“สรรเสริญ” สวน “ไพร่เทียม” เลิกทำแตกแยก ฉะตัวเติมเชื้อไฟ จ้อไร้ความรับผิดชอบ ชี้คนทั้งชาติพิพากษาจากพฤติกรรมไปแล้ว ไล่ทบทวนตัวเอง เผย “ประยุทธ์” มีคำตอบในใจ แต่ไม่จำเป็นต้องตอบหมด แจงย้ำ กมธ.ยกร่างฯ เปิดช่องนายกฯ คนนอก หวังมีทางออกเมื่อถึงทางตัน ย้อนมีเนื้อหาแบบเดิม ก็ไม่หลุดวงจรเก่า กองทัพก็ถูกกดดันให้ออกมา
วันนี้ (27 พ.ค.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ออกมาให้สัมภาษณ์ทำนองเปรียบเปรยดูแคลนว่ารัฐธรรมนูญจะทำให้พลเมืองกลายพลทหารว่า “พลทหารคือลูกชายของพลเมืองเป็นลูกชายของคนไทยทุกบ้านทุกเรือน พลทหารเป็นกำลังหลักยามต้องปกป้องประเทศ คุณณัฐวุฒิไม่ควรใช้กำลังปัญญาเพียงแค่คิดประดิดประดอยถ้อยคำจนละเลยข้อเท็จจริง ซึ่งอาจสร้างรอยแผลและความแตกแยก แบ่งลูกออกจากครอบครัวเช่นนี้ สังคมไทยแตกร้าวมาหลายปี และปฏิเสธความจริงไม่ได้เลยว่า คุณณัฐวุฒิเป็นหนึ่งในผู้เติมเชื้อไฟ ด้วยวาทกรรมไร้ความรับผิดชอบแบบนี้ รัฐบาลไม่จำเป็นต้องพิพากษาคุณณัฐวุฒิ เพราะคนไทยทั้งประเทศได้พิพากษาคุณณัฐวุฒิไปแล้ว จากพฤติกรรมทั้งในอดีต และปัจจุบันของคุณณัฐวุฒิเอง อยากให้คุณณัฐวุฒิใช้เวลาแห่งการปฏิรูปนี้ทบทวนว่าควรทำสิ่งใดที่ทำให้สังคมไทยร่มเย็นขึ้นบ้าง”
พล.ต.สรรเสริญกล่าวต่อว่า ในกรณีที่มาของนายกรัฐมนตรีนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ท่านมีคำตอบในใจของท่านทุกเรื่อง เพราะผู้บริหารประเทศต้องมองไกลไปข้างหน้าเพื่อประเทศชาติในทุกประเด็น แต่ท่านไม่จำเป็นต้องตอบทุกเรื่อง และโดยตำแหน่งในปัจจุบันถือว่าท่านเป็นผู้มีส่วนได้เสียกับประเด็นนี้โดยตรง จึงคงไม่เหมาะสมหากท่านจะแสดงความเห็นไปทางใดทางหนึ่ง เป็นเรื่องที่ผู้ร่วมร่างและแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะเป็นผู้พิจารณาตามความจำเป็นแก่บ้านเมือง
“กรณีที่มาของนายกฯ ที่ไม่จำเป็นต้องมาจากการเลือกตั้ง โดยส่วนตัวผมเข้าใจว่า คณะกรรมาธิการยกร่างน่าจะมีเป้าหมายเพื่อเป็นเครื่องมือในภาวะที่การเมืองถึงทางตัน เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง เกิดการทุจริตคอร์รัปชันมากมาย ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านไม่อาจบริหารประเทศได้ เหมือนเช่นที่เคยเกิดขึ้น จนสถานการณ์บ้านเมืองไม่สามารถไปต่อได้ ทหารจึงต้องเข้ามารับผิดชอบยุติความขัดแย้งและความรุนแรงนั้น หากรัฐธรรมนูญเปิดช่องให้นายกฯ ไม่ต้องมาจากการเลือกตั้ง นักการเมืองทั้งสองฟากอาจจะเชิญคนนอกที่เป็นที่ยอมรับจากทั้งสองส่วน มาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีในภาวะนั้นแทน ซึ่งประชาชนก็คงต้องการเห็นบ้านเมืองมีทางออกและมีทางเลือกมากขึ้นในการแก้ไขปัญหาที่นักการเมืองสร้างไว้”
พล.ต.สรรเสริญกล่าวต่อว่า เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญมีไว้เพื่อแก้ไขปัญหาที่เคยเกิดขึ้นกับการเมืองไทยในอดีต หากรัฐธรรมนูญยังมีเนื้อหาแบบเดิม ใช้เครื่องมือเดิมๆ ประเทศก็จะไม่หลุดออกจากวงจรปัญหาเก่าๆ และกองทัพก็ไม่อยากถูกกดดันจากสังคมให้ต้องออกมาปฏิบัติหน้าที่ในลักษณะนี้อีก เพราะแม้ทหารจะทำด้วยความตั้งใจดี ต้องการรักษาบ้านเมืองให้ปกติสุข แต่ก็เสี่ยงที่จะเกิดความไม่เข้าใจจากนานาประเทศได้