วิป สปช. เผย ข่าวตั้ง รบ.แห่งชาติ สะท้อนความนิยม รบ.ประยุทธ์ ลดลง การทำงานยังไม่ตอบโจทย์ ปชช. แม้ให้โอกาสมาตลอด ทนไม่ไหวปัญหา ศก. ฝ่ายตรงข้ามร่วมกันโจมตี แนะ ปรับองคาพยพกู้ศรัทธาให้ ปชช. เชื่อมั่นขึ้น จี้จุดเปลี่ยนทีม ศก. เชื่อ นายกฯ - ครม. มีความตั้งใจ แต่สิ้นศรัทธาอยู่ยาก
วันนี้ (19 ก.ค.) นายวันชัย สอนศิริ โฆษกวิปสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวให้ตั้งรัฐบาลแห่งชาติ หรือเรียกร้องให้มีการปรับคณะรัฐมนตรี สะท้อนว่า 1. ความนิยมชมชอบในรัฐบาลของพลเอก ประยุทธ์ เริ่มจะลดน้อยถอยลง ประกอบกับโพลในสำนักต่าง ๆ ก็ชี้ชัดว่า คะแนนนิยมเริ่มลดจากวันแรก ๆ มาถึงวันนี้มีมากขึ้น ๆ และยังเป็นไปในลักษณะอย่างนี้ก็มีทีท่าว่าคะแนนจะลดลงไปเรื่อย ๆ
2. การทำงานของรัฐบาลในระยะเวลาที่ผ่านมา จนกระทั่งถึงขณะนี้ ยังไม่สามารถสนองความต้องการและความรู้สึกของประชาชนที่คาดหวังไว้ได้ โดยประชาชนคาดหวังและฝากความหวังไว้กับรัฐบาลชุดนี้มาก ว่า จะแก้ปัญหาของประเทศได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด รวดเร็วดีกว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่จนกระทั่ง ณ วันนี้ ประชาชนเริ่มจะมีความผิดหวังจากเล็ก ๆ และจะใหญ่ขึ้น ๆ จนกระทั่งอาจจะเสียความรู้สึก
3. ประชาชนให้โอกาสในการทำงานของรัฐบาลชุดนี้อย่างเต็มที่เต็มกำลัง แม้จะได้บ้างไม่ได้บ้าง สำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้าง ก็ยังพอทนและให้โอกาสตลอดมา และถึงเวลานี้ประชาชนชักจะเริ่มมีความรู้สึกว่าให้โอกาสมาเพียงพอแล้ว แต่ยังไม่ค่อยไปถึงไหน ยังไม่ได้ดังใจ ชักจะไม่อยากให้โอกาสอีกต่อไปแล้ว
4. มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้องของประชาชนที่กระทบอยู่ทุกวี่ทุกวัน แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามแก้และแถลงว่าทำโน่นทำนี่ มีปัจจัยทั้งภายนอกภายในแต่คนก็ยังมีความรู้สึกว่าการทำมาค้าขายไม่ดี การจับจ่ายใช้สอยก็ไม่ค่อยมี เงินก็หายากลำบากเกี่ยวกับเรื่องทำมาหากิน นับวัน ๆ ก็จะกระทบแรงขึ้น ไป ๆ มา ๆ ก็เป็นตัวเร่งเร้าและเรียกร้องว่าชักจะให้โอกาสและรอต่อไปไม่ไหวแล้ว ทั้ง ๆ ที่อยากให้รัฐบาลนี้อยู่ดูแลแก้ปัญหาต่อไปแต่ท้องมันหิว เงินในกระเป๋าไม่มีมันก็ชักจะไม่ไหว
5. ประกอบกับฝ่ายตรงข้ามก็ปลุกกระแส ขยายผลโจมตี เคลื่อนไหวทำลาย ดิสเครดิต แรก ๆ ก็ไม่เอาด้วย แต่ชักนานวันกับปัญหาที่ปรากฏก็ชักจะร่วมด้วยช่วยกันเขย่ารุกเร้าให้มีการเปลี่ยนแปลง
6. นี่แหละน่าจะเป็นที่มาของคนที่มีความปรารถนาดี รวมทั้งประสงค์ที่เอออวยจะช่วยรัฐบาลที่จะต้องรีบแก้ความรู้สึกของประชาชน กระชากศรัทธากลับมา ดึงความไว้วางใจให้โอกาสให้เวลากับรัฐบาลต่อไป โดยจะต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงองคาพยพในการทำงานเพื่อสนองความต้องการและความรู้สึกของประชาชน ว่า รัฐบาลก็ไม่นิ่งนอนใจ ก็รีบปรับรีบเปลี่ยนคนมาทำงานเสียใหม่ แม้ว่าคนเก่าจะไม่ได้มีอะไรผิดเลยก็ตาม เป็นการสร้างความรู้สึกให้กับประชาชน การเมืองเป็นเรื่องของการบริหารความรู้สึกของประชาชน ทำแล้วเปลี่ยนแล้วประชาชนเขามีความรู้สึกดีก็ไม่มีอะไรเสียหาย
นายวันชัย กล่าวว่า เชื่อว่า นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีทุกคน มีความตั้งใจและทุ่มเททำงานกันอย่างจริงจัง แม้จะไม่ใช่นักการเมืองและหวังจะเล่นการเมืองต่อไป แต่เมื่อท่านมาทำงานการเมืองแล้วต้องสนองความรู้สึกและบริหารความรู้สึกของประชาชนไว้ให้ได้ เพราะเมื่อวันใดประชาชนสิ้นหวังสิ้นศรัทธาเสียแล้วก็อยู่ยากและอาจจะอยู่ไม่ได้ในที่สุด
ทั้งนี้ เห็นว่า ทั้งนายกฯและภาพรวมทั้งหมดตกลง ในการปรับเปลี่ยน ครม. แก้ทำงานไม่ได้ทั้งหมด แต่เป็นเรื่องการบริหารความรู้สึก และทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นมากขึ้น เพราะขณะนี้ลดน้อยถอยลง ตราบใดที่ประชาชนหมดความเชิ่อมั่น และความเชื่อถือในตัวรัฐบาล แม้ว่าเก่งก็อยู่ยาก ยิ่งมีปัญหารุมเร้าแก้ไม่ได้ยิ่งกระทบต่อรัฐบาลมากขึ้น แต่ถ้าปรับเปลี่ยนก็จะปรับความรู้สึกให้ประชาชนเพื่อให้ทีมงานมีความกระฉับกระเฉง เป็นการสนองความต้องการ หรือความรู้สึกของประชาชน
“ปืนอำนาจจะมีพลังขนาดไหนถ้าประชาชนหมดความศรัทธาเสียแล้วก็ช่วยอะไรไม่ได้ จึงควรเปลี่ยนแปลงเรื่องคนทำงานเศรษฐกิจทั้งหมด เพื่อให้เห็นว่ารัฐบาลไม่เพิกเฉยต่อการเรียกร้องของประชาชน ซึ่งไม่ได้หมายความว่า รัฐมนตรีเหล่านั้นทำผิด แต่ถ้าไม่ทำอะไรเลยศรัทธาประชาชนจะลดน้อยลงเรื่อย ๆ ทำให้เกิดปัญหาทุกส่วน โรดแมปก็จะเดินไปไม่ถึง เพราะศรัทธาประชาชนไม่เอาด้วย” นายวันชัย กล่าว