ตั้ง อนุฯ ป.ป.ช.สอบ “อดีตบิ๊ก สกสค.” ใช้เงินเอื้อ “เสี่ยพันล้าน”

ตั้ง “วิชา - ปรีชา - สุภา” นั่งอนุฯ ป.ป.ช. ไต่สวนคดี อดีตผู้บริหาร สกสค. กับพวก ใช้เงินกู้ฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา ไปซื้อตั๋วสัญญาใช้เงิน 2,100 ล้านบาท โดยไม่ชอบ เผย ป.ป.ช. บรรยายชัดใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับ “บริษัทเสี่ยพันล้าน” เข้าข่ายเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

วันนี้ (14 พ.ค.) นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกคณะกรรมการ ป.ป.ช. แถลงถึงผลการพิจารณากรณีกล่าวหา นายสมศักดิ์ ตาไชย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) กับพวก ว่า อนุมัติให้นำเงินของกองทุนสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการเงินกู้ฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาไปซื้อตั๋วสัญญาใช้เงิน จำนวน 2,100 ล้านบาท และ 400 ล้านบาท โดยไม่ชอบ

คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นว่า คณะกรรมการบริหารกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค. ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการอนุมัติเงินกองทุนสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค. นั้น ได้มีมติอนุมัติให้ซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินจำนวน 2,100 ล้านบาท จากบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด โดยไม่ชอบ เนื่องจากภายหลังมีมติอนุมัติให้ซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินจำนวนดังกล่าว ก็ได้มีการโอนเงินไปยังบัญชีของบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด ไปก่อนที่จะมีการตรวจสอบการอาวัลตั๋วสัญญาใช้เงิน ซึ่งเป็นเงื่อนไขหนึ่งการซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินว่าได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้วหรือไม่

อันเป็นการดำเนินการในลักษณะที่เร่งรีบดำเนินการจนผิดปกติ ซึ่งในเวลาต่อมาก็ปรากฏว่าไม่ได้มีการอาวัลตั๋วสัญญาใช้เงินจำนวน 2,100 ล้านบาท แต่อย่างใด ทั้งนี้ ในเวลาต่อมา คณะกรรมการบริหารกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค. ยังได้มีมติอนุมัติให้ซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินจำนวน 400 ล้านบาท จากบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด เพิ่มเติม ทั้งที่ทราบดีอยู่แล้วว่าการดำเนินการอาวัลตั๋วสัญญาใช้เงิน จำนวน 2,100 ล้านบาท ดังกล่าวยังไม่แล้วเสร็จ

การดำเนินการดังกล่าวของคณะกรรมการบริหารกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค. จึงเป็นการดำเนินการโดยอาศัยการที่ตนมีอำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด อันเข้าข่ายเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

ดังนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีมติเห็นควรให้แต่งตั้งอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงตามกรณีกล่าวหาต่อไป โดยมีศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุไต่สวน นายปรีชา เลิศกมลมาศ กรรมการ ป.ป.ช. นางสาวสุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านกำกับ ดูแลสถาบันการเงิน เป็นอนุกรรมการไต่สวน

โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ของ “เสี่ยพันล้าน”

มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 58 นายสัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา นักธุรกิจพันล้าน เจ้าของบริษัท สัญญาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ผู้ถือหุ้นสโมสรฟุตบอลเรดดิ้ง แห่งศึกแชมเปียนชิป อังกฤษ และประธานผู้สนับสนุนสโมสรอินทรีเพื่อนตำรวจ ยอมรับว่า เมื่อประมาณกลางปี 2556 ตนได้ดำเนินการโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในนาม “บริษัท บิลเลี่ยนอินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด” ในพื้นที่ อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี รวม 1,200 ไร่ ด้วยงบประมาณ 6,500 ล้านบาท ต่อมาทาง สกสค. ได้ขอเข้าร่วมดำเนินการในโครงการนี้ โดยนำงบประมาณ 2,100 ล้านบาท มาร่วมลงทุน แต่ภายหลังได้มีอดีตผู้บริหาร สกสค. ได้แจ้งความพนักงานสอบสวน บก.ป. และ บก.ปปป. กล่าวหาว่าตนกระทำการซึ่งเข้าข่ายสนับสนุนข้าราชการโดยไม่ชอบ และมีการกู้ยืมเงินกองทุน สกสค. ผิดวัตถุประสงค์ ซึ่งไม่เป็นความจริง แต่เป็นกรณีที่ทาง สกสค. นำเงินมาร่วมลงทุนเอง