เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย นำชาวบ้าน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ฟ้องศาลปกครองกลางให้ฟันอธิบดีกรมชลฯ-นายก อบต.แก่งดินสอ-ส.ป.ก.-อธิบดีป่าไม้-อุทยาน-รมว.ทรัพย์ และอื่นๆ ขอสั่งเพิกถอนสร้างเขื่อนห้วยโสมง ชี้ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ 50 ทำชาวบ้านเดือดร้อนไร้ที่ทำกิน ไม่ได้เงินชดเชยที่เหมาะสม พร้อมขอคุ้มครองชั่วคราวระงับการรื้อถอนที่อยู่อาศัย ให้สั่งจัดสรรที่ทำกินพร้อมสิ่งปลูกสร้างแทนใน 90 วัน และชดเชยครัวเรือนละ 2.5 ล้าน
วันนี้ (17 มิ.ย.) ที่สำนักงานศาลปกครองกลาง นายศรีสุวรรณ จรรยา อุปนายกและเลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย พร้อมด้วยชาวบ้าน ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี 89 คน เข้ายื่นฟ้องอธิบดีกรมชลประทาน, นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแก่งดินสอ, สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม (ส.ป.ก.), อธิบดีกรมป่าไม้, คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ, คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก, รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ต่อศาลปกครองกลาง ขอให้สั่งเพิกถอนการก่อสร้างโครงการเขื่อนห้วยโสมง จ.ปราจีนบุรี เนื่องจากเห็นว่าโครงการดังกล่าวเข้าข่ายไม่ปฏิบัติตามมาตรา67 วรรค 2 และมาตรา 57 และ 58 ของรัฐธรรมนูญปี 2550 พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดินปี 2534 ที่ระบุให้มีการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบของสิ่งแวดล้อมและสุขภาพหรือEHIA ก่อนก่อสร้าง ส่งผลให้ชาวบ้านที่อยู่อาศัยบริเวณก่อสร้างได้รับความเดือดร้อน ไม่มีที่ดินทำกินและไม่ได้รับค่าใช้จ่ายทดแทนที่เหมาะสม รวมถึงมีการดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างของชาวบ้าน
นายศรีสุวรรณกล่าวอีกว่า ขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อ 1. ให้มีคำสั่งเพิกถอนโครงการก่อสร้างเขื่อนห้วยโสมง 2. หากไม่สามารถเพิกถอนได้ ขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องจัดสรรพื้นที่ทำกินพร้อมสิ่งปลูกสร้างให้แก่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบภายใน 90 วัน นับจากวันที่ศาลมีคำสั่งพิพากษา 3. ขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดภายในเวลาที่ศาลกำหนด ก่อนที่จะดำเนินการโครงการในพื้นที่พิพาท 4. ขอให้ศาลมีคำสั่งจ่ายค่าชดเชยกับชาวบ้านทุกคนที่ได้รับผลกระทบ ครอบครัวละ 2.5 ล้านบาท ตามคำสั่งของรองนายกรัฐมนตรี ตามหนังสือด่วนที่สุด นร0405 (ลร.4)/11285 ลงวันที่ 27 ส.ค. 2556 และ 5. ขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาแก่ผู้ฟ้องที่กำลังจะถูกคำสั่งของทางปกครองไล่รื้อถอนหรือทำลายที่อยู่อาศัย และระงับการรื้อถอนที่อยู่อาศัยและสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่พิพาทชั่วคราวจนกว่าจะมีคำพิพากษาหรือคดีถึงที่สุด