รองนายกฯ เผยประชุมร่วม ครม.-คสช. 19 พ.ค.นี้ จะหารือถึงร่างรัฐธรรมนูญ และการทำประชามติ รับมีหลายมาตราในร่างรัฐธรรมนูญที่กังวล ส่วนเหตุระเบิดยะลามีนักการเมืองเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังสืบสวน
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึง การประชุมร่วมระหว่างคณะรัฐมนตรี (ครม.) กับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในวันที่ 19 พฤษภาคมนี้จะมีการหารือถึงการทำประชามติต่อร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ว่า เป็นเรื่องที่ ครม.และคสช. จะมีการพูดคุยกันในเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ ตลอดจนการทำประชามติว่าจะตกลงกันอย่างไร ถ้าทำประชามติก็จะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) 2557 โดย ครม.จะส่งเรื่องไปที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อพิจารณาให้แก้รัฐธรรมนูญก่อน ดังนั้นทาง ครม.จะต้องเสนอไปก่อน ส่วนข้อท้วงติงๆ ต่างต่อร่างรัฐธรรมนูญนั้น ภายหลังประชุมร่วม ทาง ครม.ก็จะทำข้อเสนอไปยังคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กมธ.ยกร่างฯ) ส่วนจะแก้ไขหรือไม่แก้ก็เป็นเรื่องของ กมธ.ยกร่างฯ โดย ครม.ไม่สามารถสั่งการได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า โดยส่วนตัวข้อกังวลต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “มันต้องพูดกันยาวนะ เพราะมันเยอะ มาถามผมตรงนี้ได้อย่างไร มันมีหลายมาตราที่กังวลเยอะอยู่เหมือนกัน”
พลล.อ.ประวิตรยังถึงกรณีที่ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ตั้งข้อสังเกตถึงเหตุการณ์ระเบิกที่จ.ยะลามีกลุ่มการเมืองเกี่ยวข้องว่า ตนยังไม่ทราบ แต่ทาง พล.อ.อุดมเดชอาจได้รับรายงานมา อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องไปสืบสวนเรื่องต่างๆ ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร ทั้งนี้ขอย้ำว่าเราจะจับคนกระทำการให้ได้เสียก่อน ทางเราก็จะพยายามดูแลรักษาความปลอดภัยเพื่อไม่ให้มีเหตุร้ายเกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ทั้ง จ.ปัตตานี และ จ.นราธิวาสมากขึ้นด้วย ทั้งนี้ต้องเข้าใจว่าคนที่ป้องกันเหตุร้ายกับคนที่จะจ้องก่อเหตุมันก็มี เพราะฉะนั้นก็จะมีเล็ดลอดได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าการก่อเหตุดังกล่าวเป็นการข่มขู่ให้เกิดความหวาดกลัวมากกว่า ส่วนความเป็นไปได้ของเหตุการณ์ในครั้งนี้อาจเชื่อมโยงกับขบวนการค้ามนุษย์ที่เสียผลประโยชน์แล้วจะอาศัยปมตรงนี้ก่อเหตุ รองนายกฯ กล่าวว่า อยู่ในขั้นตอนการสืบสวนว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ต้องดำเนินการต่อไป