xs
xsm
sm
md
lg

“TPBS” อ้างกฎหมาย ส.ส.ท. เหตุเสนอสกู๊ปข่าว “นศ.ดาวดิน” เคลื่อนไหว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ รองผู้อำนวยการ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) ให้สัมภาษณ์ ไทยพีบีเอสออนไลน์
“วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์” รอง ผอ.ไทยพีบีเอส ออกอากาศผ่าน “ไทยพีบีเอสออนไลน์” ย้ำเหตุ “กสทช.” เรียกไปชี้แจง นำเสนอสกู๊ปข่าวการเคลื่อนไหวของนักศึกษากลุ่มดาวดิน-กลุ่มที่จัดกิจกรรมหน้าหอศิลปวัฒนธรรม ทำไปตาม พ.ร.บ.องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 ว่าด้วยการส่งเสริมเสรีภาพในการรับรู้ข่าวสารเพื่อสร้างสังคมประชาธิปไตย เผยเป็นครั้งแรกถูก กสทช.เรียกพบในรอบ 2-3 ปี

วันนี้ (2 ก.ค.) มีรายงานว่า นายวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ รองผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) ให้สัมภาษณ์ “ไทยพีบีเอสออนไลน์” ถึงกรณีเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 2558 กสทช.ได้เรียกผู้บริหาร ส.ส.ท.ไปชี้แจงเรื่องการรายงานข่าวเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มนักศึกษา ซึ่งมีผู้ร้องเรียนมาว่ารายงานเรื่อง “วิเคราะห์ความเคลื่อนไหวกลุ่มนักศึกษาภายใต้การบริหารประเทศ คสช.” ออกอากาศทางรายการที่นี่ไทยพีบีเอสเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2558 นั้นมีเนื้อหาที่อาจก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคม

นายวันชัยกล่าวว่า กสทช.ได้เชิญทางผู้บริหารของไทยพีบีเอสไปชี้แจงเนื่องจากมีผู้ร้องว่ารายงานที่ออกอากาศทางรายการที่นี่ไทยพีบีเอส วันที่ 25 มิ.ย. 2558 มีเนื้อหาที่อาจทำให้ประชาชนเกิดความสับสน เข้าใจผิด ก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคม ซึ่งในการออกอากาศเนื้อหารายการอาจจะขัดกับประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับที่ 97/2557 เรื่องการให้ความร่วมมือกับการปฏิบัติงานของ คสช.และการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและประกาศ คสช.ฉบับที่ 103 และอาจขัดต่อมาตรา 37 แห่งพรบ.การประกอบกิจการการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551

“คณะผู้บริหารก็ได้ไปชี้แจงให้ทางอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. เวลา 13.30 น. ซึ่งผมเองในฐานะที่เป็นหนึ่งในตัวแทนผู้บริหารได้ชี้แจงให้ทางคณะอนุกรรมการได้ฟังว่า ที่ผ่านมาบทบาทของไทยพีบีเอสในฐานะที่เป็นทีวีสาธารณะได้ทำหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ของไทยพีบีเอสตามข้อที่ 4 คือ “ส่งเสริมเสรีภาพในการรับรู้ข่าวสารเพื่อสร้างสังคมประชาธิปไตยที่ประชาชนได้รับข่าวสารอย่างเท่าเทียมกัน” และข้อ 5 “สนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อมในการกำหนดทิศทางการให้บริการขององค์การเพื่อประโยชน์สาธารณะ” ซึ่งเราก็ได้เรียนชี้แจงให้อนุกรรมการฟังว่าเราก็ทำตามหน้าที่ตามพรบ. นอกจากนั้นก็ได้มีการเปิดคลิปรายงานดังกล่าวให้คณะอนุกรรมการฯ ได้ชม ซึ่งก็ได้มีการซักถามเรื่องการถ่ายทำทั่วไป ซึ่งคุณก่อเขต จันทรเลิศลักษณ์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวก็ได้อธิบายให้ฟัง

“หลังจากนี้ทางคณะอนุกรรมการฯ จะพิจารณาอย่างไรก็ถือว่าเป็นดุลยพินิจของอนุกรรมการฯ ซึ่งหลังจากชี้แจงแล้ว ทาง กสทช.ก็ยังไม่ได้แจ้งกลับทางไทยพีบีเอสกลับมาว่า ซึ่งเมื่ออนุกรรมการฯ มีมติและได้แจ้งมตินั้นให้เราทราบแล้ว ทางผู้บริหารไทยพีบีเอสก็จะหารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป” นายวันชัยกล่าว

