. และผู้พำนักต่างประเทศถึง 19 ก.ย. ที่มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน
วันนี้ (20 ก.ค.) อดีตแกนนำและแนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ออกคำแถลง กรณีคดี ทอท.ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 13 อดีตแกนนำและแนวร่วม ระบุว่า ยอดเงินที่พี่น้องประชาชนบริจาคผ่านบัญชีมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินเพื่อพันธมิตรสู้คดี สำหรับคดีแพ่ง ณ วันที่ 20 ก.ค. สรุปยอดสุทธิ 9,527,905.86 บาท ในส่วนของเงินวางค่าธรรมเนียมศาลในชั้นฎีกา เดิมทีได้มีการแจ้งจากทนายที่รับผิดชอบคดีว่าต้องใช้ประมาณ 7 ล้านบาทนั้น จริงๆ จะใช้แค่ประมาณ 7 แสนบาท ซึ่งเกิดจากการคิดคำนวณที่ผิดพลาด ประกอบกับข้อเท็จจริงในคดีเปลี่ยนแปลงเนื่องจากฝ่ายโจทก์ไม่ได้ยื่นอุทธรณ์ ทนายความต้องกราบขออภัยพี่น้องประชาชนในความผิดพลาดดังกล่าว
ทั้งนี้ บรรดาแกนนำซึ่งเป็นจำเลยในคดีฯ มีความจำเป็นที่จะต้องใช้จ่ายเพื่อการต่อสู้ดดีเป็นจำนวนมาก พี่น้องได้กรุณาบริจาคเงินมานั้น พวกเรากราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง หากประสงค์จะขอรับเงินคืนด้วยเหตุใดก็ตาม กรุณานำหลักฐานการโอนเงินมาขอรับคืนได้ภายใน 30 วัน ถึงวันที่ 20 ส.ค. และภายใน 60 วัน กรณีที่พำนักอยู่ต่างประเทศ ถึงวันที่ 19 ก.ย. โดยติดต่อสอบถามได้ที่ มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน นายพิภพ ธงไชย นายศิริชัย ไม้งาม
หากพ้นเวลาดังกล่าว ยอดเงินที่เหลือทั้งหมด ทางมูลนิธิฯ จะได้นำไปใช้จ่ายในคดีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับพันธมิตรฯ เช่น คดีวิทยุการบิน ที่ฟ้องเรียกค่าเสียหายจำนวน 103 ล้านบาท, คดีบริษัท การบินไทย ที่มีการฟ้องเรียกค่าเสียหายในคดีแพ่ง 575 ล้านบาท รวมทั้งค่าทนายความ ค่าประกันตัวในคดีอาญาอื่นๆ อาทิ คดีชุมนุมทำเนียบรัฐบาล คดีเอ็นบีที คดีชุมนุมหน้ารัฐสภา คดีชุมนุมหน้าสนามบินดอนเมืองและหน้าสนามบินสุวรรณภูมิ คดีฐานหมิ่นประมาท โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นโจทก์ ต่อไป
ส่วนเงินบริจาคที่เหลือจากการวางศาลเพื่อยื่นฎีกา และค่าใช้จ่ายในคดีต่างๆ แล้ว จะดำเนินการเปิดบัญชีไว้ในนาม “มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เพื่อพันธมิตรสู้คดีแพ่งและอาญา” มีผู้ลงนาม 3 คน คือ นายศิริชัย ไม้งาม, นางมาลีรัตน์ แก้วก่า, นายศรันญู วงศ์กระจ่าง โดยมีผู้อำนาจลงนามในการเบิกจ่ายเงินจากบัญชี คือจำนวนสองในสาม และนายพิภพ ธงไชย เป็นผู้อนุมัติ
คำแถลง
กรณีคดี ทอท.ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 13 อดีตแกนนำและแนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
1. ยอดเงินที่พี่น้องประชาชนบริจาคผ่านบัญชีมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินเพื่อพันธมิตรสู้คดี สำหรับคดีแพ่ง ณ วันที่ 20 กรกฎาคม 2558 สรุปยอดสุทธิ 9,527,905.86 บาท (เก้าล้านห้าแสนสองหมื่นเจ็ดพันเก้าร้อยห้าบาทแปดสิบหกสตางค์)
