กาญจนบุรี - พบปริมาณน้ำใน 2 เขื่อนยักษ์เมืองกาญจนบุรีลดฮวบ วอนประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด ส่วนแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง “สะพานมอญ” น้ำแห้งขอด แพเริ่มเกยตื้น ด้านปลัดเทศบาลตำบลวังกะ เตรียมนำตัวอย่างน้ำประปาที่ผลิตไปตรวจสอบ หวั่นกระทบคุณภาพ
วันนี้ (6 พ.ค.) นายธนรัชต์ ภุมมะกสิกร ผอ.เขื่อนศรีนครินทร์ เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ล่าสุด วันนี้ 6 พ.ค.อยู่ในระดับ 165.54 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ปริมาณน้ำที่มีอยู่ จำนวน 12,314.99 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 69.40% หากนำไปเปรียบเทียบในวันเดียวกันกับเมื่อปีที่แล้ว น้ำจะอยู่ที่ระดับ 168.03 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นปริมาณน้ำ 13,160.70 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 74.17%
ส่วนเขื่อนวชิราลงกรณ อยู่ที่ระดับ 139.79 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ปริมาณน้ำ จำนวน 4,066.33 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 45.90% และหากนำไปเปรียบเทียบกับปริมาณน้ำในวันเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว จะพบว่า สถานการณ์น้ำขณะนั้นอยู่ที่ระดับ 142.05 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง คิดเป็นปริมาณน้ำ 4,638.30 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 52.35% จึงสรุปได้ว่าปริมาณน้ำของเขื่อนทั้ง 2 เขื่อนในปีนี้ลดลงกว่าปีที่แล้ว จากปริมาณน้ำที่ลดลงมากกว่าปีที่แล้ว ทำให้ทุกภาคส่วนเกิดความกังวลว่า น้ำที่มีอยู่จะเพียงพอต่อความต้องการหรือไม่
ดังนั้น เขื่อนศรีนครินทร์ ขอชี้แจงว่า ปริมาณน้ำที่มีอยู่ทั้ง 2 เขื่อนมีรวมกันประมาณ 3,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งในแต่ละวันทั้ง 2 เขื่อน จะปล่อยน้ำรวมกันวันละ 17 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่าการปล่อยน้ำยังคงเป็นไปตามปกติ จึงไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด แต่อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัดที่สุดก่อนที่จะเข้าสู่ฤดูฝนนี้
ด้าน นายมานพ เกิดแดง ปลัดเทศบาลตำบลวังกะ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้พื้นที่อำเภอสังขละบุรี ค่อนข้างประสบต่อปัญหาภัยแล้งเป็นอย่างมาก เนื่องจากช่วงฤดูฝนของปีที่ผ่านมา ปริมาณฝนตกไม่ตรงตามฤดูกาล และฝนตกค่อนข้างน้อยมาก โดยเฉพาะในเขตรักษาพันสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ทำให้ส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำที่มีอยู่ในอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ อ.ทองผาภูมิ
สำหรับเขตเทศบาลตำบลวังกะ ตั้งอยู่ท้ายอ่างเก็บน้ำ เมื่อน้ำในอ่างลดลงส่งผลทำให้ปริมาณน้ำท้ายเขื่อนบริเวณลำน้ำซองกาเรียตลอดสายแห้งขอด แพที่ให้บริการนักท่องเที่ยวติดกับสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของอำเภอสังขละบุรี เกิดการเกยตื้น
“และหากช่วงเดือนพฤษภาคมนี้กำลังเข้าสู่ฤดูฝน หากฝนตกมาเร็วก็คงไม่ส่งผลกระทบมากนัก แต่หากภายใน 1 ถึง 2 อาทิตย์ ฝนยังไม่ตกลงมา ประชาชนในพื้นที่คงได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน โดยเฉพาะปัญหาคุณภาพของน้ำที่นำมาผลิตน้ำประปา คาดว่าภายในอาทิตย์นี้จำเป็นจะต้องเก็บตัวอย่างน้ำประปาที่ผลิตออกมาไปให้ผู้เชี่ยวชาญของการประปาภูมิภาค อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ตรวจสอบคุณภาพอีกครั้งหนึ่ง”
