xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” ชี้ปัญหาโรฮิงญาต้องแก้ที่ต้นทางและปลายทาง ลั่น จนท.มีเอี่ยวฟันแน่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“นายกรัฐมนตรี” ชี้การแก้ปัญหาโรฮิงญาต้องทำทั้งต้นทางและปลายทาง ระบุปัญหาเรื้อรังเพราะเจ้าหน้าที่ไม่จริงจัง จับได้แล้วปล่อย คนชั่วและเจ้าหน้าที่ที่ไม่ดีร่วมมือหาผลประโยชน์ ยันเอาผิดเจ้าหน้าที่ร่วมทำผิด พร้อมกำชับให้บูรณาการการทำงานอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันเร่งหารือมาเลเซีย-พม่าภายในเดือนนี้ พร้อมเล็งตั้งคณะทำงานร่วม 3 ประเทศ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาชาวโรฮิงญาว่า การแก้ไขปัญหาในระยะยาวและสั้นเป็นเรื่องเดียวกัน แต่ต้องทำให้เข้มแข็งทั้งต้นทางถึงปลายทาง เราแก้ในประเทศอย่างเดียวไม่ได้ ต้องแก้ไขจากต้นทาง คือ ประเทศพม่า และบังกลาเทศด้วย ส่วนกระบวนการยุติธรรมที่ใช้ในการลงโทษผู้ที่เป็นนายหน้านั้นเป็นไปตามกฎหมายอาญา วันนี้เราจริงจัง ที่ผ่านมามีการจับกุมได้แล้วก็ปล่อยไปเพราะไม่มีความจริงจัง อย่างไรก็ตาม ที่มีการสั่งการให้ดำเนินการภายใน 10 วันนั้นคือต้องคลี่คลายให้ได้ โดยต้องเร่งดำเนินการว่าอยู่ในพื้นที่ใดอย่างไร แต่ไม่ใช่ว่า 10 วันเสร็จ เพราะปัญหานี้เกิดมานานแล้ว

“ชาวโรฮิงญาที่เข้ามาในประเทศไทยนั้นมี 2 กรณี คือ เข้ามาแล้วผ่านไป โดยเลาะทะเลมาแล้วไปสู่ประเทศที่ 3 ซึ่งนายหน้าหาประโยชน์ให้เข้ามาในประเทศไทย มีทั้งคนชั่วและเจ้าหน้าที่ที่ไม่ดี ถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่ช่วยก็ทำไม่ได้ ต้องไปดำเนินการให้ได้ โดยวันนี้ ทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายความมั่นคงได้ช่วยกันดี สิ่งที่ประเทศไทยต้องการคือการบูรณาการ การทำงานที่จริงจังและต่อเนื่อง รัฐบาลมีหน้าที่เอาใจใส่กวดขันทุกเรื่อง เพราะเป็นเรื่องของประเทศ ไม่ได้เลือกทำ ผมบอกแล้วว่าจะทำทุกเรื่อง เมื่อรัฐบาลใหม่เข้ามาก็แก้ให้ได้ก็แล้วกัน”

ส่วนที่มีตำรวจและทหารเกี่ยวข้องกับคดีนี้จะดำเนินการอย่างไรนั้น พล.อ.ประยุทธ์ตอบอย่างมีอารมณ์ฉุนว่า “โธ่เอ๊ย มาถามแบบนี้ทำไมวะ ถามให้มีเรื่องนี่หว่า เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเราก็จะลงโทษ เป็นผู้บังคับบัญชาคนไม่ลงโทษคนได้ยังไงวะ ถ้ารู้ก็ลงโทษหมดแหละ”

ต่อข้อถามว่า มีทหารเข้าไปเกี่ยวข้องมากหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเสียงดังว่า ไม่รู้ เขากำลังสอบอยู่ เมื่อถามว่าที่เคยบอกว่าต่างประเทศให้ความเชื่อมั่นตัวนายกฯ คิดว่าตรงนี้จะทำให้มีแนวโน้มที่ดีในการแก้ไขปัญหาเรื่องค้ามนุษย์ด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ปัญหาเกิดมานานแล้ว และจะแก้ไขได้ภายใน 6 เดือนหรือไม่ ตนจะแก้ไขไปเรื่อยๆ แต่ไม่ได้บอกว่าจะให้ทันภายใน 6 เดือน รู้หรือไม่ว่ามีกี่ประเทศที่โดน แล้วเขาแก้กันมา 6 เดือนแล้วได้หรือไม่ เขาไม่ให้หรอก ต้องดัดนิสัยเสียบ้าง

