ช่อง 3 ปล่อยไก่! หยิบข่าวอำรายงาน นายกฯ กรีซ Unfriend ผู้นำเยอรมันบนเฟซบุ๊ก

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - เกิดเรื่องชวนหัวในวงการข่าว ช่อง 3 รายงานข่าว ผู้นำกรีซ Unfriend ผู้นำเยอรมันบนเฟซบุ๊ก หลังเจรจาหนี้สินไม่ได้ พบเป็นข่าวอำจากเว็บไซต์แนวเสียดสีของอังกฤษ อีกด้าน “มติชน” เอาไปขึ้นข่าวด้วย แต่พอรู้ตัวลบหายไร้ร่องรอย

วันนี้ (19 มิ.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า ในวงการข่าวโทรทัศน์ได้เกิดเรื่องชวนหัวขึ้นอีกครั้ง เมื่อรายการ “รอบวันทันเหตุการณ์” ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ออกอากาศเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้นำเสนอข่าวในหัวข้อข่าว “ผู้นำกรีซ Unfriend ผู้นำเยอรมันบนเฟซบุ๊ก” โดยรายงานระบุว่า เมื่อนายอเล็กซิส ไซปราส นายกรัฐมนตรีของกรีซ ตัดสินใจลบ นางแองเจลา มาร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมัน ออกจากรายชื่อเพื่อนในเฟซบุ๊ก หลังจากการเจรจาหาทางออกของปัญหาหนี้สินหลายร้อยล้านยูโรของกรีซ ที่ยังคงไม่สามารถตกลงกันได้ นอกจากนี้ นางแองเจลา โทรศัพท์และส่งข้อความหานายอเล็กซิส รวมแล้วเกือบ 30 ครั้ง ก่อนที่จะเกิดการเลิกเป็นเพื่อน

“นายอเล็กซิส กล่าวว่า ที่ตัดสินใจทำแบบนี้ เป็นเพราะไม่คิดว่าอยากจะส่งคำเชิญเกม Candy Crush และ Bubble Witch ไปให้กับนายกรัฐมนตรีเยอรมันคนนี้อีกต่อไป ทั้งยังบอกอีกด้วยว่าหากสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ต่อไป จะบล็อกนางแองเจลา บนทวิตเตอร์ และ อินสตาแกรม ด้วย ทางด้าน นางแองเจลา ไม่น้อยหน้ากัน โดยรายงานระบุว่า ได้ลบ นายอเล็กซิส ออกจากการเป็นพันธมิตรในเกม Grepolis และ World of Warcraft เป็นการแก้แค้น ซึ่งทำให้หลายฝ่ายกลัวว่าจะเป็นการทำให้สถานการณ์ความสัมพันธ์ของทั้ง 2 คน เลวร้ายลงไปอีก และอาจรวมไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วยเช่นกัน" รายงานข่าวของไทยทีวีสีช่อง 3 ระบุ

อย่างไรก็ตาม ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ได้พากันตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ผู้นำประเทศจะมีปัญหาตัดสัมพันธ์กันในเฟซบุ๊กเพราะเรื่องเกม ปรากฏว่าพบเว็บไซต์ที่มีชื่อว่า “News Thump” ซึ่งเป็นเว็บไซต์แนวข่าวอำและเสียดสี (UK Spoof News and Satire) จากประเทศอังกฤษ มีรายงานข่าวที่อำกันขึ้นในหัวข้อ "Greek Prime Minister unfriends Angela Merkel on Facebook" ซึ่งมีเนื้อหาใกล้เคียงกับรายงานข่าวของไทยทีวีสีช่อง 3 ทำให้กระแสในสังคมออนไลน์ออกมาตำหนิถึงการทำข่าวต่างประเทศของไทยทีวีสีช่อง 3 ที่แปลข่าวและลงข่าวนี้โดยไม่เคลือบแคลงสงสัยและตรวจสอบข้อเท็จจริง

สำหรับรายงานข่าวดังกล่าว ยังได้ลงเนื้อหาข่าวและวิดีโอคลิปในเว็บไซต์ krobkruakao.com ของไทยทีวีสีช่อง 3 และเว็บไซต์มติชนออนไลน์ ยังได้รายงานข่าวดังกล่าวอีกด้วย แต่ภายหลังเมื่อคนในสังคมออนไลน์ออกมาจับได้ ทั้งสองเว็บไซต์จึงใช้วิธีลบข่าวดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ โดยไม่ได้มีการชี้แจงใดๆ