xs
xsm
sm
md
lg

ได้ที! ปชป.บี้ “ทักษิณ” ถอดยศ-ยึดคืนเครื่องราชฯ-จี้ ตร.สากล ลากมาลงโทษ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์
ประชาธิปัตย์ ได้ที โหนกระแส! ยึดพาสปอร์ต “ทักษิณ” บี้ ถอดยศ - ยึดคืนเครื่องราชฯ - จี้ “ตร.สากล” ลากมาลงโทษ ด่วน! ฐานไม่จงรักภักดีสถาบัน “วัชระ เพชรทอง” แนะ คสช. ใช้เครือข่ายมหาดไทย - สื่อรัฐ แจง ปชช. ระบบทักษิณบิดเบือน จ่อร้อง ป.ป.ช. ซ้ำ! ลงดาบ “ปึ้ง” ฐานออกหนังสือเดินทางให้นักโทษหนีดคีโดยมิชอบ

วันนี้ (27 พ.ค.) ภายหลัง กระทรวงการต่างประเทศ ได้ประกาศยกเลิกหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั้น

นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ต้องขอบคุณรัฐบาลที่ฟังเสียงเรียกร้องของประชาชนที่ให้บังคับไปตามกฎหมายภายใต้มาตรฐานเดียวกัน เป็นการพิสูจน์แล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นคนพูดจริงทำจริง โดยตนจะไปยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการกับ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรมว.ต่างประเทศ ที่บังอาจออกพาสสปอร์ตให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยมิชอบ ทั้งที่รู้ว่าเป็นนักโทษหลบหนีคดีและหมายจับจากไทย

นอกจากนี้ รัฐบาลต้องเร่งทำความเข้าใจกับประชาชนในชนบทว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่ได้กลั่นแกล้ง พ.ต.ท.ทักษิณ โดยผ่านกลไกของกระทรวงมหาดไทย และสื่อของรัฐ ให้เข้าใจในการบังคับใช้กฎหมายของรัฐบาล มิเช่นนั้น กลไกของระบบทักษิณจะไปบิดเบือนว่ากลั่นแกล้งพ.ต.ท.ทักษิณ จะทำให้ประชาชนเข้าใจรัฐบาลผิดมากยิ่งขึ้น เพราะข้าราชการต่างพากันใส่เกียร์ว่าง เพราะคิดว่าอีกไม่นาน คสช. ก็หมดอำนาจแล้ว

อีกทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ควรเร่งดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณด้วย เพราะคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตอบข้อหารือของ สตช. ไปแล้วถึง 2 ครั้ง และผู้ตรวจการแผ่นดินยังส่งหนังสือย้ำว่า สตช. มีอำนาจดำเนินการถอดยศได้ และ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. รับปาก และจับมือสัญญากับตนที่รัฐสภาเมื่อ 3 เดือนก่อน ว่า กำลังดำเนินการดังกล่าวเรื่องอยู่ในกระบวนการแล้ว ก็ควรเร่งรีบดำเนินการอย่าได้ประวิงเวลา เพราะความล่าช้าคือความอยุติธรรม

นอกจากนี้ การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวหาองคมนตรีและสถาบันกษัตริย์นั้นไม่ใช่เป็นครั้งแรก ในหนังสือ “จับเข่าคุยทักษิณ ชินวัตร” ที่เขียนโดย นายทอม เพลต และแปล โดย นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขานุการนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็มีข้อความหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และกล่าวหาว่ากองทัพบกฆ่าประชาชน ตนได้ไปร้องทุกข์ต่อกองปราบปรามแล้ว แต่คดีก็ยังเงียบอยู่ เพราะตำรวจใส่เกียร์ว่าง ตนก็จะไปร้องเรียนต่อ พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพภาคที่ 1 เพื่อที่จะให้ดำเนินคดีต่อพ.ต.ท.ทักษิณ กับพวก เพราะเห็นว่าเป็นผู้เอาจริงจังในเรื่องนี้

“พฤติกรรมจาบจ้วงเบื้องสูงของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีมาหลายครั้งต่างกรรมต่างวาระ ถึงเวลาแล้วที่พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องจัดการอย่างเด็ดขาดภายใต้กฎหมายให้สงบอยู่ภายใต้กฎหมายเหมือนกับประชาชนทั่วไป อย่าให้ทำตนอยู่เหนือกฎหมายไม่ยอมรับศาลยุติธรรม ไม่ยอมรับศาลฎีกา ไม่ยอมรับศาลรัฐธรรมนูญอีกต่อไป และถึงเวลาแล้วที่ต้องริบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของอดีตนายกฯท่านนี้ได้แล้ว เมื่อหาความจงรักภักดีไม่ได้ ก่อความไม่สงบขึ้นภายในประเทศ จนพินาศมาถึงทุกวันนี้ ถามว่าท่านพล.อ.ประยุทธ์ จะมัวรีรออะไรอยู่อีก”

เมื่อถามว่า คาดหวังกับการดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ของ พล.ต.อ.สมยศ แค่ไหน นายวัชระกล่าวว่า ตนไม่คาดหวังกับ พล.ต.อ.สมยศ แต่คาดหวังกับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เป็นความหวังของประชาชนทั้งประเทศขณะนี้ เพราะเผด็จการก็สามารถปกครองให้เกิดความเป็นธรรมได้ ถ้าใช้อำนาจในทางที่ถูกเหมือนเช่นที่รัฐบาลได้กระทำทุกวันนี้

