ผ่าประเด็นร้อน
“เรื่องนี้ผมเห็นด้วยและพูดมาตั้งนานแล้วว่าควรจะมีกาสิโนถูกต้องตามกฎหมายเสียที เพราะถึงเวลาที่คนไทยต้องยอมรับความจริงแล้วว่าอย่างไรเสียประเทศไทยก็ต้องมีบ่อน อยากให้ดูประเทศสิงคโปร์หรือประเทศแถบยุโรป โดยเฉพาะสวิตเซอร์แลนด์เป็นตัวอย่าง ประเทศเหล่านั้นมีสภาพภูมิศาสตร์ติดต่อประเทศเพื่อนบ้านคล้ายบ้านเรา โดยก่อนหน้านี้สวิตเซอร์แลนด์ก็คัดค้านบ่อนเสรี แต่สุดท้ายเวลาผ่านไป 20 ปีก็ได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชนผ่านการทำประชามติกว่า 30 ครั้งให้เปิดบ่อนอยู่ใจกลางประเทศ ดังนั้น อยากฝากไปถึงผู้ที่เข้ามาทำเรื่องนี้ว่าควรไปถามประชาชนว่าประเทศของเราควรมีบ่อนการพนันเสรีหรือยัง”
“มันหนีไม่พ้นอยู่แล้ว เชื่อเถิดว่าการพนันอยู่ในสายเลือดของคนไทยอยู่แล้ว เพียงแต่เราจะบริหารจัดการอย่างไรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะในเมื่อคนมันจะเล่นก็จัดพื้นที่ให้เล่นแบบถูกกฎหมายไปเลย ผมไปศึกษาดูงานมาทั่วโลกและได้เข้าบ่อนหลายแห่ง ผมเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ จนมีแนวคิดให้เปิดบ่อนเสรีในเมืองไทยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เงินหมุนเวียนอยู่ในประเทศ เพราะที่ผ่านมาคนไทยนำเงินไปเล่นพนันนอกประเทศจนเม็ดเงินหลุดออกไปมหาศาล เช่น กัมพูชา และมาเก๊า ทั้งที่ควรนำเงินรายได้เหล่านั้นมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบการศึกษาในประเทศได้อีกด้วย”
“ผมคือ ผบ.ตร.คนแรกที่กล้าพูดว่าเมืองไทยควรมีบ่อนเสียที อย่าหลอกตัวเองว่าเป็นเมืองพุทธเลย แม้แต่ประเทศที่ประชาชนเป็นชาวมุสลิมยังมีกาสิโนเปิดทั่วประเทศแม้กระทั่งในโรงแรม ผมเชื่อว่าวิธีคิดของผมสุดยอด หากรัฐบาลไม่ทำ ผมจะเปิดเว็บไซต์ขึ้นมา ชื่อ สมยศฟอร์กาสิโน เพื่อถามความคิดเห็นประชาชนเลยว่าควรเปิดหรือไม่ รัฐบาลต้องกำหนดว่าจะนำรายได้ 30 เปอร์เซ็นต์จากกาสิโนมาใช้ในเรื่องของการศึกษา ช่วยเหลือคนจน และทะนุบำรุงโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ทั้งนี้ ผมพร้อมถูกโจมตีจากกลุ่มต่างๆ ที่จะมาต่อต้าน ไม่กลัวอยู่แล้ว ไม่ใช่พ่อผมนี่ ผมสู้ได้ทุกประเด็น”
นั่นเป็นคำพูดของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนปัจจุบัน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่ประกาศสนับสนุนให้มีบ่อการพนันถูกแบบถูกกฎหมายอย่างเต็มที่ เพราะนี่ไม่ใช่แบบที่พูดสนับสนุนกันธรรมดา แต่ยังทำหน้าที่ในการเป็นผู้นำรณรงค์ให้เกิดขึ้นเป็นผลสำเร็จให้ได้ โดยจะมีการเปิดเพจให้ชาวบ้านเข้าไปสนับสนุน โดยเจ้าตัวถึงกับประกาศแบบชัดถ้อยชัดคำว่า “มีความเชี่ยวชาญเรื่องบ่อน” และรู้ดีที่สุด
ขณะที่ข้อความข้างล่างนี่คือข่าวเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ที่มีการรายงานว่า
“เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปู จ.สมุทรปราการ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บุกเข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมายในหมู่บ้านเมืองเอก ตำบลบางปูใหม่ จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งมีการลักลอบเปิดเป็นบ่อนเล่นการพนันประเภทไพ่เก้าเก จากการตรวจค้นสามารถจับกุมเซียนพนันทั้งหมดไว้ได้จำนวน 15 คน แบ่งเป็นชาย 8 คน หญิง 7 คน ยึดไพ่ 1 สำรับ เงินของกลาง 660 บาท ก่อนคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาสอบสวนที่ สภ.บางปู”
