“พิเชษฐ” แจงเครื่องราชฯที่ “ทักษิณ” ได้รับ เป็นพระราชอำนาจของ “พระมหากษัตริย์” ที่จะพระราชทานแก่ผู้ที่ทรงเห็นสมควร และเรียกคืนได้ เตือนอย่าไปก้าวล่วงพระราชอำนาจ พร้อมลั่นอะไรกันนักหนาเรื่องพาสปอร์ตแดง ขนาดนักกีฬา - นักแสดง ก็เคยได้รับ อีกทั้งกำหนด 5 ปี ก็หมดอายุไปเองโดยไม่ต้องยกเลิก
วันนี้ (11 มิ.ย.) นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ภาพหนังสือเดินทางทูต (พาสปอร์ตปกแดง) ของตัวเอง ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว “พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล” พร้อมระบุว่า อะไรกันนักหนา หนังสือเดินทางทูต Diplomatic Passport (พาสปอรต์ปกแดง) เป็นอำนาจเฉพาะของกระทรวงการต่างประเทศ ตามพิธีการทางการทูต ซึ่งยอมรับกันระหว่างประเทศที่ทางการเมืองไม่ควรเข้าไปครอบงำเกี่ยวข้องด้วย
นอกจากนี้ ยังมีคนที่เข้ามาถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงถือพาสปอร์ตเล่มแดงอยู่หรือไม่ นายพิเชษฐ ตอบว่า ทุกเล่มมีอายุ เดิม 2 ปี ปัจจุบัน 5 ปี คนที่ทำชื่อเสียงแก่ประเทศชาติ เช่น นักกีฬา นักแสดง ก็เคยได้ หรือคนที่เคยทำคุณประโยชน์แก่กระทรวงการต่างประเทศ ก็เคยได้ แต่ถูกหยิบมาเป็นประเด็นการเมืองเท่านั้น ดูเหมือนนางงามจักรวาล คุณพรทิพย์ นาคฯ ก็เคยได้ไปเล่มหนึ่งใช่มั้ยครับ (ผมจึงขึ้นว่า อะไรกันนักหนา)
พ.ต.ท.ทักษิณ มีสิทธิ์ได้พาสปอร์ตเล่มสีแดงในฐานะ 1.อดีต รมว.ตปท. สมัยหนึ่ง 2. อดีต นรม. สองสมัย แต่ทุกเล่มมีอายุ เมื่อหมดอายุเขาจะออกเล่มใหม่ให้ ตนไม่ทราบว่ามีการออกเล่มใหม่ให้คุณทักษิณ เมื่อไรหรือไม่ แต่เล่มเก่าจะหมดอายุไปตามกำหนดโดยไม่ต้องยกเลิก
นายพิเชษฐ ระบุอีกว่า ตนเคยได้รับติดต่อกันถึง 6 เล่ม ไม่ใช่ฐานะอดีตรัฐมนตรี แต่ในฐานะผู้เคยทำคุณแก่ประเทศชาติ และกระทรวงการต่างประเทศ ในคราวกู้วิกฤตเศรษฐกิจเมื่อ 2540 - 2544 กระทรวงมีระบบเก็บข้อมูลและให้ความสำคัญแก่ผู้ทำประโยชน์ แต่ก็ไม่มีประโยชน์พิเศษมากครับ เพราะปัจจุบันประเทศส่วนใหญ่ก็ยกเลิกวีซ่าเข้าประเทศหมดแล้ว ช่องทางพิเศษก็ไม่เคยใช้ เพราะปัจจุบันบริการ ตม. และสนามบินก็พิเศษใกล้เคียงกันหมดแล้ว
ถ้าสมยศฯเสนอ มีอะไรผิดพลาดต้องรับผิดชอบตามกฎหมายในฐานะเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ (ถ้าสุดท้ายถือว่ามิชอบนะครับ) ข้าราชการที่จะเกษียณใน 3 - 4 เดือนข้างหน้า ใครจะมาเสี่ยงละครับ
