เอเจนซีส์ – ในวันพุธ(17) ประชาชนชาวกรีกทุกเพศทุกวัยจำนวน 3,000 คนได้ตบเท้าลงถนนมุ่งหน้าสู่รัฐสภากรีซในกรุงเอเธนส์สนับสนุนนายกรัฐมนตรี อเลซิส ทซิปราส ที่ต่อต้านเจ้าหนี้ต่างชาติกดดันให้มีการบังคับใช้มาตรการรัดเข็มขัด และการตัดงบประมาณประเทศมากขึ้น ถึงแม้ว่ากรีซมีภาวะความเสี่ยงสูงที่จะผิดนัดชำระหนี้หากหาเงินไม่ทันตามกำหนดก็ตาม และผลโพลล่าสุดชี้ ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศยังคงต้องการให้กรีซยังคงอยู่เป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรปต่อไป
อัลญะซีเราะฮ์ สื่อกาตาร์รายงานวันนี้(18)ว่าในวันพุธ(17) ประชาชนกรีซราว 3,000 คนพร้อมใจปรากฏตัวบริเวณด้านหน้ารัฐสภากรีซ เพื่อสนับสนุนนายกรัฐมนตรี อเลซิส ทซิปราส ในการต่อต้านข้อเรียกร้องของบรรดาเจ้าหนี้รายใหญ่ต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็น IMF หรือสหภาพยุโรปที่เรียกร้องให้รัฐบาลกรีซใช้นโยบายรัดเข็มขัดให้มากไปกว่านี้
โดยประชาชนเหล่านั้นต่างเรียกร้องให้บรรดาเจ้าหนี้ต่างชาติเคารพการตัดสินใจประชาชนกรีซที่มอบความไว้วางใจให้กับพรรครัฐบาลไซริซา(Syriza)ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งมีนโยบายการหาเสียงสำคัญคือ การต่อต้านนโยบายการรัดเข็มขัดของประเทศ
สื่อกาตาร์รายงานเพิ่มเติมว่า ป้ายข้อความสีสันสะดุดตาที่บรรดาผู้ประท้วงต่างจัดหามานั้นมีข้อความเรียกร้องส่งไปยังบรรดาเจ้าหนี้ก้อนโต้ทั้งหลาย เช่น “ชีวิตของประชาชนชาวกรีซไม่ได้ขึ้นกับเจ้าหนี้ต่างชาติ” และต่างส่งเสียงร้องตะโกน “ต้องเคารพเส้นแดง” ที่โยงไปถึงเส้นตายการเจรจาของรัฐบาลกรีซในปัญหาหนี้สินที่ลากยาวนานกว่า 5 เดือน
ด้านรัฐมนตรีมหาดไทยกรีซ นิคอส วูตซิส" ได้ร่วมอยู่กับผู้ประท้วงเมื่อวานนี้(17)นี้ได้ยืนยันคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้ว่า จะต้องยกเลิกนโยบายการรัดเข็มขัด ในขณะที่รัฐมนตรีการคลังชาติสมาชิกในยุโรปต่างกำลังร่วมประชุมหารือในวันพฤหัสบดี(18)เพื่อบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับวิกฤตหนี้กรีซ
และก่อนหน้านี้ในวันอังคาร(16) นายกรัฐมนตรีกรีซที่มีอาบุน้อยที่สุดในประวัคติศาสตร์ร่วม 150 ปีของประเทศได้ออกมากล่าวโต้กับบรรดาเจ้าหนี้ต่างชาติว่า “เป็นความพยายามที่จะทำให้กรีซต้องอับอาย” โดยการยื่นข้อเสนอให้กรีซจำต้องหั่นงบประมาณของประเทศให้มากกว่านี้เพื่อแลกเปลี่ยนกับการได้รับความช่วยเหลือเงินก้อนใหม่ที่ถูกแช่แข็งมานาน
ทั้งนี้กรีซยืนยันว่า เงื่อนไขการขอรับความช่วยเหลืองวดก่อนหน้านี้นั้นเข้มงวดมากจนเกินไป และในวันอาทิตย์(14)รัฐบาลกรีซล้มเหลวในการเจรจาประนีประนอมกับเจ้าหนี้ต่างชาติ รวมไปถึงได้รับเงินช่วยเหลือก้อนใหม่ที่ต้องการเพื่อที่ทางกรีซจะสามารถชำระเงินจำนวน 1.8 พันล้านดอลลาร์คืนให้กับ IMF ภายในสิ้นเดือนมิถุนายน และรวมไปถึงเงินจำนวน 7.5 พันล้านที่ทางกรีซต้องชำระคืนในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม
อัลญะซีเราะฮ์รายงานว่า กรีซได้รับเงินก้อนราว 270 พันล้านในการกอบกู้วิกฤตจาก IMF Troika ธนาคารกลางแห่งยุโรป และ คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission)
นอกจากนี้ยังมีการทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนกรีซ ซึ่งพบว่าเสียงส่วนใหญ่ยังคงสนับสนุนให้กรีซยังคงอยู่ในสหภาพยุโรปต่อไป แต่ทว่าไม่ยอมรับมาตรการรัดเข็มขัดของบรรดาเจ้าหนี้ต่างชาติ
และในวันพุธ(18) นายกรัฐมนตรีเยอรมัน อังเกลา แมร์เคิล ประนามเอเธนส์ที่ไม่ใส่ใจเพียงพอถึงสภาพความเป็นจริงของสถานการณ์กรีซในเวลานี้