ประชุม สนช.พิจารณาแก้ประมวลกฎหมายอาญา กำหนดโทษผู้ครอบครอง-เผยแพร่-ขาย สื่อลามกอนาจารเด็ก เห็นชอบแก้คำเป็น “วัตถุหรือสิ่ง-แสดงผลให้เข้าใจความหมายได้” ก่อนลงมติผ่านฉลุย ประกาศใช้เป็นกฎหมาย “จินตนันท์” ขอบคุณกฎหมายผ่าน หลังสู้มา 8 ปี
วันนี้ (14 พ.ค.) ที่รัฐสภา การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช.เป็นประธานในการประชุม ได้มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่...) พ.ศ. .... (ความผิดเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็ก) เป็นวาระที่ 2 และ 3 ซึ่งเสนอโดย น.ส.จินตนันท์ ชญาต์ร ศุภมิตร และคณะ โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญซึ่งมี พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ เป็นประธาน ได้พิจารณาเสร็จแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาระสำคัญของร่างนี้ คือ กำหนดคำนิยามคำว่า “สื่อลามกอนาจารเด็ก” ไว้ในมาตรา 1 ของประมวลกฎหมายอาญา และแก้ไขมาตรา 287 ของประมวลกฎหมายอาญา ว่าด้วยการค้าและการทำให้แพร่หลายซึ่งสื่อลามก กำหนดให้ผู้ใดที่มีวัตถุหรือสื่อลามกอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี ไว้ในความครอบครอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากส่งต่อสื่อลามกอนาจารเด็กแก่ผู้อื่นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากทำการค้าและทำให้แพร่หลายซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3-10 ปี และปรับตั้งแต่ 60,000-200,000 บาท
สมาชิก สนช.ได้อภิปรายในมาตรา 3 บทนิยามของคำว่าสื่อลามกอนาจารเด็ก ที่มีการแก้ไขจากคำว่า “วัตถุอันลามก” เป็นคำว่า “สิ่งอันลามก” หากใช้คำว่าวัตถุจะทำให้เข้าใจได้ง่ายกว่าคำว่าสิ่งซึ่งตีความได้กว้าง ส่วนคำว่าหรือต่อหน้าเด็ก จะทำให้เกิดการตีความได้กว้างอีกเช่นกัน และคำว่าข้อความ ซึ่งมีความซ้ำซ้อนกับคำว่าเอกสาร ทำให้กรรมาธิการฯ ยอมปรับแก้ไขต่อที่ประชุมในมาตรา 3 ให้เปลี่ยนจากคำว่า “สิ่ง” เป็นคำว่า “วัตถุหรือสิ่ง” ตัดคำว่า “หรือต่อหน้าเด็ก” และตัดคำว่า “ข้อความ” ออก เปลี่ยนจากคำว่า “แสดงผลเป็นภาพ หรือข้อความ หรือเสียงได้” เป็นคำว่า “แสดงผลให้เข้าใจความหมายได้” นอกจากนี้ กรรมาธิการฯ ยังได้ปรับแก้ไขต่อที่ประชุมโดยการนำการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 287/2 ในประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งอยู่ภายในมาตรา 4 ของร่างนี้ กลับเข้ามาพร้อมแก้ไขคำเพียงเล็กน้อยแล้วตัดมาตรา 3/1 ของร่างนี้ที่แก้ไขเพิ่มเติมบทลงโทษกรณีทำการค้าและทำให้แพร่หลายซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก ย้ายไปไว้ในมาตรา 4 ของร่างนี้ที่แก้ไขมาตรา 287/2 ในประมวลกฎหมายอาญา เพื่อความชัดเจน โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบกับการแก้ไขดังกล่าว
ต่อมาสมาชิก สนช.ได้มีการลงมติในวาระ 3 โดยผลปรากฏว่าสมาชิกได้ลงมติเห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาฉบับนี้ ด้วยคะแนนเสียง 193 ต่อ 1 งดออกเสียง 2 ให้ประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป หลังการลงมติ น.ส.จินตนันท์ ชญาต์ร ศุภมิตร ได้กล่าวขอบคุณต่อสมาชิก สนช.ที่มีมติผ่านร่างแก้ไขกฎหมายนี้ เพราะตนสู้เรื่องนี้มา 8 ปี และถือว่าในวันนี้ทุกคนได้ทำบุญร่วมกันในการคุ้มครองเด็ก