รองผู้อำนวยการ ส.ส.ท.กล่าวว่า ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 2-3 ปีที่ทางกสทช.ได้เรียกผู้บริหารของไทยพีบีเอสเข้าไปพบอย่างเป็นทางการ พร้อมกับชี้แจงกรณีที่มีข่าวว่าผู้บริหารได้ตัดเงินเดือนของพนักงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ว่าข่าวนี้ไม่เป็นความจริง

ไทยพีบีเอสยังนำเสนอข้อความทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ของ น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่โพสต์ระบุว่ารู้สึกเครียดกับการที่ กสทช.เรียกไทยพีบีเอสเข้าชี้แจงกรณีรายงานข่าวการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษา พร้อมเตือนผู้มีอำนาจตั้งสติและใช้หลักการในการตัดสิน

“เครียดมากกับประเด็นที่ สนง.เรียกไทยพีบีเอสมาชี้แจงกรณีการรายงานข่าวกลุ่มนักศึกษาโดยเฉพาะกลุ่มดาวดินถูกจับกุม ยังไม่รู้จะมีโทษไหม รู้ว่าตอนนี้ฝ่ายผู้มีอำนาจกังวลกับการเคลื่อนไหว (แม้โดยสงบ) ของนักศึกษา ถึงขั้นมีการตัดสินใจจับกุม แต่ กสทช.ก็ควรตั้งหลักถ่วงดุลให้สื่อบ้าง ไม่ใช่อะไรๆก็ขัดความมั่นคง ขัดความมั่นคง พูดไม่ได้ รายงานไม่ได้ ทีวีดิจิตอลเขาก็ต้องทำหน้าที่ของเขา ยิ่งไทยพีบีเอสเขาก็ระวังสูงมากอยู่แล้ว”

“ยังไม่แน่ใจว่า สนง.จะเสนอวาระที่เรียกไทยพีบีเอสมาชี้แจง เข้าบอร์ด กสท.ให้ลงมติเพื่อตัดสินหรือไม่ ถ้าเข้าก็ควรใช้หลักการให้มากในการตัดสิน คือสภาพการณ์เรื่องสิทธิเสรีภาพมันก็ถูกจำกัดมากอยู่แล้ว ถ้ายิ่งจำกัดมากไปกว่านี้มันจะไม่ดีทั้งต่อ กสทช. รัฐบาลและสังคมไทยเองในที่สุด เราควรเรียนรู้จากประวัติศาสตร์กันให้มาก เราควรใช้เหตุผลกันให้มาก เราควรตั้งสติกันให้มาก โดยเฉพาะคนที่ต้องใช้อำนาจแบบ กสทช.และอื่นๆ”

“อย่างที่บอกถ้าใช้อำนาจอย่างที่ควรใช้ในการลงโทษผู้ประกอบการที่เอาเปรียบผู้บริโภคอันนี้เห็นด้วย (แต่กฎหมายก็อ่อนแอมาก) แต่พอการเมืองแล้วแรงมาก หยุดตั้งสติมาสองคืนแล้ว เพราะไม่อยากทวิตแรงมาก ส่วนหนึ่งก็ห่วงตัวเอง อีกส่วนหนึ่งก็ไม่อยากให้ความรู้สึกนำเหตุผล เพียงแต่ต้องการเตือนทุกฝ่าย โดยเฉพาะ กสทช.อันเป็นที่รัก ทำงานที่นี่ไป วิจารณ์ไป แต่ก็รักงาน รักองค์กรของตนเอง เจ็บปวดทุกครั้งถ้า กสทช.ตัดสินใจอะไรแล้วสวนทางกับหลักการ”

“พันธกิจ กสทช.ซึ่งเป็นองค์กรของรัฐที่เป็นอิสระ เพื่อกำกับดูแลสื่อให้เป็นอิสระจากการเมือง ใช่มันเป็นอุดมคติมาก แต่มันคือสิ่งที่ทำให้เราเกิดมา จริงอยู่ภายใต้กฏหมายปัจจุบัน ที่ไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับเดิมซึ่งเป็นที่มาของ กสทช.แล้วก็ตาม แต่เราก็ยังหวังว่าจิตวิญญาณของมันยังล่องลอยอยู่บ้าง”

“ในฐานะที่เป็นหนึ่งเสียง แม้อาจดูไม่มีความหมาย แต่ก็จะพยายามจะทัดทานให้เต็มที่ ไปจนกว่าแรงเสียดทานมันจะทำให้เรายืนไม่ไหวไปเอง ข่าวทีวีตอนนี้มันก็คล้ายๆกันอยู่แล้ว ไม่มีช่องไหนที่เขาจะกล้าเสี่ยงกฏหมาย ถ้าเราเข้มงวดกว่านี้ การมีทีวีหลายสิบช่องก็คงไร้ความหมายจริงๆ”


กำลังโหลดความคิดเห็น