ทั้งสองข้อความข้างต้นเชื่อว่าคงทำให้หลายคนรู้สึกกระอักกระอ่วนบอกไม่ถูกเป็นแน่ เพราะทั้งคำพูดและข่าวที่เกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันมันช่างตัดกันอย่างสุดขั้ว สวนทางจนสร้างความสับสนทั้งทางด้านจริยธรรมและความเหมาะสมกับเรื่องนโยบาย สถานะที่ตัวเองดำรงอยู่ในฐานะที่เป็นตำรวจเป็นผู่รักษากฎหมายต้องทำหน้าที่ปราบปรามอบายมุข
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่เป็นถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้นำสูงสุดของตำรวจ กลับออกมาเคลือนไหวสนับสนุนให้มีการเปิดบ่อนการพนัน
แน่นอนว่าหากแนวความคิดดังกล่าวออกมาจากปากของนักวิชาการบางคน พวกนักการเมือง ก็ยังเป็นเรื่องที่ต้องแสดงความคิดเห็นส่วนจะได้ข้อสรุปอย่างไรตามมานั้นมันอีกเรื่องหนึ่ง และเรื่องแบบนี้มันก็เคยมีการเสนอกันมาหลายรอบแล้วแต่ไม่เคยสำเร็จคนเสนอก็เสียผู้เสียคนมาแล้วก็มาก แต่นี่กลายเป็นว่าคนที่เสนอสนับสนุนอย่างสุดตัวกับเป็นตำรวจ เป็นผู้รักษากฎหมายทำหน้าที่ปราบปรามอบายมุข และคาดไม่ถึงว่านี่คือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ท่าทีที่เกิดขึ้นดังกล่าวที่ออกมาจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติครั้งนี้จะอธบายอย่างไรกับนโยบายและคำสั่งของตัวเองทั้งก่อนหน้านี้และในอนาคตที่รับรู้กันทั่วว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในทุกพื้นที่ทั่วประเทศต้องกวดขันจับกุมป้องกันไม่ให้มีบ่อนการพนันในพื้นที่ ซึ่งหากมีการจับกุมเกิดขึ้นจากนอกหน่วยก็จะมีการโยกย้ายผู้บริหารสถานีตำรวจตามมาทันที ดังที่เราได้เห็นการโยกย้ายผู้กำกับรองผู้กำกับสถานีตำรวจหรือที่เรียกว่า “ห้าเสือ” แทบทุกครั้ง
แน่นอนว่าในความหมายของบ่อนการพนันที่เสนอนั้นเป็นเป็นแบบที่เรียกว่า “กาสิโน” แบบมาตรฐานครบวงจร ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวและคนไทยกระเป๋าหนัก ไม่ใช่ประเภทบ่อนกำถั่ว น้ำเต้าปูปลากระจอกๆ แน่นอน แต่เมื่อขึ้นชื่อว่าบ่อนมันก็ย่อมเป็นอบายมุข และที่ไม่สมควรอย่างยิ่งก็คือไม่สมควรออกมาจากปากของตำรวจ โดยเฉพาะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่คาดไม่ถึงว่าจะเป็นไปได้ถึงเพียงนี้
ย่างที่กล่าวเอาไว้ว่าเรื่องบ่อนการพนันถูกกฎหมายในอนาคตจะมีหรือไม่ไม่รูั แต่ที่รับไม่ได้ก็คือตำรวจเป็นคนเสนอให้เปิดบ่อนเสียเอง มองในแง่ความเหมาะสมถือว่าน่าหดหู่สิ้นดี และหากบอกว่านี่คืออีกเส้นทางสายปฏิรูปเพื่อหารายได้เข้าประเทศ เพราะคนเสนอเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปบางส่วนแถมเรียกตัวเองว่า “กลุ่มรักชาติ” มันก็ยิ่งสงสัยในระบบคิดเกี่ยวกับการปฏิรูปว่าสมควรฝากความหวังให้กับคนประเภทนี้ได้หรือไม่ อีกทั้งตามรายงานข่าวยังระบุว่ามีระดับบิ๊กในคณะรักษาคสามสงบแห่งชาติให้กับสนับสนุนการเปิดบ่อนดังกล่าวอีกด้วยมันก็ยิ่งสงสัยว่าจะปฏิรูปจนออกทะเลกันไปหรือเปล่า
อย่างไรก็ดี ในท้ายที่สุดแล้วคงไม่ใช่ความคิดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาคสามสงบแห่งชาติ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ย้ำว่ายินดีฟังคำสั่งแบบไม่มีเงื่อนไข ถือว่าเป็น “นาย” โดยตรง เพราะถ้าใช่จนทำให้มีการออกตัว “แรง” อย่างที่เห็นมันก็ยุ่งเหมือนกัน!