xs
xsm
sm
md
lg

ฝ่ายปกครองขยับช้าจัง !!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เกาะกระแส


00 มีคำสั่งล่าสุดจาก ผบ.ตร.พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง โยกย้ายนายตำรวจระดับสัญญาบัตรอีกล็อตจำนวน 14 นายจากปัญหาค้ามนุษย์โรฮินจา โดยส่วนใหญ่เป็นระดับผู้กำกับยศพันตำรวจเอก และรองผู้กำกับยศพันตำรวจโท ลงมาจนถึงยศร้อยตำรวจเอก จากหน่วยงานกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และ 9 รวมทั้งกองกำการตำรวจตะเวณชายแดน เวลานี้จำไม่ได้แล้วว่ามีตำรวจถูกคำสั่งย้ายเซ่นสังเวยปัญหาการค้ามนุษย์ดังกล่าวไปกี่คนแล้ว แน่นอนว่าคำสั่งย้ายแบบนี้ ย้ายออกนอกพื้นที่แบบนี้ เป็นการแก้ปัญหาในเชิงบริหาร แต่ก็เรียกว่าเป็นการแก้ปัญหาแบบ"เฉพาะหน้า"เท่านั้น ยังไม่ถือว่าเป็นการแก้ปัญหาอย่างแท้จริง อย่างไรก็ดียังถือว่าเป็นการสนองตอบต่ออารมณ์ของประชาชนจากภายนอกได้ดี อย่างน้อยก็ทำให้เห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นแล้ว

00 ขณะเดียวกันยังเชื่อว่าจะต้องมีการโยกย้ายจากหน่วยงานอื่นตามมาอีก โดยเฉพาะหน่วยงานปกครองกระทรวงมหาดไทย ที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบในพื้นที่ไม่ได้เป็นอันขาด เพราะที่ผ่านมาแม้แต่ฝ่ายกองทัพภาคที่ 4 ก็มีการขยับไปแล้ว โดยคำสั่งของ ผบ.ทบ.พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ก็ยังเปิดเผยว่ามีการย้ายนายทหารยศพันเอกระดับผู้บังคับการกรมนายหนึ่งออกจากพื้นที่ไปแล้ว รวมทั้งมีการสอบสวนรายอื่นตามมา แต่สำหรับกระทรวงมหาดไทยที่เป็นหน่วยงานปกครองกลับเคลื่อนไหวล่าช้า และแม้ว่าในที่สุดแล้วก็ต้องมีแรงบีบผ่านมาทาง มท.1 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ย้ายล็อตใหญ่ตามมาตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯประกาศเอาไว้ว่าทุกฝ่ายต้องรับผิดชอบ แต่คำถามก็คือทำไมมันช้านัก สะท้อนให้เห็นระบบการทำงานของระบบราชการยุคโบราณอยู่หรือเปล่า !!

00 นั่นเป็นเรื่องเร่งด่วนคือการโยกย้าย ลงโทษ ขรก.ที่ต้องทำ และต้องเร่งทำกันโดยเร็ว เพื่อสะท้อนให้เห็นว่านี่คือปฏิกิริยาตอบสนองต่อปัญหาของฝ่ายรัฐ ซึ่งต้องเข้าใจเสียก่อนว่าการโยกย้ายข้าราชการเป็นเพียงแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่แท้จริง อย่างไรก็ดีจากปัญหาโรฮินจา ในพื้นที่ชายแดนใต้มันก็เหมือน "ฝีแตก"ทำให้เป็นจุดสนใจว่า "ที่นี่มีปัญหาสารพัด" ซึ่งหากมองในมุมกลับก็ต้องบอกว่าในยุคปัจจุบันในยุคที่ "มีอำนาจพิเศษ"มีความหวังที่จะสะสางปัญหาที่หมักหมมมานาน และเชื่อว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งทำไม่ได้

00 สิ่งที่ต้องรับรับรู้กันก็คือชายแดนใต้ เปรียบเหมือนพื้นที่ไกลปืนเที่ยง มีปัญหาซับซ้อนและละเอียดอ่อน เพราะมีเรื่องวัฒนธรรม ศาสนา ความเชื่อที่แตกต่างกัน อีกทั้งผสมโรงเข้าไปด้วยเรื่อง"ปม"ทางประวัติศาสตร์ ที่ฝังใจมานานนับสองร้อยปี ดังนั้นมันต้องใช้ขรก.ที่มีไฟ มีอุดมการณ์ มีความพร้อมที่จะเข้าไปแก้ปัญหาอย่างใจเย็น และยุทธศาสตร์ที่ได้ผลก็คือ ยุทธศาสตร์พระราชทาน "เข้าใจ เข้าถึงและพัฒนา" แต่ปัญหาก็คือที่ผ่านมายังทำกันไม่เต็มสูบ ซึ่งที่กล้าพูดแบบนี้ก็มองจากปัญหาโรฮินจา นั่นไง เพราะนี่เป็นเพียงเรื่องเดียว แต่ชายแดนใต้มีสารพัด"เรื่องเดียวกัน"คือ ยังมียาเสพติด ที่ขอบอกว่า"หนักมาก"ในหมู่เยาวชน ค้าน้ำมันเถื่อนสินค้าเถื่อนสารพัด ซึ่งธุรกิจเถื่อนแบบนี้จะเฟื่องฟูไม่ได้หากไม่มีขรก.หนุนหลัง หรือแบ่งผลประโยชน์ ดังนั้นได้แต่หวังว่าการมีอำนาจพิเศษของ คสช.และรัฐบาลที่มีเอกภาพจะเอาจริง ไม่ลูบหน้าปะจมูก เพราะหากแก้ปัญหาธุกิจเถื่อนพวกนี้ได้ ปัญหาไฟใต้ก็จะลดลงไปได้มาก !!

00 มีความคืบหน้าออกมาอีกขั้นหนึ่งนั่นคือ ตัวเลขการความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว ที่กระทรวงการคลังโดย รมว.คลัง สมหมาย ภาษี กำลังผลักดันให้มีการออกมาตรการล้างหนี้เป็นการเฉพาะ เพื่อลดภาระงบประมาณไม่ให้ไปเบียดบังงบด้านการลงทุน หรืองบประจำปีอื่นๆ โดยตัวเลขหนี้สินที่จะต้องจัดการรวมทั้งหมดประมาณ 9 แสนล้านบาท อาจจะไม่เป็นธรรมนักหากบอกว่าเป็นโครงการจำนำข้าวทั้งหมด เพราะตัวเลขที่เพิ่งออกมาล่าสุดราว 7 แสนกว่าล้านบาท ที่เหลือก็เป็นหนี้จากโครงการอื่นทั้งจากโครงการรับประกันสินค้าเกษตร การจาดทุนของการรถไฟ ขสมก.เป็นต้น โดยวิธีการที่จะนำมาแก้ปัญหาก็คือ ออกเป็นพันธบัตร เป็นต้น แต่ที่เป็นความจริงอีกก็คือ ต้องใช้หนี้กันไม่ต่ำกว่า 30 ปี เป็นไงละ"แม่นางประชาธิปไตย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่จนบัดนี้ยังลอยหน้าลอยตาอ้างบุญคุณกับประเทศในทำนอง ประเทศขาดทุนแค่นี้เมื่อแลกกับชาวนารวยจะเป็นไรไป แต่ถ้าเป็นเงินของตัวเองสักบาทจะพูดแบบนี้หรือเปล่า ทุด !!
กำลังโหลดความคิดเห็น