xs
xsm
sm
md
lg

มท.1 ย้ำทำความเข้าใจไม่ให้สูบน้ำเข้าไร่ อธิบดี ปภ.ลั่นประชาชนไม่ขาดแคลนน้ำประปา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย (แฟ้มภาพ)
“อนุพงษ์” รับต้องทำความเข้าใจภัยแล้ง กันไม่ให้สูบน้ำเข้าไร่ คาดฝนตกกลางสิงหาฯ “ฉัตรชัย” เผยแก้ไขปทุมธานีขาดน้ำประปาแล้ว ใช้น้ำดิบจากเขื่อนป่าสักฯ ขอประชาชนมั่นใจไม่ขาดแคลนน้ำ แนะให้ประหยัด ยันแก้เป็นขั้นตอน เน้นน้ำอุปโภคเป็นหลัก เชื่อปัญหาคลี่คลาย ชี้เป้าหมายประชาชนรับผลกระทบน้อยที่สุด

วัวันนี้ (14 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ปัญหาภัยแล้งว่า ต้องให้ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานความมั่นคงช่วยกันทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ถึงสถานการณ์ภัยแล้งขณะนี้ ไม่เช่นนั้นก็จะยังคงมีการสูบน้ำเข้าไร่นา และเชื่อว่าขณะนี้ยังมีประชาชนสูบน้ำเข้าพื้นที่ของตัวเองอยู่ ซึ่งการจะไปทำความเข้าใจต้องมีความชัดเจนในระดับนโยบายว่า และต้องยอมรับเกี่ยวกับน้ำสำหรับการทำการเกษตร โดยจะต้องหามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรต่อไป ส่วนจะสามารถผ่านสถานการณ์ภัยแล้งนี้ไปได้หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า จากการรายงานคาดว่าฝนจะมาในช่วงกลางเดือนสิงหาคม แต่ก็อาจจะตกใต้เขื่อนทำให้น้ำต้นทุนในปีหน้าอาจจะน้อยลง ส่วนที่นักวิชาการออกมาพูดให้ข้อมูลจนอาจส่งผลให้ประชาชนเกิดความตกใจนั้น ต้องให้การยอมรับบ้านเรามีทั้งช่วงที่น้ำมากและน้ำน้อย การบริหารจัดการจึงมีความจำเป็น

“อย่าไปคิดเลยว่าจะทำให้ประชาชนตกอกตกใจ ผมถือว่ามาตรการของผู้รู้ที่จะพูดให้ข้อมูลกับสังคมก็มีดีกรีทั้งนั้น ดีเสียอีกที่เราจะได้รับข้อมูลและจะได้ระมัดระวังว่าประเทศเราช่วงหนึ่งก็มีน้ำมากจนท่วม ช่วงหนึ่งน้ำก็ขาดแคลน เพราะฉะนั้นการบริหารจัดการน้ำถือเป็นเรื่องจำเป็น เราต้องตระหนักในเรื่องนี้ เราอย่าไปถือสาอะไร ถือว่าเป็นการให้ข้อมูล” พล.อ.อนุพงษ์กล่าว

ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ปัญหาภัยแล้งว่า พื้นที่ที่มีปัญหาเรื่องน้ำประปาส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ในส่วนของ จ.ปทุมธานี ได้รับการแก้ไขแล้ว โดยใช้น้ำดิบจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ขณะนี้พื้นที่ที่ยังมีปัญหาอยู่ เช่น อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ซึ่งก็ต้องบริหารจัดการน้ำให้ดี อย่างไรก็ตาม เราแก้ปัญหาภัยแล้งกันอย่างเป็นขั้นเป็นตอน นายกฯ สั่งการตั้งแต่ปีที่แล้วว่า พื้นที่แล้งซ้ำซากต้องลดและค่อยๆ หมดไป และประชาชนต้องไม่ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค

“วันนี้เราเน้นน้ำอุปโภคบริโภคเป็นหลัก โดยการหาแหล่งน้ำต้นทุน จุดไหนที่มีปัญหาก็ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนที่ใช้น้ำ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เขตชลประทาน และที่เป็นประเด็นขึ้นมาเพราะมีการใช้น้ำร่วมกัน ระหว่างเกษตรกรและระบบอุปโภคบริโภค วันนี้เราได้ทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนแล้ว เชื่อว่าปัญหาต่างๆจะคลี่คลายได้ดี น้ำประปาเรามีการบริหารจัดการ ตรงไหนน้ำน้อยก็มีการหาแหล่งน้ำสำรอง ทั้งในและนอกระบบชลประทาน ขอให้มั่นใจว่าระบบประปาจะทำให้ประชาชนได้ทั่วถึง ประชาชนจะไม่ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค แต่วันนี้ทุกคนต้องมีวินัยและช่วยกันประหยัดน้ำ” นายฉัตรชัยกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำพูดความจริงกับประชาชน จะได้เตรียมรับมือ นายฉัตรชัยกล่าวว่า ตอนนี้ทุกส่วนทำงานกันอย่างเต็มที่ รับฟังข้อมูลทุกด้าน ปัญหาภัยแล้งในบ้านเรามีทุกปี ซึ่งเราก็มีการแจ้งเตือน สร้างความเข้าใจ ขอความร่วมมือ และจัดการแก้ไขปัญหา ซึ่งทำอย่างเป็นขั้นเป็นตอน นายกฯ สั่งการมาตลอด 2 เรื่อง คือ พื้นที่แล้งซ้ำซากต้องลดและค่อยๆ หมดไป และน้ำอุปโภคบริโภค ประชาชนจะต้องได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ต้องไม่เดือดร้อน ต้องไม่ขาดแคลน

“ไม่ใช่ว่าเราไม่พูดความจริง แต่การพูดความจริงอย่างเช่นเราบอกว่าวันนี้ฝนจะตก แต่ถ้าฝนไม่ตกก็เท่ากับเราไม่พูดความจริงอย่างนั้นหรือ เรามีเป้าหมายสำคัญคือทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด” อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น