ความคิดเรื่องให้มีการเปิดบ่อนเสรีในประเทศไทย เกิดขึ้นมานานกว่า 10 ปีแล้ว ที่ชัดเจนเป็นรูปเป็นร่างมากที่สุดคือในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ที่ประกาศว่าจะลงทุนสร้าง “ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์” ซึ่งมีกาสิโนอยู่ด้วย
สภาผู้แทนราษฎรในตอนนั้นรับลูกต่อ โดยคณะกรรมาธิการการเงินการคลัง ฯลฯ ทำการศึกษาผลดีผลเสีย และส่งรายงานการศึกษาให้รัฐบาล หลังจากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณแถลงว่าจะทำประชาพิจารณ์ทั่วประเทศ
เป็นโชคดีของประเทศไทยที่ พ.ต.ท.ทักษิณสิ้นอำนาจไปเสียก่อน
สมัยที่นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ประกาศว่าการอนุญาตให้เปิดกาสิโนจะเป็นหนึ่งในนโยบายที่จะต้องทำให้สำเร็จ
เป็นโชคดีของประเทศไทยอีกครั้ง ที่นายสมัครต้องพ้นจากตำแหน่งด้วยคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ และ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ยอมให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ
การผลักดันให้มีการเปิดบ่อนเสรี อนุญาตให้ตั้งกาสิโนในประเทศไทยได้ เป็นความต้องการของธุรกิจการพนันข้ามชาติ จากลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ต้องการขยายตลาดเข้ามาในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งมีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูง ธุรกิจการพนันก็เหมือนกับอุตสาหกรรมรถยนต์ ค้าปลีก โรงแรม ธนาคาร ฯลฯ ที่ต้องแสวงหาตลาดใหม่ๆ ทดแทนตลาดเดิมที่อิ่มตัว
ต่างกันตรงที่การพนันเป็นสินค้าที่ผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม ในหลายๆ ประเทศ รวมทั้งประเทศไทย กลุ่มทุนกาสิโนข้ามชาติจึงต้องอาศัยนักการเมืองในแต่ละประเทศเป็นเครื่องมือในการเปิดตลาด โดยการแก้ไขกฎหมายและพยายามสร้างความถูกต้องชอบธรรมในการทำให้การพนันเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย ด้วยการอ้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น
เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง เดินทางไปเยือนมาเก๊า ในวาระครบรอบ 5 ปีที่มาเก๊ากลับไปอยู่กับจีน ผู้นำจีนบอกว่ามาเก๊าควรจะปรับเปลี่ยนเศรษฐกิจ สร้างรายได้ใหม่ๆ จากการท่องเที่ยวและสันทนาการที่ไม่ใช่การพนันมากขึ้น
การส่งสัญญาณนี้ ประกอบกับนโยบายปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นในหมู่ผู้นำพรรค ผู้นำท้องถิ่น ข้าราชการ และผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ ของประธานาธิบดีสี ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจการพนันในมาเก๊า ซึ่งเชื่อกันว่า เป็นแหล่งฟอกเงินผ่านกาสิโน นักพนันขาใหญ่ หรือ วีไอพีจากจีน ซึ่งเป็นลูกค้า 2 ใน 3 หายหน้าหายตาไปจากบ่อนที่มาเก๊า ส่งผลให้รายได้จากการพนันลดต่ำลงติดต่อกัน 12 เดือนแล้ว
สหรัฐอเมริกาเคยเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของธุรกิจการพนัน แต่หลังจากที่รัฐบาลมาเก๊ายกเลิกการผูกขาดกาสิโนในปี 2002 ธุรกิจกาสิโนจากสาสเวกัส ได้ขยายกิจการเข้ามาที่มาเก๊า เพื่อรองรับนักพนัน และนักท่องเที่ยวจากจีน ทำให้มาเก๊าเป็นตลาดการพนันที่ถูกกฎหมายที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา
ขณะเดียวกันก็ได้ขยายธุรกิจเข้าไปในประเทศอิ่นๆ ในเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะสิงคโปร์ ที่อนุญาตให้ตั้งกาสิโนได้ 2 แห่งเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เป็นของกลุ่มทุนจากลาสเวกัส และกลุ่มเก็นติ้งจากมาเลเซีย
ญี่ปุ่นเป็นอีกประเทศหนึ่งที่เป็นเป้าหมายของกล่มธุรกิจกาสิโนข้ามชาติ โดยสามารถผลักดันให้การอนุญาติตั้งกาสิโน เป็นหนึ่งในนโยบายหาเสียงของนายชินโสะ อาเบะ และขณะนี้นักการเมืองพรรคแอลดีพี ของนายอาเบะได้เสนอกฎหมายเปิดบ่อนเสรีเข้าไปรอในสภาผู้แทนราษฎรแล้ว
สำหรับประเทศไทย ข้อเสนอให้เปิดบ่อนเสรีของกลุ่มสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ 12 คน ที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มรักชาติ และการประกาศตัวสนับสนุนอย่างแข็งขันของพลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแหง่ชาติ และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ก็เป็นความพยายามอีกครั้งหนึ่งของ กลุ่มทุนกาสิโนข้ามชาติ ที่จะเข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทย ด้วยการจ้างวานให้กลุ่มคนที่มีสถานะทางการเมืองและใกล้ชิดกับ คสช. สร้างกระแสที่จะนำไปสู่การแก้กฎหมาย
กลุ่ม สปช.รักชาติ ซึ่งประกอบดัวยอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย นักการเมืองท้องถิ่น และสื่อมวลชนซึ่งเข้าสู่สภาปฏิรูปในสถานะของสื่อ และพลตำรวจเอกสมยศ ไม่ได้เสนอให้เปิดบ่อนเสรีเพื่อตัวเองหรือเพื่อประเทศไทย แต่พวกเขาคือ มือปินรับจ้างให้กับกลุ่มทุนกาสิโนข้ามชาติ
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาหัวหน้า คสช,และนายกรัฐมนตรีมีนโยบายจัดระเบียบสังคม แก้ไขปัญหายาเสพติด ทลายบ่อนการพนัน แก้ไขปัญหาหาบเร่แผงลอย แม้กระทั่งเด็กแว้นก็ไม่เว้น
หวังว่าเรื่องเปิดบ่อนเสรีที่บรรดามือปืนรับจ้างทั้งหลายออกมาโยนหินถามทาง พลเอกประยุทธ์จะยังคงแน่วแน่ในนโยบาบปราบอบายมุขโดยไม่เห็นแก่หน้าพี่ๆ ใน คสช.