วันนี้ (6 พ.ค.) นายธนรัชต์ ภุมมะกสิกร ผอ.เขื่อนศรีนครินทร์ เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ล่าสุด วันนี้ 6 พ.ค.อยู่ในระดับ 165.54 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ปริมาณน้ำที่มีอยู่ จำนวน 12,314.99 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 69.40% หากนำไปเปรียบเทียบในวันเดียวกันกับเมื่อปีที่แล้ว น้ำจะอยู่ที่ระดับ 168.03 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นปริมาณน้ำ 13,160.70 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 74.17%
ส่วนเขื่อนวชิราลงกรณ อยู่ที่ระดับ 139.79 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ปริมาณน้ำ จำนวน 4,066.33 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 45.90% และหากนำไปเปรียบเทียบกับปริมาณน้ำในวันเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว จะพบว่า สถานการณ์น้ำขณะนั้นอยู่ที่ระดับ 142.05 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง คิดเป็นปริมาณน้ำ 4,638.30 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 52.35% จึงสรุปได้ว่าปริมาณน้ำของเขื่อนทั้ง 2 เขื่อนในปีนี้ลดลงกว่าปีที่แล้ว จากปริมาณน้ำที่ลดลงมากกว่าปีที่แล้ว ทำให้ทุกภาคส่วนเกิดความกังวลว่า น้ำที่มีอยู่จะเพียงพอต่อความต้องการหรือไม่
ดังนั้น เขื่อนศรีนครินทร์ ขอชี้แจงว่า ปริมาณน้ำที่มีอยู่ทั้ง 2 เขื่อนมีรวมกันประมาณ 3,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งในแต่ละวันทั้ง 2 เขื่อน จะปล่อยน้ำรวมกันวันละ 17 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่าการปล่อยน้ำยังคงเป็นไปตามปกติ จึงไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด แต่อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัดที่สุดก่อนที่จะเข้าสู่ฤดูฝนนี้
ด้าน นายมานพ เกิดแดง ปลัดเทศบาลตำบลวังกะ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้พื้นที่อำเภอสังขละบุรี ค่อนข้างประสบต่อปัญหาภัยแล้งเป็นอย่างมาก เนื่องจากช่วงฤดูฝนของปีที่ผ่านมา ปริมาณฝนตกไม่ตรงตามฤดูกาล และฝนตกค่อนข้างน้อยมาก โดยเฉพาะในเขตรักษาพันสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ทำให้ส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำที่มีอยู่ในอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ อ.ทองผาภูมิ
สำหรับเขตเทศบาลตำบลวังกะ ตั้งอยู่ท้ายอ่างเก็บน้ำ เมื่อน้ำในอ่างลดลงส่งผลทำให้ปริมาณน้ำท้ายเขื่อนบริเวณลำน้ำซองกาเรียตลอดสายแห้งขอด แพที่ให้บริการนักท่องเที่ยวติดกับสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของอำเภอสังขละบุรี เกิดการเกยตื้น
“และหากช่วงเดือนพฤษภาคมนี้กำลังเข้าสู่ฤดูฝน หากฝนตกมาเร็วก็คงไม่ส่งผลกระทบมากนัก แต่หากภายใน 1 ถึง 2 อาทิตย์ ฝนยังไม่ตกลงมา ประชาชนในพื้นที่คงได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน โดยเฉพาะปัญหาคุณภาพของน้ำที่นำมาผลิตน้ำประปา คาดว่าภายในอาทิตย์นี้จำเป็นจะต้องเก็บตัวอย่างน้ำประปาที่ผลิตออกมาไปให้ผู้เชี่ยวชาญของการประปาภูมิภาค อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ตรวจสอบคุณภาพอีกครั้งหนึ่ง”