ทุ่มเงินกองทุนกีฬาฯ 145,185,000 บาท อัดฉีดเจ้าซีเกมส์ครั้งที่ 28 เผยเป็นเงินจากภาษีบาป หลังมีการบังคับใช้ พ.ร.บ.การกีฬาแห่งประเทศไทยฉบับใหม่ จัดเก็บ 2% เข้ากองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ด้าน “ทีมเรือพาย” รับทรัพย์ 31 ล้านจาก 11 เหรียญทอง ทีมฟุตบอลได้ 4 ล้าน
วันนี้ (16 มิ.ย.) มีรายงานว่า ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า “การมอบเงินรางวัลให้นักกีฬา เป็นไปตามระเบียบของกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ เมื่อคืนที่ผ่านมาได้ติดตามชมการแข่งขันฟุตบอลชายทีมชายไทย และรู้สึกดีใจที่ไทยคว้าแชมป์กีฬาฟุตบอลในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 28 ที่ประเทศสิงคโปร์ หลังจบครึ่งแรก ไทยยังไม่สามารถทำประตูได้ก็ไม่ได้กังวล เพราะมั่นใจในความสามารถของนักกีฬา และเชื่อว่าไทยจะได้รับชัยชนะ”
สำหรับกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ปัจจุบันมี พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ เป็นประธาน นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นรองประธาน มี พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ นายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ นายสุพล ศรีพันธุ์ นายสมพงษ์ ชาตะวิถี และนายนิพนธ์ ฮะกีมี เป็น กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
มีรายงานว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่สวนสนประดิพัทธ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 27 มี.ค.ว่า ครม.ได้อนุมัติงบเตรียมและส่งนักกีฬาไปทำศึกกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 28 ระหว่างวันที่ 5-16 มิ.ย.นี้ที่สิงคโปร์ ซึ่งยังขาดอยู่รวม 308 ล้านบาท โดยสำนักงบประมาณเห็นชอบให้ใช้จ่ายเงินประจำปี 2588 ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้รับการจัดสรรไปแล้ว 201 ล้านบาท และเห็นชอบให้ใช้งบกลางปี 2557 จำนวน 107 ล้านบาท มีรายงานด้วยว่า กองทุนพัฒนากีฬาการกีฬาแห่งชาติได้เสนอ ครม.เพื่อ เตรียมมอบเงินอัดฉีดให้ทัพนักกีฬาไทยตามหลักเกณฑ์ เหรียญทองรางวัลละ 200,000 บาท เหรียญเงิน 100,000 บาท และเหรียญทองแดง 50,000 บาท
ก่อนหน้านั้นเมื่อช่วงเดือนมีนาคม นายณัฐวุฒิ เรืองเวส ผอ.ฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ระบุว่า แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาจะไม่สามารถเบิกจ่ายงบประมาณในการเตรียมทีมต่างๆ ได้ แต่สมาคมก็ยังทำหน้าที่ของตัวเอง คือการสำรองเงินไปก่อน ที่ผ่านมางบประมาณเตรียมนักกีฬาจากรัฐบาลได้ส่งมายัง กกท. และ 30 สมาคมได้เบิกจ่ายไปแล้ว ถือว่างบมาได้ทันเวลา เพราะจะช่วยให้นักกีฬามีขวัญและกำลังใจที่ดี ในการเดินทางไปแข่งขันครั้งนี้
สำหรับเงินรางวัลของนักกีฬาซีเกมส์ครั้งนี้มีเงินเตรียมมอบให้เรียบร้อยแล้ว โดยตอนนี้กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติมีเงินจากภาษีบาปทยอยเข้ามาอยู่ประมาณ 400 กว่าล้าน คาดว่าซีเกมส์หนนี้นักกีฬาจะได้ประมาณ 100 เหรียญทอง ไม่ต่างจากซีเกมส์ครั้งที่แล้วที่กรุงเนปิดอว์ ประเทศพม่า คาดว่าเงินอัดฉีดน่าจะอยู่ที่ประมาณ 170 ล้านบาท ตามหลักเกณฑ์เหรียญทองละ 200,000 บาท เหรียญเงิน 100,000 บาท และเหรียญทองแดง 50,000 บาท ซึ่ง กกท.จะต้องเร่งแก้ระเบียบของกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ เพื่อให้สามารถอัดฉีดนักกีฬาได้อย่างรวดเร็วที่สุด
ทั้งนี้ มีการเปิดเผยจากสำนักงานกองทุนกีฬา กกท.ระบุว่า สมาคมกีฬาที่เข้าร่วมแข่งขันจะได้รับเงินอัดฉีด 30 เปอร์เซ็นต์ ส่วนผู้ฝึกสอนจะได้รับ 20 เปอร์เซ็นต์ และ 10 เปอร์เซ็นต์ในกรณีที่กีฬาทีมนั้นมีนักกีฬาเกิน 7 คนขึ้นไป
ล่าสุดทีมนักกีฬาจากประเทศไทยสามารถคว้าเจ้าเหรียญทอง ทำได้ 95 เหรียญทอง 83 เหรียญเงิน 69 เหรียญทองแดง คาดว่ากองทุนกีฬาน จะต้องอัดฉีดรวมทั้งสิ้น 145,185,000 บาท”
สำหรับสมาคมที่ได้รับเงินอัดฉีดมากที่สุด ได้แก่ สมาคมเรือพาย ได้ 11 เหรียญทอง 13 เหรียญเงิน และ 4 เหรียญทองแดง รับไป 31,610,000 บาท
ทั้งนี้ สมาคมฟุตบอลชาย แชมป์ 15 สมัย และแชมป์ 2 สมัยซ้อนจะได้รับเงินอัดฉีด จากกองทุนฯ รวม 4 ล้านบาท ส่วนกีฬาวูซูเป็นสมาคมกีฬาเดียวที่ไม่มีเหรียญรางวัลใดๆ แต่กองทุนพัฒนากีฬาการกีฬาแห่งชาติจะพิจารณามอบรางวัลให้นักกีฬาเพื่อเป็นขวัญกำลังใจด้วย
มีรายงานว่า มีการบังคับใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การกีฬาแห่งประเทศไทย ฉบับใหม่ที่ต้องมีการจัดเก็บเงินจากสินค้าในกลุ่มสุรา เบียร์ ยาสูบ เข้ากองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติในสัดส่วน 2% จากฐานภาษีสรรพสามิตของสินค้าทั้ง 3 ชนิด (ประมาณ 3,700 ล้านบาท) เริ่มตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม เป็นการเก็บจากผู้ผลิตและผู้นำเข้าสินค้าดังกล่าว คาดว่าจะเป็นเงินปีละกว่า 3,000 ล้านบาท การเก็บเข้ากองทุนกีฬา ไม่กระทบต่อภาษีของกรมสรรพสามิตที่จัดเก็บอยู่ในปัจจุบัน เนื่องจากการเก็บเงินเข้ากองทุนกีฬาจะคิดจากฐานของภาษีบาปจัดเก็บได้แต่ละปีในอัตรา 2% เป็นการเก็บเพิ่มจากผู้ประกอบการ สมมติว่าภาษีปีนี้เก็บได้ 100 บาท ต้องเก็บเงินเข้ากองทุนจากผู้ประกอบการ 2 บาท