ผู้สื่อข่าวถามถึงการเตรียมความพร้อมจากการที่สัปดาห์หน้าจะมีทั้งอียูและไอยูยูมาประเทศไทย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ที่มีการจับกุมและประชุมกันอยู่ทุกวัน ฝ่ายความมั่นคงกำลังประชุมอยู่ เมื่อวานนี้ (6 พ.ค.) ก็มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการทางทะเลของทหารเรือไปแล้ว โดยตนใช้มาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญไปแล้ว เมื่อก่อนทุกกระทรวงแยกกันทำและรัฐบาลก็ปล่อยให้ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองตามกฎหมายของตัวเอง ไม่ได้บูรณาการสั่งการกันแบบนี้

ผู้สื่อข่าถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตหรือไม่ว่าที่มีการพบหลุมศพชาวโรฮิงญาที่ อ.สะเดา จ.สงขลา ในช่วงนี้เพราะต้องการดิสเครดิตรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่รู้ จะไปรู้ได้อย่างไร เพราะรัฐบาลจริงจัง เจ้าหน้าที่ลงไปดูชาวบ้านก็เกิดความไว้ใจมากขึ้น เรื่องทั้งหมดประชาชนเป็นคนมาบอกทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีเสียงตอบรับอะไรมาจากทางประเทศมาเลเซีย แต่เราได้ร่วมมือกันและจะมีการนัดประชุมแก้ไขปัญหา รวมถึงประเทศพม่าภายในสิ้นเดือนนี้ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศกำลังจัดรูปแบบอยู่ โดยกระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้ดำเนินการ โดยที่ตนไม่ต้องนั่งหัวโต๊ะเอง ซึ่งภาพใหญ่ของทุกรัฐบาลต้องมีเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว และได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานมาบูรณาการกัน และเมื่อประชุมร่วมกันระหว่างประเทศก็จะมีคณะทำงานร่วม โดยเป็นเรื่องของการต่างประเทศ ด้านความมั่นคง มีการพูดคุยในหลักการไปแล้ว แต่อยู่ที่จะทำเมื่อไหร่ก็เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ขอให้มีการดูแลชาวโรฮิงญาตั้งแต่ต้นทางซึ่งปัญหาการอพยพของชาวโรฮิงญาใครจะรับ เราจะรับหรือไม่ เพราะที่เราก็น้อยลง

ต่อข้อถามว่า เมื่อส่งกลับไม่ได้แล้วจะทำอย่างไร หัวหน้า คสช.กล่าวว่า ตอบไม่ได้ว่าจะทำอย่างไร ประเทศที่ 3 มีใครรับ พูดกันมากี่ปีแล้ว ศูนย์พักพิงพูดมากี่ปีแล้ว ทั้งนี้มีตัวเลขที่อพยพจากการรบทางชายแดนพม่าทั้งหมดประมาณ 1 แสนคน เป็นชาวโรฮิงญากว่า 1,000 คน ส่วนที่จับได้นั้นตนตอบไม่ได้ ทั้งนี้ต้องไปดูว่าบังกลาเทศซึ่งเป็นประเทศที่ยากจน แห้งแล้ง มีศูนย์อพยพจำนวนมาก มีคนที่ออกมาทำงานบ้านเรา เมื่อทำไปทำมาก็เป็นขบวนการที่ผิดกฎหมาย แต่อย่าไปโทษใคร เมื่อประเทศเราอยู่ตรงกลาง ต้องร่วมกันแก้ไขปัญหา และประเทศปลายทางที่คาดว่าชาวโรฮิงญาจะเดินทางไปเป็นประเทศที่นับถือศาสนาเดียวกัน ซึ่งเขาไม่อยากจะรับเพราะคนเยอะอยู่แล้ว แต่ก็ต้องเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน เพราะให้เขามาอยู่บ้านเราก็ไม่ยอม เมื่อส่งเขาต่อไปที่ไหนไม่ได้ เราต้องส่งเขากลับไปยังต้นทางหรือปลายทางว่าจะรับหรือไม่ เรื่องนี้ต้องช่วยกัน









กำลังโหลดความคิดเห็น