xs
xsm
sm
md
lg

“ม.ล.ปนัดดา” แนะอาสาโฆษกรัฐช่วยเป็นหูเป็นตา เชื่อ นศ.ต้านบริสุทธิ์ ไม่บานปลาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (แฟ้มภาพ)
รัฐมนตรีสำนักนายกฯ เปิดอาสาโฆษกรัฐบาล รุ่น 1 ยอ “ประยุทธ์” ทหารของแผ่นดิน หวังอาสาช่วยรัฐ เป็นหูเป็นตา ยันไม่ใช่เผด็จการ บอกจัดระเบียบข้าราชการให้ประชาชนพึ่งพาได้ ยุท้องถิ่นมีศักดิ์ศรีไม่เดินตามนักการเมือง แนะสถานศึกษาแจงสถานการณ์เด็ก เชื่อกลุ่มต้านพลังบริสุทธิ์ คาดไม่บานปลาย ระบุต่างชาติจ้อตามบริบทที่เห็น ไม่มองซ้ำรอย 14 ตุลา

วันนี้ (4 ก.ค.) ที่ห้องประชุมกรมทหารสื่อสาร เขตดุสิต กทม. หม่อมหลวง ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “อาสาโฆษกรัฐบาล รุ่นที่ 1” พร้อมกล่าวบรรยายพิเศษเรื่อง “ทิศทางประเทศไทย ร่วมใจกันสร้างชาติ” ซึ่งจัดโดยสมาคมกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ตอนหนึ่งว่า รัฐบาลมีความมุ่งมั่นพัฒนาประเทศ ให้ประชาชนมีความเจริญมั่นคงมั่งคั่งยั่งยืนและรัฐบาลจะยุติความขัดแย้งในประเทศ รวมทั้งฟื้นฟูความเชื่อมั่นในประเทศ และนอกจากนี้ จะเคยเห็นว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่า ไม่ได้มุ่งหวังเข้ามามีอำนาจ แต่เมื่อมาท่านเป็นทหารของประชาชน ทหารของแผ่นดิน ก็ยากที่จะปล่อยปละละเลยที่จะให้ประชาชนขัดแย้งตีรันฟันแทง และแบ่งฝ่ายได้อีกต่อไป เหตุการณ์เมื่อปีที่แล้ว 22 พ.ค. 2557 จึงเกิดโรดแมปทั้งสามช่วงเวลา ซึ่งนายกฯยังยึดมั่นให้อยู่ในโรดแมปและตอนนี้อยู่ในโรดแมปขั้นที่สองแล้ว ที่จะมีการเลือกตั้ง ที่ท่านยังพูดกับชาวต่างประเทศว่าจะมีการเลือกตั้ง

ม.ล.ปนัดดา กล่าวอีกว่า การเมืองระยะหลังมีการยุยงให้คนแตกแยก ก็หวังว่าอาสาโฆษกรัฐบาลจะช่วยรัฐบาล เพราะไม่ว่าจะอยู่ภาคไหนก็ไทยด้วยกัน ท่านคงจำได้ที่มีผู้บริหารการเมืองคนหนึ่งที่พูดผ่านทีวีท่านบอกว่าระวังให้ดีว่าจังหวัดนี้ถ้าไม่เลือกพรรคการเมือง.... ซึ่งตนขอไม่เอ่ยชื่อพรรค ระวังรัฐบาลจะไม่จัดสรรงบประมาณไปช่วย ซึ่งตนคิดว่านั่นการหลงทาง เพราะพูดแบ่งแยกแบบนี้ไม่ได้ เพราะภาคเหนือ อีสาน กลาง ใต้ เราอุ้มชูกันด้วยระบบภาษีอากร ที่เราแชร์ภาษีกันดังนั้นกลุ่มจังหวัดที่ชำระภาษีที่สูงก็เพื่อไปช่วยจังหวดอื่นไม่ใช่จังหวัดใครจังหวัดมัน เพราะเราเป็นประเทศไทยเดียวกัน

ม.ล.ปนัดดา กล่าวอีกว่า จากที่มีการประท้วงของกลุ่มนิสิต นักศึกษา ตนก็บอกเหมือนท่านนายกฯ ว่าเพราะเป็นพลังบริสุทธิ์ แต่ต้องเข้าใจบริบทของแต่ละฝ่ายที่ครูอาจารย์ต้องเป็นไกด์ไลน์ที่เหมาะสมให้กับนิสิต เพราะรัฐบาลไม่ได้เป็นเผด็จการอย่างที่ใครกล่าวขาน จึงอยากเห็นภาพผู้ใหญ่กับครูอาจารย์มานั่งพูดจากันเพื่อสร้างความสามัคคีไม่ให้สังคมนำไปสู่สังคมแตกแยกอีกครั้ง

ส่วนการจัดระเบียบข้าราชการนั้น ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า ภาครัฐก็พยายาม โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 อย่างที่เห็นในการจัดระเบียบข้าราชการเพื่อให้ประชาชนพึ่งพาได้ เพราะเป็นเรื่องความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน รวมทั้งข้าราชการท้องถิ่น องค์กรปกครองท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ท่านต้องไม่ให้พรรคการเมืองใดเข้ามาครอบงำ เพราะมีการเข้าใจผิดมาตลอดที่ท่านเดินตามและเป็นหัวคะแนน เพราะอปท.ต้องมีศักดิ์ศรี ไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองพรรคหนึ่งพรรคใด แต่มาจากการสั่งสมชื่อเสียงมาเอง เพื่อทำงานเชื่อมโยงภูมิภาคกับส่วนกลาง