2. ในส่วนของเงินวางค่าธรรมเนียมศาลในชั้นฎีกา เดิมทีได้มีการแจ้งจากทนายที่รับผิดชอบคดีว่าต้องใช้ประมาณ 7 ล้านบาทนั้น จริงๆ จะใช้แค่ประมาณ 7 แสนบาท ซึ่งเกิดจากการคิดคำนวณที่ผิดพลาด ประกอบกับข้อเท็จจริงในคดีเปลี่ยนแปลงเนื่องจากฝ่ายโจทก์ไม่ได้ยื่นอุทธรณ์ จึงทำให้ค่าใช้จ่ายเปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ตาม ทนายความต้องกราบขออภัยพี่น้องประชาชนในความผิดพลาดดังกล่าว
3. อย่างไรก็ตาม หลังจากที่พี่น้องได้ทราบข่าวเกี่ยวกับคดีดังกล่าวแล้ว และบรรดาแกนนำซึ่งเป็นจำเลยในคดีฯ มีความจำเป็นที่จะต้องใช้จ่ายเพื่อการต่อสู้ดดีเป็นจำนวนมาก พี่น้องได้กรุณาบริจาคเงินมานั้น พวกเรากราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง หากพี่น้องประสงค์จะขอรับเงินคืนด้วยเหตุใดก็ตาม กรุณานำหลักฐานการโอนเงินมาขอรับคืนได้ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2558 ถึงวันที่ 20 สิงหาคม 2558 และภายใน 60 วัน กรณีที่พี่น้องพำนักอยู่ต่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2558 ถึงวันที่ 19 กันยายน 2558 โดยติดต่อสอบถามได้ที่ มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน หรือนายพิภพ ธงไชย หรือนายศิริชัย ไม้งาม
ทั้งนี้ หากพ้นเวลาดังกล่าวข้างต้นแล้ว ยอดเงินที่เหลือทั้งหมด ทางมูลนิธิฯ จะได้นำไปใช้จ่ายในคดีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับพันธมิตรฯ เช่น คดีวิทยุการบิน คดีบริษัทการบินไทย ที่มีการฟ้องเรียกค่าเสียหายในคดีแพ่งรวมทั้งค่าทนายความ ค่าประกันตัวในคดีอาญาอื่นๆ ต่อไป
4. สำหรับการใช้จ่ายเบื้องต้นนอกเหนือจากค่าฤชาธรรมเนียมวางศาลชั้นฎีกาในคดีแพ่ง ที่ บริษัท การท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) เป็นโจทก์ ประมาณ 7 แสนบาทแล้ว ยังมีความจำเป็นที่ต้องใช้ในคดีอื่นๆ เบื้องต้น ดังนี้
4.1 คดีแพ่ง
- คดี บริษัท วิทยุการบิน จำกัด เป็นโจทก์ ฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายกับจำเลย 14 คน เป็นทุนทรัพย์จำนวน 103,483,141.80 บาท(หนึ่งร้อยสามล้านสี่แสนแปดหมื่นสามพันหนึ่งร้อยสี่สิบเอ็ดบาทแปดสิบสตางค์)
- คดี บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) เป็นโจทก์ ฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายกับจำเลย 36 คน เป็นทุนทรัพย์จำนวน 575,229,095.83 ล้านบาท(ห้าร้อยเจ็ดสิบห้าล้านสองแสนสองหมื่นเก้าพันเก้าสิบห้าบาทแปดสิบสามสตางค์)
4.2 คดีอาญา
- คดีชุมนุมทำเนียบรัฐบาล
- คดีเอ็นบีที
- คดีชุมนุมหน้ารัฐสภา
- คดีชุมนุมหน้าสนามบินดอนเมืองและหน้าสนามบินสุวรรณภูมิ
- คดีฐานหมิ่นประมาท โดย พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร เป็นโจทก์
4.3 ค่าวางหลักทรัพย์ประกันตัวจำเลยในคดีอาญาต่างๆ
4.4 ค่าทนายความ
4.5 ค่าใช้จ่ายอื่นๆ
5. ส่วนเงินบริจาคที่เหลือจากการวางศาลเพื่อยื่นฎีกา และค่าใช้จ่ายในคดีต่างๆ แล้ว จะดำเนินการเปิดบัญชีไว้ในนาม “มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เพื่อพันธมิตรสู้คดีแพ่งและอาญา” มีผู้ลงนาม 3 คน คือ นายศิริชัย ไม้งาม, นางมาลีรัตน์ แก้วก่า, นายศรันญู วงศ์กระจ่าง โดยมีผู้อำนาจลงนามในการเบิกจ่ายเงินจากบัญชี คือจำนวนสองในสาม และนายพิภพ ธงไชย เป็นผู้อนุมัติ
สุดท้ายนี้พวกเราต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้แสดงน้ำใจและให้กำลังใจตลอดมา
ด้วยจิตคารวะ
อดีตแกนนำและแนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
