“ฉัตรชัย” สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบป้องกันโครงการบริหารจัดการน้ำ

รอง ผบ.ทบ. เผยสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบป้องกันทุจริตโครงการบริหารจัดการน้ำ 11 หน่วยงาน พร้อมประชุมติดตามงานทุก 3 เดือน เล็งสำรวจ 8 ลุ่มน้ำวิกฤตป้องกันน้ำท่วมแบบยั่งยืน ภายในปี 2560 ปลูกป่าต้นน้ำตามแผนแม่บท 4.75 ล้านไร่ เน้นภาคอีสาน พร้อมเตรียมตั้งองค์กรสานต่องาน

วันนี้ (12 พ.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ แถลงภายหลังการประชุมภายหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติผ่านร่างยุทธศาสตร์บริหารจัดการน้ำ ว่า เป็นการประชุมเพื่อหารือกับ 11 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามความคืบหน้าโครงการบริหารจัดการน้ำ ทั้งนี้ ในส่วนของปีงบประมาณ 2557 เสร็จสิ้นเกือบหมดแล้วเหลือเพียงแค่ 3% หรือ 87 โครงการที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง แต่คาดว่าจะเริ่มต้นดำเนินการได้ในปี 2558 นี้ เพื่อตอบสนองและเน้นหนักในเรื่องน้ำอุปโภคและบริโภคทั่วประเทศ สำหรับในปีงบประมาณ 2558 ซึ่งมี 19,012 โครงการ ซึ่งจะใช้งบประมาณประจำปีของ 11 หน่วยงาน จำนวน 6 หมื่นล้านบาท โดยโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จแล้วมี 3,766 โครงการ และอยู่ระหว่างดำเนินการ 64% จำนวน 6,972 โครงการ และอยู่ระหว่างการหาผู้รับจ้างมาดำเนินการ 2% จำนวน 181 โครงการในส่วนของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมโยธิการและผังเมือง กรมทรัพยากรน้ำ เป็นต้น โดยจะเร่งจัดซื้อจัดจ้างให้แล้วเสร็จในเดือน ส.ค. นี้

อย่างไรก็ตาม สำหรับการบริหารจัดการน้ำในปี 2558 นี้ ได้มีการของบประมาณเพิ่มเติม เนื่องจากทางคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ เห็นว่า มีความจำเป็นเร่งด่วน โดยผ่านการอนุมัติจาก ครม. แล้ว เป็นเงินกู้ 3.9 หมื่นล้าน และงบประมาณกลางของแต่ละหน่วยงาน สำหรับโครงการในส่วนของงบประมาณเพิ่มเติมนี้อยู่ระหว่างการหาผู้รับจ้าง ซึ่งทุกหน่วยงานยืนยันว่าจะดำเนินการให้ทันภายในปีงบประมาณ 2558 ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ 11 หน่วยงานจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเพื่อป้องกันการทุจริตในโครงการต่างๆ และเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ พร้อมกับจะมีการจัดประชุมติดตามความคืบหน้าทุก 3 เดือน และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีอุปสรรคและปัญหาในการดำเนินการ ยกเว้นบางโครงการที่ยกเลิกไป เพราะซ้ำซ้อนในการดำเนินการของแต่ละส่วนงาน

พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวอีกว่า ยืนยันว่า โครงการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลชุดที่แล้ว ที่ตรงกับแนวทางของรัฐบาลนี้ก็จะดำเนินการต่อ เช่น การจัดหาประปาหมู่บ้านให้ทั่วทั้งประเทศ จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2561 การจัดงานน้ำอุปโภคและบริโภคทั่วประเทศ จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2565 ส่วนแนวทางในการป้องกันน้ำท่วม การจัดงานแหล่งน้ำขนาดใหญ่ จะมีการสำรวจออกแบบว่าต้องใช้งบประมาณเท่าไร อยู่ที่การศึกษาและการออกแบบ ซึ่งกำหนดดำเนินการให้แล้วเสร็จใน 5 ปี และจะต้องมีการตั้งราคากลางและเปิดประมูลในการดำเนินการ ทั้งนี้ ในเรื่องการป้องกันแก้ไขน้ำท่วม คณะกรรมการได้มีการกำหนดพื้นที่วิกฤตและนำไปสู่การปฏิบัติใน 8 ลุ่มน้ำ โดยมีการศึกษาในหลายหน่วยงานให้แล้วเสร็จภายในปี 2560 โดยยุทธศาสตร์น้ำได้แบ่งชัดเจนแล้วเป็น 3 ระยะ ซึ่งระยะสุดท้ายคือ ปี 2569

อย่างไรก็ตาม ยุทธศาสตร์ในเรื่องการบริหารจัดการน้ำอย่างอื่นนั้น จะมีการปลูกป่าต้นน้ำตามแผนแม่บท 4.75 ล้านไร่ ในพื้นที่เป้าหมายในรายจังหวัด เน้นในเรื่องการเก็บกักน้ำให้เพิ่มขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาพบว่า ในพื้นที่ภาคอีสานมีปัญหาเรื่องแหล่งน้ำอุปโภคบริโภคมากที่สุดจึงจะมีการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวเพื่อรองรับชุมชน โดยการประปาภูมิภาคจะรับผิดชอบดำเนินการ นอกจากนั้น จะมีการตั้งองค์กรขึ้นมารองรับกับคณะกรรมการบริหาร เพื่อเผยแพร่ให้ประชาชนเข้าใจในยุทธศาสตร์บริหารจัดการน้ำของรัฐบาล ส่วนในเรื่องโครงการแผนงานเร่งด่วนที่เป็นโครงการขนาดใหญ่และเร่งด่วน เช่น การป้องกันน้ำท่วม การกักเก็บน้ำ จะมีการของบเพิ่มเติมเพื่อให้ดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