“คำว่าประชาธิปไตยไม่ได้มีความหมายว่าความแตกแยก ประหัตประหาร การทุจริตคอร์รัปชัน การยุยงให้เกิดการแบ่งแยก เพื่อจะแบ่งแยกการปกครอง เพราะคนในชาติแบ่งสีกันได้อย่างไร จึงขอให้ท่านอาสาโฆษกรัฐบาลช่วยทำหน้าที่เต็มความสามารถ อย่าให้มีการยุยงให้เกิดความแตกแยก เพราะประชาธิปไตยต้องดำรงไว้ซึ่งหนึ่งเดียว มีความเป็นสุภาพชน ไม่ทุจริตคอร์รัปชัน และหวังว่า ท่านจะช่วยนำพาประเทศนำไปสู่โรดแมปขั้นตอนไป และช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล หากเห็นว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐยังไม่โปร่งใสยังไม่เรียบร้อยก็ถือว่าเป็นศัตรูกับรัฐบาลและประเทศไทย ก็ขอให้แจ้งเข้ามา” ม.ล.ปนัดดา กล่าว

จากนั้น ม.ล.ปนัดดา ให้สัมภาษณ์ถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่ม นักศึกษาที่ออกมาต่อต้านการรัฐประหารว่า ทุกฝ่ายมีความห่วงใย โดยเฉพาะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ระบุว่า นักศึกษาเหล่านี้เป็นพลังบริสุทธิ์และมีสิทธิ์ที่จะเคลื่อนไหวได้ โดยสถานศึกษาต้องช่วยให้คำแนะนำถึงสถานการณ์ของชาติบ้านเมืองในขณะนี้ว่าเป็นอย่างไร ทุกคนอยากให้เกิดความสามัคคีของคนในชาติ หากเกิดความแตกแยกความปรองดองจะเกิดขึ้นได้ยาก ดังนั้นพลังนักศึกษาถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเป็นกำลังใจให้ประเทศชาติในวันข้างหน้า

เมื่อถามว่า มองว่า การเคลื่อนไหวของนักศึกษามีเบื้องหลังหรือไม่ ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า ไม่มองอย่างนั้น จากที่ไปพบปะนักศึกษาหลายสถาบัน หลายระดับ เห็นพลังบริสุทธิ์ของเยาวชนที่อยากจะเห็นบ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง มีประชาธิปไตยเกิดขึ้น ซึ่งประชาธิปไตยจะเกิดขึ้นได้ต้องมีความเห็นอกเห็นใจกัน มีความเข้าใจขั้นพื้นฐานที่จะนำประเทศไปสู่ความสามัคคีได้ หากยังขัดแย้งกันอยู่อย่างนี้ ไม่เป็นกำลังใจซึ่งกันและก็เป็นไปได้ยากที่จะมีบทสรุปขั้นสุดท้าย

เมื่อถามว่า จากการพบปะนักศึกษา ประเมินหรือไม่ว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวจะบานปลายหรือไม่ ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า เชื่อว่าคงไม่ เพราะขณะนี้ผู้ใหญ่ไม่ใช้อารมณ์เข้าหา ไม่เหมือนในอดีตที่มีการทะเลาะ ประหัตประหารกัน ทุกวันนี้ทุกภาคส่วนพูดคุยกันด้วยเหตุด้วยผล รวมถึงนายกรัฐมนตรีด้วย เมื่อถามว่า มีการขยายผลเรื่องนี้ไปถึงการเคลื่อนไหวในต่างประเทศและวิพากษ์วิจารณ์กดดันประเทศไทยเรื่องสิทธิมนุษยชน ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า ต่างประเทศก็พูดในบริบทตามที่เขาเห็น แต่ในบ้านเรา เราก็เห็นและทราบดีว่าสถานการณ์บ้านเราเป็นอย่างไร คนที่อยู่ในบ้านกับนอกบ้าน บางทีก็เห็นต่างกัน

ม.ล.ปนัดดา กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้น่าจะมีการพูดจา ประสานทำความเข้าใจกัน ให้เกิดความเข้าใจกันได้ ส่วนที่มีความเป็นห่วงว่าเหตุการณ์ขณะนี้จะย้อนรอยไปเหมือนเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ 14 ตุลาฯนั้น ตนไม่มองเช่นนั้น เพราะฝ่ายบริหารไม่ได้เป็นเผด็จการเหมือนในอดีต ทุกอย่างทำเพื่อความโปร่งใสของบ้านเมือง เน้นเรื่องการปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น ต้องการให้ข้าราชการเป็นตัวอย่างให้กับประชาชน ไม่มีการใช้อำนาจแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีแบบนี้ ถือเป็นปรากฏการณ์ที่สำคัญที่ประเทศไทยจะต้องบันทึกไว้ ว่าข้าราชการต้องอยู่ในร่องในรอย ปฏิบัติอย่างสุจริตธรรม เกิดความชอบธรรมกับประชาชน


กำลังโหลดความคิดเห็น