“ประวิตร” แจงประชุมแม่น้ำ 3 สายเพื่อรายงานผลงานรัฐ ระบุปฏิรูปรัฐธรรมนูญหน้าที่ กมธ.ยกร่างฯ ยันเป็นพี่เลี้ยงไม่ได้ ย้ำห้ามเคลื่อนไหวการเมือง ให้จ้อตามที่จัดให้ เผยยังมี 4-5 คนเอี่ยวค้ามนุษย์ ออกหมายจับแล้ว 80 คน โต้ไม่ได้อุ้ม “มนัส” ปัดรู้จักส่วนตัว ลั่นใครเอี่ยวจับหมด ไล่ถามมะกันพ้นเทียร์ 3 หรือไม่ เชื่อดีขึ้น
วันนี้ (4 มิ.ย.) ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมสัมมนาระหว่างคณะรัฐมนตรี (ครม.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในช่วงบ่ายวันนี้ว่า เป็นการรายงานผลงานรัฐบาลในรอบ 6 เดือน และการปฏิรูปในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาให้แก่ สนช.และ สปช.ได้รับทราบว่าในแต่ละกลุ่มงานได้ดำเนินการอย่างไรบ้าง ไม่ได้เป็นแนวการประชุมแต่เป็นการรายงานเหมือนกับที่รัฐบาลได้รายงานต่อผู้สื่อข่าวรับฟังเหมือนที่ผ่านมา ส่วนเรื่องร่างรัฐธรรมนูญก็เป็นเรื่องของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามถึงกรณีที่กลุ่มการเมืองได้เสนอความคิดเห็นในการประชุมเวทีเสวนาปรองดองสมานฉันท์เพื่อความมั่นคงและยั่งยืนในสังคมไทย ครั้งที่ 2 ของศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมาต้องการให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกหน้าเป็นพี่เลี้ยงบอกคณะกรรมาธิการยกร่างฯ แก้ไขเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญนั้น พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เรื่องนี้ คสช.ไม่ได้เกี่ยวข้อง เพราะเป็นเรื่องที่ครม.จะต้องเสนอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญตามที่รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 ระบุไว้ แต่จะแก้ไขหรือไม่อยู่ที่คณะกรรมาธิการยกร่างฯ
เมื่อถามถึงกรณีที่กลุ่มนักการเมืองออกมาเคลื่อนไหวระบุว่าสิ่งที่เคลื่อนไหวเป็นเชิงสัญลักษณ์และปราศจากอาวุธ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ตอนนี้ยังมีกฎหมายไม่ให้เคลื่อนไหวทางการเมือง แต่รัฐบาลก็เข้าใจและเห็นว่าควรเปิดเวทีให้กลุ่มดังกล่าวพูด แต่ไม่ใช่การไปเคลื่อนไหวต่างๆ ที่ขัดกฎหมาย เพราะเราต้องการให้เกิดความสงบแบบนี้
พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงกรณีที่มีรายงานจากชุดสืบสวนว่าคดีค้ามนุษย์ที่มี พล.ท.มนัส คงแป้น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก เป็นผู้ต้องหานั้นพบว่ายังมีกลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มอีก 4-5 คนว่า เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ และตนก็ทำหน้าที่ดูแลตำรวจ พร้อมกับสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการอย่างเต็มที่ และเดินหน้าออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง จนถึงขณะนี้มีจำนวนกว่า 80 คนที่ถูกออกหมายจับ เนื่องจากพบว่าเกี่ยวข้องกับคดีค้ามนุษย์
“มีสื่อบางฉบับไปพาดหัวข่าวว่าผมอุ้ม พล.ท.มนัสนั้น ผมไม่เกี่ยว ตำรวจสอบสวนอย่างไรก็ต้องว่ากันไป ผมไม่รู้จักเขาส่วนตัว แต่รู้ข้อมูลว่าเขาเคยทำงานมาอย่างไร ก็เล่าให้สื่อมวลชนรับฟัง และก็นำไปเขียนปะติดปะต่อ ทำให้ไม่มีความชัดเจนจากที่ผมได้พูดทั้งหมด ผมไม่ได้พูดอะไรที่จะให้การสนับสนุน พล.ท.มนัส เรื่องของคดีเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ” พล.อ.ประวิตรกล่าว
เมื่อถามว่าการที่มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องจะส่งผลต่อกระบวนการดำเนินการแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ใครเกี่ยวข้องก็ต้องถูกดำเนินการไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารหรือประชาชน ก็ต้องถูกจับหมด เจ้าหน้าที่ไม่ได้ละเว้นทั้งหมด
เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ที่สหรัฐอเมริกาจะปรับอันดับความน่าเชื่อถือปัญหาการค้ามนุษย์ให้ไทยพ้นจากระดับเทียร์ 3 พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ถามตนไม่ได้ เพราะต้องไปถามสหรัฐฯ ส่วนตนก็ดำเนินการแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์อย่างเต็มที่ และทุกอย่างก็มีความก้าวหน้าไปอย่างดี น่าจะได้รับการพิจารณาอันดับที่ดีขึ้น