เกาะกระแส
00 หลังจากหยั่งกระแสรอบด้านแล้วคงยังไม่เหมาะที่จะดันกันในตอนนี้ "พี่ใหญ่" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม ที่คุมเกมเรื่องเรือดำน้ำของกองทัพเรือ มูลค่า 3.6 หมื่นล้านบาทจึงต้อง"สั่งถอย" (ชั่วคราว)ออกไปก่อน เพราะเวลานี้ชาวบ้านยังเดือดร้อนเรื่องภัยแล้ง แค่น้ำกินน้ำใช้ยังไม่มี ปัญหาปากท้องกระหน่ำเข้ามาอีก ขืนทะเร่อทะร่าดันเข้าไปมีหวัง"อาจพังกันแบบไม่คาดหมาย"ทั้งขบวน"ทั้งพี่ทั้งน้อง"เที่ยวนี้ก็เป็นได้ ดังนั้นจึงต้องเก็บเข้าลิ้นชักรอจังหวะเอาไว้ก่อน ประเภทรอให้เรื่องเงียบ ก็ค่อยดันมามาแบบวาระจรอนุมัติเสร็จก็เก็บเงียบไม่แถลงข่าวเหมือนกับหลายเรื่องที่อยู่ในโหมด"อ่อนไหว"ก่อนหน้านี้ไงละ ดังนั้นถ้าให้เข้าใจตรงกันก็คือ นาทีนี้เบรกชั่วคราวรอจังหวะเอาไว้ก่อน ส่วนจะยกเลิกแบบถาวรนั้นคงไม่มีทางหรอก !!
00 เรื่อง "เสี่ยแจ๊ด"พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผบชน.ที่ถูกจับที่ญี่ปุ่นฐานพกปืนขึ้นเครื่องบิน ถูกปล่อยตัวมาถึงไทยเรียบร้อยแล้วหลังจากถูกควบคุมตัวครบกำหยด 20 วัน และถูกสั่งห้ามเข้าญี่ปุ่นเป็นเวลา 1 ปี กลายเป็น"บุคคลไม่พึงปราถนา"ของที่นั่นเรียบร้อยแล้ว แต่สำหรับเมืองไทยก็ยังมีคนต้อนรับครับ ส่วนที่พูดกันแบบขึงขังว่าจะมีการสอบสวนเชิงลึกเชิงตื้นอะไรนั่น รวมไปถึงคำพูดของ รองนายกฯด้านความมั่นคงที่คุมตำรวจอย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ว่าต้องว่าไปตามกม.นั้นก็ฝันไปเถอะ "ขี้หมากองเดียว"ยังไม่กล้ารองเลย ผ่าเถอะ !!
00 นับวันยิ่งเผยตัวตนในแบบ "สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง"ชัดเจนขึ้นทุกวัน ยิ่งใกล้ถึงวันเกษียณฯก็ยิ่งได้เห็นคำพูดและพฤติกรรมบางอย่างที่คาดไม่ถึง แต่ถ้าพูดกันแบบเข้าใจความหมายตรงๆก็คือ "ท่าดีทีเหลว"หมดความน่าเชื่อถือไปแทบหมดสิ้นแล้ว แต่ขณะเดียวกันก็คาดหมายได้ไม่ยากว่าคนแบบนี้จะเติบโตในเส้นทางการเมืองในวันหน้า !!
00 แต่สำหรับข่าวร้ายยิ่งกว่าเมื่อได้ยินจากปากของ รมว.คลัง สมหมาย ภาษี ที่บอกว่าในครึ่งปีหลังเศรษฐกิจจะหดตัวยิ่งกว่าครึ่งปีแรก ทำให้น่าห่วงว่าจีดีพีทั้งปีจะโตไม่ถึงร้อยละ 3 แบบนี้ก็ยุ่งละซีพี่น้อง ตอนแรกหลายฝ่ายพยายามมองในแง่ดีปลอบใจตัวเองว่าครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก เจอแบบนี้ก็จุกเลยหละ จะว่าไปแล้วที่จริงสาเหตุหลักที่ร่วงเร็วน่าจะมาจากค่าแรงวันละ 300 บาทเท่ากันทั่วประเทศนั่นแหละ แม้จะมีเรื่องประชานิยมอื่นๆมาผสมโรง แต่เรื่องค่าแรงนี่แหละทำให้ตายกันหมด โดยเฉพาะพวกธุรกิจเล็กๆ ที่เจ๊งระเนระนาด การแข่งขันสู้ไม่ได้ ถือเป็นข่าวร้ายที่เตรียมรับกันให้ดีแล้วกัน เพราะตราบใดที่อัตราขยายตัวไม่ถึงร้อยละ 3 นั่นหมายถึงการจ้างงานใหม่จะไม่เกิด คนจะตกงานเพิ่ม !!
00 ภัยแล้งคงหนักหนาสาหัสไปอีกนานนับเดือน เวลานี้สิ่งที่ทำได้ก็คือยืดเวลาการใช้น้ำแบบประหยัดมากขึ้นเรื่อยๆ และภาวนาให้ฝนตกลงมาเร็วที่สุด แต่ถ้าปลายเดือนสิงหาคมแล้วยังไม่มีพายุฝนถล่มแบบห่าใหญ่ๆก็เห็นท่ายุ่งแน่ แต่ขณะเดียวกันสิ่งที่ทำได้ก็คือเหมือนอย่างที่พูดกันว่าต้อง"พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส"นั่นคือช่วงน้ำแล้งแห้งขอดคลองแบบนี้ต้องรีบขุดลอกคลอง ลอกสันดอนที่ตื้นเขิน เพราะทำได้ง่ายกว่าช่วงที่มีน้ำ ขณะเดียวกันต้องรีบขุดบ่อสาธรณะในทุกหมู่บ้านให้มากที่สุด เร็วที่สุด เพราะการขุดบ่อต้องขุดหน้าแล้งถึงจะได้น้ำ รวมไปถึงขุดสระน้ำตาหมู่บ้านที่เรียกว่า "โครงการหลุมขนมครก" ซึ่ง มหาดไทยกับกองทัพ จะเป็นหน่วยงานที่ทำได้ดีที่สุด ซึ่งเชื่อว่า "ลุงตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รู้ดี รู้มากอยู่แล้ว แต่ปัญหาก็คือสั่งไปแล้วทำจริง ทำเร็วได้แค่ไหน
00 อ้อการขุดอาจจ้างชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งในท้องถิ่น เพื่อหารายได้ชั่วคราว ประกอบกับเรื่องการส่งเสริมให้ประหยัดน้ำ เตรียมภาชนะรองรับน้ำ เช่นโอ่งน้ำประจำบ้านให้มากที่สุดตามกำลังเงิน แต่ต้องมีสำรองเอาไว้ก่อน อย่าลืมว่าบ้านเรามีหน้าฝน มีน้ำ เพียงแต่ว่าไม่รู้จักกัก ไม่รู้จักประหยัด บางครั้ง บางพื้นที่ใช้ฟุ่มเฟือยจนเคยตัวก็มี ถึงเวลานี้ต้องปฏิวัติแนวทางการปฏิบัติอย่างจริงจังกันได้แล้ว ซึ่งรวมถึงการปลูกป่า รักษาป่าแบบมีเป้าหมายด้วย !!