xs
xsm
sm
md
lg

เปิดระเบียบ “บัวแก้ว” หมวด 7 ข้อ 21 วรรค 4 ทำไม? ถึงยึดพาสปอร์ต “ทักษิณ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

หมวด 7 ในระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ. 2548 ประกาศ ณ วันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 โดย นายกันตธีร์ ศุภมงคล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
เปิดระเบียบ “บัวแก้ว” ว่าด้วยการขอพาสปอร์ต ย้ำ หมวด 7 ข้อ 21 วรรค 4 เจ้าหน้าที่สามารถปฏิเสธ หรือยับยั้งคำขอหนังสือเดินทางได้ หากพบว่า “จะกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงปลอดภัย หรือชื่อเสียงและเกียรติภูมิของประเทศไทย” ด้าน กลุ่ม 40 ส.ว. จี้ “ถอดยศทักษิณต่อ”

วันนี้ (27 พ.ค.) หลังจากกระทรวงการต่างประเทศ ประกาศยกเลิกหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) 2 เล่ม ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปแล้ว ขณะที่ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จากกลุ่ม 40 ส.ว. เช่น นายสมชาย แสวงการ กล่าวว่า เห็นด้วย และมองว่า กรณีที่เกิดขึ้นนั้นเป็นผลจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ให้ร้ายกับบุคคลและกระทบต่อความมั่นคงของชาติ และการดำเนินการนั้นเป็นไปตามระเบียบของกระทรวงการต่างประเทศ ในหมวด 7 ว่าด้วยการปฏิเสธหรือยับยั้งคำขอหนังสือเดินทาง

ส่วนตัวเชื่อว่า การดำเนินการที่ถูกต้องตามกฎหมายของประเทศไทย จะไม่ก่อให้เกิดแรงกระเพื่อม หรือการเคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆ ที่กระทบต่อความสงบของประเทศแน่นอน เพราะหากจะมีการเคลื่อนไหว คงมีเพียงการให้สัมภาษณ์เครือข่ายที่รับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้น แต่ประชาชนในต่างจังหวัดนั้น ขณะนี้มีความเข้าใจในประเด็นที่เกิดขึ้นแล้ว

ส่วนกรณีที่ฝ่ายความมั่นคงใช้อำนาจสั่งการให้กระทวงการต่างประเทศดำเนินการยึดพาสปอร์ต พ.ต.ท.ทักษิณ ในช่วงเวลานี้ ไม่ถือว่าเป็นการเปิดหน้าสู้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ มีแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้นที่เดินหน้าชนเพียงฝ่ายเดียวมาโดยตลอด ดังนั้น กรณีนี้เป็นการทำหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด จึงเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว และไม่เกี่ยวกับประเด็นการเมือง

นายประสาร มฤคพิทักษ์ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับกระทรวงการต่างประเทศที่ได้ทำหน้าที่ดังกล่าว ทั้งนี้ ตนไม่ขอวิจารณ์ว่าทำไมฝ่ายความมั่นคง หรือคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต้องปล่อยเวลานานถึง 1 ปี ก่อนที่จะดำเนินการยึดพาสปอร์ตของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเมื่อเขาได้ทำหน้าที่แล้ว ควรได้รับคำชมเชย

อย่างไรก็ตาม ตนขอเรียกร้องไปยังหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องให้ติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ มาดำเนินคดีในประเทศไทย รวมถึงขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ดำเนินการถอดยศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วย เพราะความผิดที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ทำนั้น ถือมีความโจ่งแจ้งมาก

มีรายงานว่า สำหรับ หมวด 7 การปฏิเสธหรือยับยั้งคำขอหนังสือเดินทาง ที่ นายสมชาย แสวงการ กล่าวอ้าง เป็นระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ. 2548 ประกาศ ณ วันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 โดย นายกันตธีร์ ศุภมงคล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เอง

โดยเฉพาะข้อ 21 พนักงานเจ้าหน้าที่สามารถปฏิเสธ หรือยับยั้งการขอ หรือแก้ไขหนังสือเดินทางในกรณี (2) เมื่อได้รับแจ้งว่าผู้ร้องเป็นผู้ซึ่งกำลังรับโทษในคดีอาญา หรืออยู่ระหว่างการปล่อยตัวชั่วคราว หรือเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาที่ได้มีการออกหมายจับไว้แล้ว ซึ่งศาลหรือพนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจเห็นว่าไม่ควรจะออกหนังสือเดินทางให้

รวมทั้ง (4) เมื่อผู้ร้อง (ผู้ถือพาสปอร์ต) กระทำผิดกฎหมายหรือระเบียบปฏิบัติทางราชการ ซึ่งขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือปิดบังความจริงอันเป็นสาระสำคัญ หรือแสดงเอกสารหลักฐานอันเป็นเท็จในการขอหนังสือเดินทาง หรือไม่อยู่ในฐานะที่จะเดินทางไปต่างประเทศได้ หรือหากเดินทางออกนอกราชอาณาจักร จะเป็นภัยต่อสวัสดิภาพของผู้เดินทางเอง หรือ “จะกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงปลอดภัย หรือชื่อเสียงและเกียรติภูมิของประเทศไทย” และ ข้อ 22 พนักงานเจ้าหน้าที่สามารถปฏิเสธหรือยับยั้งการขอและออกหนังสือเดินทางให้แก่ผู้ร้อง (ผู้ถือพาสปอร์ต) ได้.


กำลังโหลดความคิดเห็น