รายงานการเมือง
ใครอดทนต่ำ เดินเกมพลาด คนนั้นซวย! ระหว่างรัฐบาล “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับกลุ่มนักศึกษาในนาม “กลุ่มนักศึกษาประชาธิปไตยใหม่” หลังจากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเปิดเกมจิตวิทยาใส่กันหนัก
โดยเฉพาะนักศึกษาที่พยายามยั่วให้ฝ่ายความมั่นคงโมโหจนเข้าใช้กำลัง หวังฉายซ้ำประวัติศาสตร์เก่าๆ ซึ่งฝ่ายเจ้าหน้าที่เองก็กัดฟันไม่ยอมผลีผลาม ก่อนจะทนไม่ไหว บุคคลสำคัญในรัฐบาลเริ่มยกระดับดีกรีดุดันโดยการคำรามใส่ และตามด้วยการออกหมายจับนักศึกษา 14 คน เพื่อเป็นการป้องปรามพร้อมกับแฉเลยว่า เรื่องนี้มีการเมืองอยู่เบื้องหลัง แต่ไม่เปิดเผยชื่อเสียงเรียงนามว่าเป็นใคร นอกจากบอกเพียงว่า “รู้ตัวแล้ว”
ปกติเรื่องการแฉแบบปากกล้าขาสั่น บอกเพียงตัวอักษรย่อ หรือพูดลอยๆ มักจะออกมาจากปากเหล่านักการเมืองที่ชอบสาดโคลนใส่กันไปมา แต่คราวนี้ออกมาจากปากผู้มีอำนาจในรัฐบาลซึ่งเป็นทหารแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น “บิ๊กตู่” หรือ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม “บิ๊กโด่ง” พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) มันย่อมเป็นการสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลเริ่มมีปฏิกิริยาตอบโต้จริงจัง หลังจากปล่อยนิ่งมาสักระยะหนึ่ง
รัฐบาลเองก็อยู่เฉยไม่ได้ หลังประเมินแล้วว่าเรื่องนี้อาจเป็นไฟไหม้ฟางแล้วลามไปทั้งทุ่ง เพราะเริ่มมีนักการเมืองค่ายเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง ออกมาให้ท้าย คอยยกยอปอปั้นกลุ่มนักศึกษาแบบเอิกเกริกเกินหน้าเกินตา ส่อให้เห็นเจตนาว่า จงใจยุยงส่งเสริมให้เขย่ารัฐบาลทางอ้อม ยืมมือนักศึกษาเป็นตัวชน จึงจำเป็นต้องออกมาเบรกสถานการณ์ ด้วยการตีปี๊บเรื่องรู้ตัวบงการส่งสัญญาณไปถึงบุคคลนั้นให้ระวังตัวไว้ ในทำนอง อย่าคิดว่าไม่รู้!
กระนั้น รัฐบาลเองก็ต้องอดทนอดกลั้น และมีความรอบคอบกว่านี้ เพราะมาตรการที่ใช้ไปในครั้งนี้บางอย่างก็ดูรุนแรงและผลีผลามเกินไป ไม่ค่อยรอบคอบ โดยเฉพาะการแฉคนบงการ แต่ไม่เอ่ยชื่อเสียงเรียงนามให้สังคมทราบ เหมือนเป็นการตีเช็คเปล่า ใส่ร้ายอีกฝ่ายโดยไม่มีใบเสร็จยืนยัน คนภายนอกอาจมองว่ารัฐบาลเองกำลังเล่นการเมืองเสียเอง พอจนตรอกก็โทษฝ่ายการเมืองอย่างเดียว
นาทีนี้ว่ากันตามตรง คนที่เชื่อว่ารัฐบาลพูดจริงก็มี แต่คนที่ไม่เชื่อว่ารัฐบาลพูดจริงเพราะไม่เห็นหลักฐานก็เยอะ ดังนั้นต้องเอาออกมาประจานกันให้ได้ว่า ไอ้โม่งที่ว่านั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร เป็นใคร นักการเมืองสังกัดค่ายไหน แล้วที่สนับสนุนนักศึกษา สนับสนุนด้วยรูปแบบใด ต้องการอะไรกันแน่ ถ้าไม่มีใบเสร็จ เรื่องนี้มันจะกลายเป็นนิทานอีสปเรื่องหมาป่ากับลูกแกะ ทหารจะถูกตราหน้าว่า เป็นผู้ใหญ่แต่ดันไปรังแกเด็กมือเปล่าที่ไม่มีทางสู้
แล้ววิธีการเหมารวมว่า นักศึกษาทุกคนมีการเมืองอยู่เบื้องหลัง ตรงนี้พลาดมหันต์ ไปหว่านแหอย่างนี้น่าเกลียดแล้วไม่เป็นผลดี เพราะมันจะยิ่งไปกระตุกอารมณ์ทำให้นักศึกษาคนอื่นๆ ที่ยังอยู่ในที่ตั้ง อยากจะออกมาปกป้องคนในวัยเดียวกัน เหมือนเป็นการผลักอีกฝั่งให้มีแนวร่วมเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว เพราะนักศึกษาบางคนที่มาร่วมหนนี้ ต้องยอมรับว่าเคยเคลื่อนไหวเรื่องปัญหาชาวบ้านมาก่อน ก่อนที่จะมี“รัฐบาลบิ๊กตู่”เสียด้วยซ้ำ การไปยัดเยียดแบบนี้ ผลักเขาให้ไปอยู่อีกฝั่ง
เหมือนกับตอนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เริ่มมีม็อบออกมาขับไล่ใหม่ๆ เอะอะอะไรก็ป้ายสีมันตะพึดตะพือว่าเป็นม็อบของฝ่ายตรงข้าม การเมืองหนุนหลังอย่างงั้น อย่างงี้ โดยเฉพาะ “เป็ดเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีต รมว.แรงงาน ที่เอาล่อเอาเถิด พ่นอักษรย่อกลุ่มนายทุนมันลูกเดียว แต่ไม่เอ่ยชื่อเสียงเรียงนาม ไม่มีหลักฐานสักแผ่น บ่มเพาะความเกลียดชังจนสุดท้ายเมื่อเกิดหัวเชื้อเรื่องนิรโทษกรรมสุดซอย ก็ได้เห็นคนที่เกลียดชังระบอบทักษิณ ออกมาตะเพิดกันเกลื่อนเมือง จนอยู่ไม่ได้
รัฐบาลต้องแม่น และต้องชัวร์กว่านี้ ถ้าจับได้ไล่ทันว่านักศึกษาคนไหนไม่ได้มาแบบบริสุทธิ์ใจ เป็นการรับจ๊อบมา ต้องหาไอ้โม่งท่อน้ำเลี้ยง หรือความเชื่อมโยงที่หนักแน่นว่า เกี่ยวพันกันออกมาประจานเป็นคนๆ ให้สังคมรับรู้ให้ได้ เอาให้อับอายกางสามนิ้วไม่ไหว ตอนนั้นก็ไม่มีใครมาต่อว่าทหารได้ เพราะจำนนต่อใบเสร็จ หนำซ้ำยังทำให้นักศึกษากลุ่มนี้เริ่มเสียเครดิต เพราะเริ่มมีคนสงสัยว่า ไม่ใช่พลังสะอาดจริงๆ ที่ออกมาต่อต้านรัฐประหาร
นอกจากนี้ ยังได้ประจานพวกนักการเมืองที่อยู่ข้างหลังอีกว่า เป็นพวกอีแอบ ให้คนนินทาหมาดูถูกว่าอาศัยเด็กสู้ ส่วนตัวเองเอาแต่หดหัวมุดอยู่ในรู ไม่มีปัญญาทำอะไร มีแต่เสียกับเสีย คนในสังคมส่วนใหญ่ยิ่งพลิกลำจากที่ด่าเปิงทหารอยู่ จะไปด่านักการเมืองพวกนี้แทน เอาให้อายจนแทบอยากซุกแผ่นดินหนีไปเลย
ส่วนเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติที่อยู่ในพื้นที่ก็ต้องระมัดระวังกำชับกันให้เป็นมั่นเป็นเหมาะ อย่าต่อมอดทนต่ำ เลือดขึ้นหน้าง่ายๆ เพราะเกมยั่วยุมันมีแน่ๆ และเรื่อยๆ เกมนี้มันทฤษฎีเก่าๆ ใครยิงปืนนัดแรกก่อนแพ้ ระวังจะพลาดทีเดียวจะเสียกันทั้งขบวน นักศึกษาถ้าเขามาโดยบริสุทธิ์ใจ ใช้น้ำเย็นลูบ อธิบายเหตุผลดีๆ แล้วใช้คนที่เหมาะที่พูดกับนักศึกษาเข้าใจกว่าทหารมาทำความเข้าใจ ยังมีโอกาสประสบความสำเร็จ ปัญญาชนยังไม้แข็งอย่างเดียวไม่ได้ ขณะที่พวกหัวดื้อประเภทไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น ค่อยๆ แคะประวัติกันให้ดีๆ บางทีอาจเจอจิ๊กซอว์ตัวสำคัญ เพราะตอนนี้ก็เริ่มรู้กัน บางคนก็คุ้นหน้าคุ้นตากันดีเป็นลูกเป็นหลานนักการเมืองใหญ่ นามสกุลดัง แชร์กันว่อนโลกโซเชียลมีเดีย มีรูปเป็นหลักฐาน ขยายภาพความเชื่อมโยงกันให้เห็น นอกจากนี้บางคนก็ทำงานอยู่กับลูกกับหลานนักการเมือง ไปไล่ๆ ดูให้ดี เอาให้ดิ้นไม่หลุด แต่ประเภทเหมารวมยกเข่ง ตรงนี้ต้องเลิก ไม่งั้นไม่จบง่ายๆ แน่
แม้แต่ตัว “บิ๊กตู่” เองจะพูดจะจาอะไรก็ระมัดระวัง อย่าโผงผางจนเกินพอดี วลีบางอย่างสุ่มเสี่ยงจะถูกตีความผิดต้องละไว้ก่อน ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นการไปดูถูกนักศึกษา บางเรื่องไม่พูดก็ได้หากมีผลเสีย เดี๋ยวจะกลายเป็นการเรียกแขกเพิ่ม
อย่าไปวิตกกังวลอะไรมาก ถ้าเป็นม็อบนักศึกษาแบบบริสุทธิ์ใจจริง เขาขอแค่เปิดพื้นที่ให้ได้ระบายก็เพียงพอ ไม่ใช่อุดช่องจนไม่เหลือพื้นที่หายใจอย่างที่ผ่านมา แต่หากเป็นม็อบที่มีอีแอบไอ้โม่งหนุนหลัง ไม่ยอมง่ายๆ แน่ มีวิธีปราบวิธีเดียวคือลากไส้ออกมาให้ได้ ทุกอย่างจบ!