ASTVผู้จัดการ - ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ เชื่อทางการญี่ปุ่นไม่เร่งรัดคดี “คำรณวิทย์” พกพาอาวุธปืน ต้องพิจารณาพยานหลักฐานให้ครบถ้วน ด้านแหล่งข่าว กต. เผยสรุปสำนวนส่งไปที่อัยการแล้ว ทนายความเข้าไปคุย มีเวลา 20 วัน ส่งฟ้องศาลหรือไม่
วันนี้ (25 มิ.ย.) แหล่งข่าวจากกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงกรณีที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่ถูกจับกุมตัวที่สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น หลังจากพกพาอาวุธในสนามบิน ว่า หลังจากกระทรวงการต่างประเทศ ได้สั่งการไปยังสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ให้ดำเนินการให้การช่วยเหลือ โดยได้ส่งเจ้าหน้าที่สถานทูตไปเป็นล่าม และประสานงานกับคณะ รวมทั้งสถานทูต ณ กรุงโตเกียว ยังได้แนะนำทนายความชาวญี่ปุ่นให้กับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ด้วยแล้ว
ในส่วนของรายละเอียดของเหตุการณ์ขณะนี้อยู่ในกระบวนการสอบสวน จึงต้องรอการพิจารณาตามกฎหมายของญี่ปุ่นต่อไป โดยสถานทูตจะอำนวยความสะดวกและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ เพื่อให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรมตามกฎหมาย
“ตำรวจญี่ปุ่นได้สรุปสำนวนส่งไปที่อัยการแล้ว และวันนี้ (25 มิ.ย.) ทนายความของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้นัดเข้าไปพูดคุยให้รายละเอียดกับอัยการ รวมถึงเรื่องการขอประกันตัว ซึ่งทางอัยการจะมีเวลา 20 วัน ในการพิจารณาว่าจะส่งฟ้องศาลหรือไม่” แหล่งข่าว ระบุ
ล่าสุด พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ (ผบก.ตท.) กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ข้อมูลล่าสุด ทราบเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจญี่ปุ่นได้ส่งตัว พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ให้กับพนักงานอัยการแล้วตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวันที่ 24 มิ.ย.
ส่วนกรณีที่ทางทนายความของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เข้าชี้แจงรายละเอียดกับพนักงานอัยการนั้น ยังไม่ทราบในเรื่องนี้ แต่คาดว่าหากทางพนักงานอัยการเรียกทนายความเข้าพบจริง น่าจะเป็นเพียงการเข้าร่วมรับฟังเท่านั้น และจะมีความเห็นสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง ก็เชื่อว่า ทางพนักงานอัยการน่าจะต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณาสำนวนคดีไม่ต่ำกว่า 1 - 2 วัน
“น่าจะยังไม่มีความเห็นสั่งฟ้องภายในวันนี้ (25 มิ.ย.) เนื่องจากทางอัยการญี่ปุ่นน่าจะใช้หลักการเดียวกับประเทศไทยที่ต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณาพยานหลักฐานให้ครบถ้วนสมบูรณ์เสียก่อน” พล.ต.ต.อภิชาติ กล่าว
พล.ต.ต.อภิชาติ กล่าวต่อว่า ล่าสุด ได้รับการยืนยันทางวาจาเท่านั้น ยังไม่มีเอกสารหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษรอย่างเป็นทางการจากสถานทูต หรือ จากกองการต่างประเทศ ตนทราบเพียงว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ถูกดำเนินคดีฐานครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต
ส่วนข้อเท็จจริงที่ว่า อาวุธปืนผ่านเครื่องสแกนได้อย่างไร ซื้อมาจากที่ญี่ปุ่นหรือไม่ ในเรื่องนี้ก็ยังไม่มีหลักฐานหรือข้อเท็จจริงปรากฏ และทางกองบังคับการกองการต่างประเทศ ก็พยายามติดต่อประสานไปยังประเทศญี่ปุ่นถึงความคืบหน้าในเรื่องนี้ โดยเข้าใจดีว่า การแปลภาษาญี่ปุ่นมาเป็นภาษาอังกฤษก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งต้องใช้ระยะเวลารวมถึงการพิจารณาสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ด้วย