20 กรกฎาคม 2558
วันนี้ (20 ก.ค.) อดีตแกนนำและแนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ออกคำแถลง กรณีคดี ทอท.ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 13 อดีตแกนนำและแนวร่วม ระบุว่า ยอดเงินที่พี่น้องประชาชนบริจาคผ่านบัญชีมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินเพื่อพันธมิตรสู้คดี สำหรับคดีแพ่ง ณ วันที่ 20 ก.ค. สรุปยอดสุทธิ 9,527,905.86 บาท ในส่วนของเงินวางค่าธรรมเนียมศาลในชั้นฎีกา เดิมทีได้มีการแจ้งจากทนายที่รับผิดชอบคดีว่าต้องใช้ประมาณ 7 ล้านบาทนั้น จริงๆ จะใช้แค่ประมาณ 7 แสนบาท ซึ่งเกิดจากการคิดคำนวณที่ผิดพลาด ประกอบกับข้อเท็จจริงในคดีเปลี่ยนแปลงเนื่องจากฝ่ายโจทก์ไม่ได้ยื่นอุทธรณ์ ทนายความต้องกราบขออภัยพี่น้องประชาชนในความผิดพลาดดังกล่าว
ทั้งนี้ บรรดาแกนนำซึ่งเป็นจำเลยในคดีฯ มีความจำเป็นที่จะต้องใช้จ่ายเพื่อการต่อสู้ดดีเป็นจำนวนมาก พี่น้องได้กรุณาบริจาคเงินมานั้น พวกเรากราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง หากประสงค์จะขอรับเงินคืนด้วยเหตุใดก็ตาม กรุณานำหลักฐานการโอนเงินมาขอรับคืนได้ภายใน 30 วัน ถึงวันที่ 20 ส.ค. และภายใน 60 วัน กรณีที่พำนักอยู่ต่างประเทศ ถึงวันที่ 19 ก.ย. โดยติดต่อสอบถามได้ที่ มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน นายพิภพ ธงไชย นายศิริชัย ไม้งาม
หากพ้นเวลาดังกล่าว ยอดเงินที่เหลือทั้งหมด ทางมูลนิธิฯ จะได้นำไปใช้จ่ายในคดีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับพันธมิตรฯ เช่น คดีวิทยุการบิน ที่ฟ้องเรียกค่าเสียหายจำนวน 103 ล้านบาท, คดีบริษัท การบินไทย ที่มีการฟ้องเรียกค่าเสียหายในคดีแพ่ง 575 ล้านบาท รวมทั้งค่าทนายความ ค่าประกันตัวในคดีอาญาอื่นๆ อาทิ คดีชุมนุมทำเนียบรัฐบาล คดีเอ็นบีที คดีชุมนุมหน้ารัฐสภา คดีชุมนุมหน้าสนามบินดอนเมืองและหน้าสนามบินสุวรรณภูมิ คดีฐานหมิ่นประมาท โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นโจทก์ ต่อไป
ส่วนเงินบริจาคที่เหลือจากการวางศาลเพื่อยื่นฎีกา และค่าใช้จ่ายในคดีต่างๆ แล้ว จะดำเนินการเปิดบัญชีไว้ในนาม “มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เพื่อพันธมิตรสู้คดีแพ่งและอาญา” มีผู้ลงนาม 3 คน คือ นายศิริชัย ไม้งาม, นางมาลีรัตน์ แก้วก่า, นายศรันญู วงศ์กระจ่าง โดยมีผู้อำนาจลงนามในการเบิกจ่ายเงินจากบัญชี คือจำนวนสองในสาม และนายพิภพ ธงไชย เป็นผู้อนุมัติ
คำแถลง
กรณีคดี ทอท.ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 13 อดีตแกนนำและแนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
1. ยอดเงินที่พี่น้องประชาชนบริจาคผ่านบัญชีมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินเพื่อพันธมิตรสู้คดี สำหรับคดีแพ่ง ณ วันที่ 20 กรกฎาคม 2558 สรุปยอดสุทธิ 9,527,905.86 บาท (เก้าล้านห้าแสนสองหมื่นเจ็ดพันเก้าร้อยห้าบาทแปดสิบหกสตางค์)
2. ในส่วนของเงินวางค่าธรรมเนียมศาลในชั้นฎีกา เดิมทีได้มีการแจ้งจากทนายที่รับผิดชอบคดีว่าต้องใช้ประมาณ 7 ล้านบาทนั้น จริงๆ จะใช้แค่ประมาณ 7 แสนบาท ซึ่งเกิดจากการคิดคำนวณที่ผิดพลาด ประกอบกับข้อเท็จจริงในคดีเปลี่ยนแปลงเนื่องจากฝ่ายโจทก์ไม่ได้ยื่นอุทธรณ์ จึงทำให้ค่าใช้จ่ายเปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ตาม ทนายความต้องกราบขออภัยพี่น้องประชาชนในความผิดพลาดดังกล่าว
