“วัชระ” จี้ ยธ.รื้อคดีการเมืองที่ “ธาริต” เมินฟ้อง จวกพวกให้นายกฯ ฉีกโรดแมป

อดีต ส.ส.ปชป.เรียกร้อง รมว.ยุติธรรม รื้อคดีพร้อมตั้งกรรมการสอบวินัย อดีตอธิบดี DSI เหตุไม่สั่งฟ้อง 4 คดีการเมือง ยิงวัดพระแก้ว - “กี้ร์” ขู่เผา กทม. - “จ่าประสิทธิ์” มีอาวุธทหาร และ “คางคกตู่” มั่วเอกสารทหารฆ่าประชาชน พร้อมคดีก่อการร้าย เตรียมเข้ายื่นหลักฐานพรุ่งนี้ ฉะพวกให้ “บิ๊กตู่” อยู่เกินโรดแมปหวังดีประสงค์ร้าย ให้ทรยศคำพูดลูกผู้ชาย ขออย่าหูเบา

วันนี้ (13 พ.ค.) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ได้แถลงข่าวเรียกร้องให้ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รื้อคดีพิเศษ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ตั้งกรรมการสอบวินัยนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะที่ไม่สั่งฟ้องคดีพิเศษต่อบุคคลบางกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทางการเมืองรวม 4 คดี คือ 1. การที่นายธาริตไม่ดำเนินคดีต่อ พ.ต.อ.ศุภชัย ผุยแก้วคำ ในกรณีที่เป็นผู้จ้างวานให้ยิงวัดพระแก้ว เป็นเงิน 5 แสนบาท ซึ่งที่ผ่านมานั้นทางนายธาริตเป็นผู้ยืนยันเองว่า พ.ต.อ.ศุภชัยเป็นผู้ยิงวัดพระแก้วในนามของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) แต่ในเวลาต่อมากลับไม่มีการนำเอา พ.ต.อ.ศุภชัยไปเป็นผู้ต้องหาคดีพิเศษในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และยังได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นผู้กำกับ สน.บวรมงคล เท่ากับว่านายธาริตนั้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เรื่องนี้ตนต้องเรียกร้องไปยังนายไพบูลย์ที่เป็นกรรมการคดีพิเศษให้รื้อคดี พ.ต.อ.ศุภชัยขึ้นมาด้วย และถ้าเกิดว่า พ.ต.อ.ศุภชัยเป็นผู้บริสุทธิ์จริงก็ขอให้ทางดีเอสไอและสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ช่วยแถลงข่าวให้ชัดเจน

นายวัชระกล่าวต่อว่า อีกคดีพิเศษที่ 2 ที่ตนเรียกร้องก็คือ คดีพิเศษ ที่ 242-243/2553 กรณีนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยและแกนนำ นปช. ปราศรัยปลุกระดมคนเสื้อแดงให้หาขวดมาเติมน้ำมันเชื้อเพลิง 1 ล้านลิตร เผากรุงเทพฯ เป็นทะเลเพลิง พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ ผู้รับผิดชอบคดีก็สั่งไม่ฟ้องในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ คดีที่ 3 คือคดีพิเศษที่ 357/2553 คดีที่นายประสิทธ์ ไชยศรีษะ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยและแกนนำ นปช.มียุทธภัณฑ์ทหารไว้ในครอบครองถูกดองสำนวนคดีจนถึงปัจจุบันโดยคำสั่งของนายธาริต และ 4. คดีพิเศษที่ 8/2554 นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. อ้างเอกสารราชการว่าทหารฆ่าประชาชนในวัดปทุมวนารามฯ 6 ศพ โดยนายธาริตสั่งให้พ.ต.ท.ถวัยล์ มั่งคั่ง ดำเนินคดีโดยนายธาริตเป็นผู้กล่าวหาด้วยตนเอง ขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับฐานทำพยานหลักฐานเท็จ แต่เมื่อนายธาริตได้อยู่ต่อในตำแหน่งเดิม ก็สั่งไม่ฟ้องโดยใช้ศาลเป็นเครื่องมือ นอกจากนี้ คดีพิเศษที่ 18/2553 คือ คดีก่อการร้ายที่มีจำเลยร่วม 20 คน ก็ทราบว่าดีเอสไอไม่มีการสั่งฟ้องให้เป็นคดีพิเศษแต่อย่างใด ตนจะยื่นหลักฐานพร้อมข้อเท็จจริงให้ พล.อ.ไพบูลย์ รมว.ยุติธรรม ในเวลา 11.00 น. วันที่ 14 พ.ค. ให้รื้อทั้ง 4 คดีตามที่ได้ประกาศว่ายินดีจะรื้อคดีพิเศษให้ประชาชนทุกคดีเพราะเป็นกรรมการคดีพิเศษด้วย

ส่วนกรณีที่มีการเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่เกิน 2 ปี หรือนานเกินกว่าโรดแมปนนั้น ตนมองว่าล้วนเป็นพวกหวังดีประสงค์ร้าย จะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ตกสู่บ่วงแห่งอำนาจ เพราะเท่ากับว่า พล.อ.ประยุทธ์นั้นได้ทรยศต่อคำพูดของตัวเองซึ่งลูกผู้ชายเขาไม่ทำกัน และจะเป็นเงื่อนไขไปสู่ความไม่สงบในที่สุด

“พวกที่เขียนรัฐธรรมนูญเพื่อสืบทอดอำนาจ พวกนี้ก็ล้วนแต่เป็นขันทีกลับชาติมาเกิด ทำให้ผู้นำประเทศแต่ละยุคสมัยพังมาแล้วทั้งสิ้น เมื่อท่านเป็นผู้นำประเทศกรุณาอย่าหูเบา พูดคำไหนคำนั้น คำพูดของท่านต้องศักดิ์สิทธิ์ เหมือนกับอำนาจที่ท่านมีตามมาตรา 44” นายวัชระกล่าว