ตัวแทนชาวปากน้ำปราณ ยื่นหนังสือต่อนายกฯ โวยถูกรื้อถอนที่ทำกินที่อยู่มามานานตั้งแต่ปี 13 แต่หลังจากมีการสร้างเขื่อนจนเกิดดินงอกถูกร้อง หน่วยงานรัฐอ้างนโยบาย คสช.จัดระเบียบ ไล่ทั้งที่ไม่เข้าข่าย ไม่ชี้แจง วอนขอความเป็นธรรมระงับคำสั่ง
วันนี้ (22 มิ.ย.) ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มตัวแทนชาวบ้าน ตำบลปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ นำโดย น.ส.วิลาวัณย์ สมประสงค์ ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการประชาชน ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการไล่รื้อที่ทำกิน และจัดระเบียบพื้นที่บริเวณชายหาดตำบลปากน้ำปราณ ที่ทหารและฝ่ายปกครองบังคับให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและเครื่องมือทำกินในพื้นที่ที่อยู่มานาน
โดย น.ส.วิลาวัณย์กล่าวว่า พวกตนประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน ทำหมึกแดดเดียว และร้านอาหาร บริเวณปากน้ำปราณ มาตั้งแต่ประมาณปี 2513 โดยทำสัญญาเช่าที่ดินกับกรมธนารักษ์ แต่ในปี 2542 มีการสร้างเขื่อนบริเวณปากน้ำ ทำให้เกิดดินงอกและมีผู้ไปใช้ประโยชน์จนถูกร้องเรียนในปี 2553 แต่หน่วยงานรัฐได้ใช้โอกาสนี้ขับไล่พวกตนออกจากที่ด้วย ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต้องการจัดระเบียบที่ดินสาธารณประโยชน์ที่ไม่มีการจัดสรรจากหน่วยงานราชการเท่านั้น พื้นที่ของพวกตนจึงไม่เข้าเงื่อนไข และจากการสอบทางจากทั้งฝ่ายทหารและฝ่ายปกครองเพื่อขอคำชี้แจงที่เป็นลายลักษณ์อักษรก็ถูกบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด อ้างว่ามีอำนาจในการรื้อถอนโดยไม่ต้องมีหนังสือแจ้งให้พวกตนทราบ คำอ้างดังกล่าวทำให้พวกตนไม่มั่นใจพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่รัฐว่าใช้กฎหมายข้อใดในการบังคับพวกตน อีกทั้งพวกตนยังไม่มีส่วนร่วมในการตรวจสอบข้อเท็จจริงซึ่งไม่เป็นธรรม จึงขอให้ นายกฯพิจารณาให้ความเป็นธรรมแก่พวกตน และมีคำสั่งระงับหรือยกเลิกคำสั่งที่ให้พวกตนรื้อถอนทรัพย์สินออกจากพื้นที่ดังกล่าวด้วย