3. อย่างไรก็ตาม หลังจากที่พี่น้องได้ทราบข่าวเกี่ยวกับคดีดังกล่าวแล้ว และบรรดาแกนนำซึ่งเป็นจำเลยในคดีฯ มีความจำเป็นที่จะต้องใช้จ่ายเพื่อการต่อสู้ดดีเป็นจำนวนมาก พี่น้องได้กรุณาบริจาคเงินมานั้น พวกเรากราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง หากพี่น้องประสงค์จะขอรับเงินคืนด้วยเหตุใดก็ตาม กรุณานำหลักฐานการโอนเงินมาขอรับคืนได้ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2558 ถึงวันที่ 20 สิงหาคม 2558 และภายใน 60 วัน กรณีที่พี่น้องพำนักอยู่ต่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2558 ถึงวันที่ 19 กันยายน 2558 โดยติดต่อสอบถามได้ที่ มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน หรือนายพิภพ ธงไชย หรือนายศิริชัย ไม้งาม
ทั้งนี้ หากพ้นเวลาดังกล่าวข้างต้นแล้ว ยอดเงินที่เหลือทั้งหมด ทางมูลนิธิฯ จะได้นำไปใช้จ่ายในคดีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับพันธมิตรฯ เช่น คดีวิทยุการบิน คดีบริษัทการบินไทย ที่มีการฟ้องเรียกค่าเสียหายในคดีแพ่งรวมทั้งค่าทนายความ ค่าประกันตัวในคดีอาญาอื่นๆ ต่อไป
4. สำหรับการใช้จ่ายเบื้องต้นนอกเหนือจากค่าฤชาธรรมเนียมวางศาลชั้นฎีกาในคดีแพ่ง ที่ บริษัท การท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) เป็นโจทก์ ประมาณ 7 แสนบาทแล้ว ยังมีความจำเป็นที่ต้องใช้ในคดีอื่นๆ เบื้องต้น ดังนี้
4.1 คดีแพ่ง
- คดี บริษัท วิทยุการบิน จำกัด เป็นโจทก์ ฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายกับจำเลย 14 คน เป็นทุนทรัพย์จำนวน 103,483,141.80 บาท(หนึ่งร้อยสามล้านสี่แสนแปดหมื่นสามพันหนึ่งร้อยสี่สิบเอ็ดบาทแปดสิบสตางค์)
- คดี บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) เป็นโจทก์ ฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายกับจำเลย 36 คน เป็นทุนทรัพย์จำนวน 575,229,095.83 ล้านบาท(ห้าร้อยเจ็ดสิบห้าล้านสองแสนสองหมื่นเก้าพันเก้าสิบห้าบาทแปดสิบสามสตางค์)
4.2 คดีอาญา
- คดีชุมนุมทำเนียบรัฐบาล
- คดีเอ็นบีที
- คดีชุมนุมหน้ารัฐสภา
- คดีชุมนุมหน้าสนามบินดอนเมืองและหน้าสนามบินสุวรรณภูมิ
- คดีฐานหมิ่นประมาท โดย พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร เป็นโจทก์
4.3 ค่าวางหลักทรัพย์ประกันตัวจำเลยในคดีอาญาต่างๆ
4.4 ค่าทนายความ
4.5 ค่าใช้จ่ายอื่นๆ
5. ส่วนเงินบริจาคที่เหลือจากการวางศาลเพื่อยื่นฎีกา และค่าใช้จ่ายในคดีต่างๆ แล้ว จะดำเนินการเปิดบัญชีไว้ในนาม “มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เพื่อพันธมิตรสู้คดีแพ่งและอาญา” มีผู้ลงนาม 3 คน คือ นายศิริชัย ไม้งาม, นางมาลีรัตน์ แก้วก่า, นายศรันญู วงศ์กระจ่าง โดยมีผู้อำนาจลงนามในการเบิกจ่ายเงินจากบัญชี คือจำนวนสองในสาม และนายพิภพ ธงไชย เป็นผู้อนุมัติ
สุดท้ายนี้พวกเราต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้แสดงน้ำใจและให้กำลังใจตลอดมา
ด้วยจิตคารวะ
อดีตแกนนำและแนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
20 กรกฎาคม 2558