นายกฯ กลับจากพม่า เปรยพระวัดศรีแสงธรรม ขัดแย้งไฟฟ้าภูมิภาค ยืนกรานติดโซลาร์เซลล์ขอพ่วงในระบบไม่ได้ หลักการเป็นทั้งโลก อ้างสับสนแนวคิด “สมยศ” เปิดกาสิโน เป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์หรือเปล่า แนะลองฟังดูก่อน เผยส่วนตัวรู้สึกเฉยๆ แต่ไม่ได้ลอยตัว เพราะสุดท้ายรัฐบาลต้องรับผิดชอบ บอก ผบ.ตร. ไม่ต้องมาอธิบาย มีสมองคิดเองได้
วันนี้ (23 มิ.ย.) ที่ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 ดอนเมือง เมื่อเวลา 16.40 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวหลังเดินทางกลับจากประเทศพม่า ถึงเนื้อหาในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ที่ระบุถึง พระครูวิมล ปัญญาคุณ วัดศรีแสงธรรม จ.อุบลราชธานี ที่ทำแผงโซลาร์เซลล์ ผลิตไฟฟ้าใช้เองในวัด และ โรงเรียนศรีแสงธรรม ซึ่งขณะนี้มีความขัดแย้งระหว่างการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และประชาชนที่ทำแผงโซลาร์เซลล์ใช้เอง ว่า ต้องดูว่าปัญหาเกิดจากอะไรก็ต้องแก้ที่นั่น เช่น เป็นพื้นที่ที่ต้องขายไฟฟ้าคืนหรือไม่ โดยหากขายไม่ได้ก็สามารถผลิตใช้เองได้ ไม่ได้ห้ามที่จะทำเองใช้เอง แต่จะไปพ่วงในระบบไม่ได้ ซึ่งเป็นหลักการไฟฟ้าทั้งโลก หรือจะเอาแบบอยากทำอะไรก็ทำ อยากขายอะไรก็ขาย อยากใช้ก็ใช้ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องมีกติกา ซึ่งต้องมาทบทวนปัญหาทั้งหมดว่า อะไรใช้ได้ ใช้ไม่ได้
“ผมถามหน่อยว่า ถ้าบ้านเราไปตั้งแผงโซลาร์เซลล์ขึ้นมาบนหลังคาแล้วไปพ่วงเข้าสายหลัก แล้วบอกว่าจะขายไฟฟ้าแบบนั้นไม่ได้ ต้องมีการกำกับกิจการไฟฟ้า หรือ เรกกูเรเตอร์ควบคุม ว่า ไฟฟ้าในระบบที่ผลิตจากโรงไฟฟ้ามีเท่าไหร่ จากพลังงานทดแทน จากแก๊ส จากโรงงานน้ำมันเท่าไหร่ ทุกอย่างมีเปอร์เซ็นต์อยู่ วันนี้โครงสร้างพลังงาน 70% เป็นแก๊สกับน้ำมัน ที่เหลือเป็นพลังงานทดแทนอีก 20% ซึ่งวันนี้ต้องลดพลังงานจาก 70% เหลือ 50% และเพิ่มจากสัดส่วนพลังงานทดแทนจาก 20% เป็น 40% ถึงจะมีการปรับแก้กฎหมาย แก้ราคาไฟฟ้า ถ้าสมมติเราจะให้เขาผลิตเอง และขายเข้าระบบสายส่งต้องมีสายส่ง และราคาที่กำหนดไว้ จะมีถึงขนาดว่าปีก่อนนี้ได้กี่สตางค์ และปีนี้มีกฎหมายใหม่ออกมาจะได้กี่สตางค์ ทั้งหมดคือกติกา จะรับไม่ได้กันเลยหรือ ผมไม่เข้าใจ ทุกคนต้องรับกติกากัน ถ้าทุกคนจะเอาเหมือนกันหมดเป็นไปไม่ได้ ถ้าอยากจะได้ของใหม่ต้องทิ้งของเก่าเพื่อสร้างใหม่ หวังจะได้โควตาใหม่ ได้ราคาใหม่ ถ้าจะเอาอย่างนั้นต่างกันไม่มาก แต่ปัญหาคือทุกคนจะเอาเท่ากันหมด ถามว่าวิธีการมันใช่ไหม เราต้องเปลี่ยนวิธีการคิดของคนไทยใหม่” นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงแนวคิดการเปิดบ่อนกาสิโนของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ว่า เวลานี้รอฟังเขาดูอยู่ จะให้พูดได้อย่างไร ตนเองก็ยังงงๆ อยู่ เขาพูดหมายถึงว่าเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ หรือเปล่า ตนอ่านจากที่สื่อมวลชนเขียน หรือจะเป็นการเปิดบ่อนให้คนไทยเล่นตนก็ยังไม่รู้เลย สับสนไปมาอยู่นั่น ก็ลองฟังเขาดูก่อน ขอให้ได้ข้อยุติ มาก่อนว่า เขาจะเอาอย่างไร จะถูกจะผิดตนไม่รู้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทาง ผบ.ตร. พยายามผลักดันข้อเสนอนี้ต่อเนื่อง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กลับไปถามท่านดู แล้วสื่ออยากให้มีหรือไม่ ทำไม่อยากให้มี ก็คือไม่อยาก สำหรับตนก็เฉยๆ คนไทยควรจะวางอนาคตตัวเองกันบ้าง อันไหนเอาหรือไม่เอาก็บอกมา ซึ่งตนจะตัดสินใจอีกครั้ง ตนไม่ได้เข้าข้างใครและไม่ได้ลอยตัว มันจะ ลอยตัวได้อย่างไร เพราะท้ายที่สุด รัฐบาลต้องเป็นคนรับผิดชอบ
“วันนี้ก็มีปัญหาเยอะแยะเต็มไปหมด ก็ฟังไป เวลาที่เราฟัง คนที่ไม่ได้เรื่องพูด ยังฟังได้เลยใช่ไหม พูดห่วยๆ กันเยอะผมก็ยังฟัง ยิ่งกว่านิ้อีกเสียหายกว่านี้อีก ผมก็ยังฟัง เรื่องนี้พอแล้ว ถามเรื่องอื่นเถอะ เอาเรื่องที่เกิดประโยชน์กับประเทศชาติ เรื่องนี้ไม่เกิดหรอก” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผบ.ตร. ได้ประสานมาเพื่อที่จะอธิบายเรื่องการตั้งบ่อนกาสิโนหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ใครประสาน ผบ.ตร. ประสานเรื่องอะไร คงไม่ต้องมาอธิบายอะไร ตนมีสมองคิดเป็น ทุกคนมีความคิดของตัวเอง ถ้าคุณบอกว่าพวกโน้นคิดอย่างนี้ พวกนี้คิดอย่างนั้น คุณก็ไปบอกพวกนักการเมือง ที่ออกมาพูด ว่า กล้ามั้ย ไปถามเข้าโน้นพูดทำไม ปฏิรูปทำไม ไปถามสิ