นายพิเชษฐ เผยต่อว่า เครื่องราชฯสูงสุดของทักษิณ คือ ทุตยจุลจอมเกล้าวิเศษ เป็นรองเพียงสายปฐมจุลจอมเกล้า และ ปฐมจุลจอมเกล้าวิเศษเท่านั้น
ถือเป็นเครื่องราชฯฝ่ายหน้าที่พระราชทานตามพระราชอัธยาศัย (เทียบเท่าพระยาพานทองสมัยก่อน) พวกคุณหญิง ท่านผุ้หญิง ทั้งหลายล้วนเป็นสายในตามพระราชอัธยาศัยที่ยังไม่สูงเท่า ครม. ชุดนี้ แม้คุณประยุทธ์ ก็ยังไม่มีเครื่องราชฯระดับนี้เลย แล้วใครจะเสนอให้เพิกถอน ผมพูดเพื่อเป็นความรู้แก่เพื่อนชาวเพซบุ๊กตามคำพังเพย ว่า “รู้มากยากนาน รู้น้อยพลอยรำคาญ” ไม่ถูกใจใครอย่าโกรธกันเลย ข้อสำคัญ จะให้ใครโปรดเกล้าฯครับ พระเจ้าอยู่หัว (ทรงประชวร) หรือ พระบรมฯ
นายพิเชษฐ ย้ำว่า ตนไม่มีการเมือง หรือ คติส่วนตัว รู้ว่าพูดไปอาจมีคนไม่พอใจ และเพื่อนๆ ในเฟซอาจหายไปอีกเยอะ แต่สังคมทุกวันเป็นเช่นนี้ เพราะคนไม่รู้ขยันพูด คนรู้กลับไม่กล้าพูด ลองเข้ากูเกิลดูสิ เครื่องราชทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษสำรับหนึ่ง ดูเหมือนมีราคาเกือบสี่แสนบาท กรมธนารักษ์เป็นผู้สร้าง ตนกำกับดูแลกรมธนารักษ์อย่างใกล้ชิดมาก่อน แต่กระแสสังคมทำให้พูดอะไรไม่ใคร่ได้ เห็นบิดเบือนกันจะน่ารำราญ
“พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจที่จะพระราชทานแก่ผู้ที่ทรงพระราชดำริเห็นสมควร และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้ได้ เข้าใจชัดเจนเรื่องเครื่องราชฯสักที และจบได้แล้วกระมังครับ อย่าไปก้าวล่วงในพระราชอำนาจเลย เรื่องนี้เป็นหลักทั่วไป ไม่เกี่ยวกับทักษิณหรือไม่ทักษิณครับ เดี๋ยวผมก็ต้องถูกกล่าวหาว่าถูกทักษิณซื้อตัวไปอีก ทักษิณสู้ค่าตัวผมไม่ไหวหรอกครับ”
นายพิเชษฐ ตอบปิดท้ายว่า ต้องแยกเครื่องราชจุลจอมเกล้า กับ มงกุฎไทย และ ช้างเผือก มงกุฎไทยกับช้างเผือกสำหรับราชการทั่วไป ราชการเสนอให้และเสนอเรียกคืนได้ จุลจอมเกล้าเป็นสายในทั้งฝ่ายในและฝ่ายหน้าเป็นเรื่องพระราชอำนาจ สายต่ำสุดจัตตุถจุลจอมเกล้าฝ่ายในใครได้รับยังได้เป็นคุณหรือคุณหญิง (แล้วแต่กรณี) ใครจะไปเสนอถอดถอนคุณหญิง หรือ ท่านผู้หญิง ได้ล่ะ เมื่อไม่นานที่เกิดเหตุขึ้นกับผู้สูงศักดิ์ท่านหนึ่งก็ต้องเป็นไปตามพระราชประสงค์และพระราชอำนาจทั้งสิ้น