“ครูหยุย” จัดกระทู้ ซัด สมศ.ประเมินคุณภาพการศึกษาไม่สะท้อนความจริง กลับเน้นประเมินผู้บริหาร-ครูจนไม่สนใจการสอน ปูดบางโรงเรียนงดสอนเพื่อจัดสถานที่รอประเมิน ทำการศึกษาต่ำ จี้รัฐปรับปรุงหรือยุบ สมศ. “ยงยุทธ” แจงเลิกคงไม่ได้ เล็งปรับให้ดีขึ้น มอบนโยบายเบื้องต้นทำระบบรับรองมาตรฐาน รับประเมินออนไลน์เหมาะ คาดจ้างบริษัทช่วย
วันนี้ (12 มิ.ย.) นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กระทู้ถามนายกรัฐมนตรี เรื่องขอให้พิจารณาปรับปรุงหรือยกเลิกสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา หรือ สมศ. เนื่องจากถูกตั้งข้อสังเกตจากนักวิชาการ นักศึกษา และภาคประชาสังคมว่า การประเมินคุณภาพการศึกษาของสมศ.ไม่สามารถสะท้อนคุณภาพการจัดการศึกษาที่แท้จริง เป็นการสร้างภาระและไม่ต้องกับเป้าหมายในการประเมิน มีเพียงหลักเกณฑ์เดียวทั้งที่สถานศึกษามีความหลากหลายและมีบริบทที่แตกต่างกัน และไม่ประเมินในสิ่งที่สถานศึกษาดำเนินการ จึงไม่สะท้อนถึงคุณภาพของสถานศึกษาอย่างแท้จริง นอกจากนี้การประเมินที่มุ่งเน้นที่ผู้บริหารสถานศึกษาและครูเป็นสำคัญ ทำให้ต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ในการจัดทำเอกสารจำนวนมากเตรียมไว้รองรับการประเมินเพื่อให้ได้คะแนนสูง โดยไม่สนใจการเรียนการสอน
“บางโรงเรียนถึงขนาดสั่งปิดโรงเรียนหรืองดการเรียนการสอน เพื่อให้นักเรียนมาช่วยจัดทำสภาพแวดล้อมของโรงเรียนให้สวยงามและให้การต้อนรับผู้ประเมิน ถือเป็นการเพิ่มภาระและอุปสรรคการศึกษา ทำให้คุณภาพการศึกษาของเด็กไทยตกต่ำอย่าต่อเนื่องและไม่สามารถยกระดับคุณภาพอย่างที่ควรจะเป็น ดังนั้นรัฐบาลมีนโยบายที่จะปรับปรุงหรือยกเลิก สมศ.หรือไม่ และเมื่อระบบประเมินเป็นระบบส่งข้อมูลทางออนไลน์ ยังจะมีการจัดจ้างบริษัทประเมินอีกหรือไม่”
ด้านนายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนนายกรัฐมนตรีตอบว่า การจะให้ยกเลิกคงทำไม่ได้เพราะได้บัญญัติชัดเจนในพระราชบัญญัติแล้ว ที่ต้องเป็นหน่วยงานกลางในการประเมิน ดังนั้นจะหาแนวทางปรับปรุงการประเมินให้ดีขึ้น ซึ่งรัฐบาลตระหนักถึงข้อห่วงใยของนักวิชาการและภาคประชาสังคม จึงได้มอบนโยบายเบื้องต้น โดยให้ทำระบบรับรองมาตรฐาน เช่น ดูในสถานประกอบการที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน อาจนำมาใช้กับระบบการศึกษาได้ด้วย ส่วนการประเมินในปัจจุบันมีระบบออนไลน์เข้ามาใช้งานที่สามารถรวบรวมข้อมูล เมื่อดูแนวโน้มแล้วถือว่าเป็นแนวทางที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ถึงแม้มีระบบประเมินออนไลน์ จะจัดจ้างบริษัทอีกหรือไม่นั้น ตามกฎหมาย ต้องมีการประเมินทุกแห่ง และมีบุคลากรไม่เพียงพอประเมิน จึงต้องจ้างบริษัทเข้ามาช่วย