“หากรัฐบาลไม่ทำอะไรเลยกับการกระทำที่ผิดกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ เท่ากับว่า ยิ่งกว่าจะเสียของ แต่เชื่อว่าท่านได้ทำแล้วและคาดว่าท่านจะทำต่อไป เพียงแต่รอดูทิศทางลมอยู่ แต่ผมมั่นใจว่าท่านจะทำแน่นอน”

ส่วนกรณีที่ นายสุรพงษ์ ประกาศว่า หากได้กลับมาเป็นรัฐบาลจะคืนพาสปอร์ตให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น นายวัชระ กล่าวว่า มันเป็นความฝันของนายสุรพงษ์ที่ชาติหน้าตอนบ่ายๆ ก็ไม่เกิด เพราะนายสุรพงษ์ ออกมาให้สัมภาษณ์เพียงเพื่อเรียกขวัญกำลังใจของเครือข่ายเสื้อแดงให้มีความหวังว่าสามารถกลับมาเป็นรัฐบาลได้ ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ว่าอนาคตของนายใหญ่จะจบลงอย่างไร

เด็ก ปชป.โหนกระแส แนะ “อินเตอร์โพล” ลาก “แม้ว” ลงโทษ

นายเกียรติ สิทธีอมร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้ควรที่จะดำเนินการตั้งนานแล้ว คิดว่าคงไม่เกี่ยวกับเนื้อหาบางส่วนในคำให้สัมภาษณ์ตามที่เป็นข่าว แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ที่หนีคดี จึงเข้าข่ายองค์ประกอบที่ไม่สมควรถือพาสปอร์ตของไทยอีกต่อไป รวมทั้งเรื่องที่สมควรมีการถอดยศด้วย เพราะเป็นผลมาจากพฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ เองในฐานะผู้มีคดีติดตัว ดังนั้น ทั้ง 2 เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องเดียวกันที่สมควรต้องดำเนินการ

พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นบุคคลสาธารณะคนหนึ่งที่เป็นที่รู้จักกันดี ดังนั้น กระทรวงการต่างประเทศ ควรชี้แจงให้ทุกประเทศทราบ ถึงการกระทำความผิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าผิดอะไร และการดำเนินการในครั้งนี้เป็นเพราะอะไร อย่าคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เหมือนคนปกติคนหนึ่ง เพราะยังมีการเคลื่อนไหวในลักษณะ ที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองอยู่ และคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่คดีการเมือง แต่เป็นคดีทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งเขาก็ยอมรับกระบวนการในช่วงต้น มีทนายของตัวเอง มีนักกฎหมายที่เชี่ยวชาญเก่งที่สุดคนหนึ่ง ไปปกป้องผลประโยชน์ พ.ต.ท.ทักษิณ ในชั้นศาล ในหลายคดีพ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัวถูกพิพากษาไม่ได้ประโยชน์ ก็ไม่ยอมรับ ดังนั้น จะมาบอกว่าไม่เป็นธรรมคงไม่ได้

“ผมเป็นกังวลว่าเหตุผลที่กระทรวงการต่างประเทศ ระบุผ่านเว็บไซต์ว่าถ้อยคำให้สัมภาษณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณ มีเนื้อหาบางส่วนที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงปลอดภัย หรือชื่อเสียงและเกียรติภูมิของประเทศไทยซึ่งไม่ใช่ แต่เพราะเป็นผู้ร้ายหนีคดีซึ่งศาลพิพากษาตัดสินแล้ว การยกเลิกพาสปอร์ตเป็นเรื่องปกติ ความจริงแล้วหน่วยงานของไทยต้องดำเนินการผ่านตำรวจสากล ในการนำตัวมากลับมารับโทษ และดำเนินคดีในประเทศไทย” นายเกียรติ กล่าว

ส่วนที่มีการมองว่าการที่รัฐบาลพิจารณายกเลิกพาสปอร์ตในช่วงนี้ เพื่อเรียกกระแสนิยมของรัฐบาลที่กำลังตกอยู่ในขณะนี้หรือไม่นั้น ตนไม่ให้ความสำคัญกับประเด็นนี้ แต่คิดว่าตามองค์ประกอบของกฎหมายต้องทำนานแล้ว และเหตุผลที่ต้องทำไม่ใช่เพราะคำให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ แต่มีความผิดอีกหลายกรณีที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง ที่กระทรวงการต่างประเทศยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ยังให้ใช้พาสปอร์ตแดง

“เพราะในขณะนั้นมีการพูดคุยประเด็นนี้กันพอสมควร มีการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรด้วย ดังนั้นเหตุผลในการยกเลิกพาสปอร์ตของ พ.ต.ท.ทักษิณ ครั้งนี้ มีมากเพียงพอ แต่สมควรต้องอธิบายให้ประชาคมโลกทราบ และกติกาของประเทศไทยไม่แตกต่างจากประเทศอื่น บอกความจริงกับเขาอย่าให้ต่างประเทศเดากันเองหรือดูในเวปไซต์เอง หรือปล่อยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ นำประเด็นนี้ไปเคลื่อนไหวอีกในต่างประเทศ”


นายเกียรติ สิทธีอมร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
กำลังโหลดความคิดเห็น