นายกรัฐมนตรีสั่งเร่งทำมาตรการและแผนระดับชาติป้องกันการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ไม่รายงาน และไร้การควบคุม ตามกฎของสหภาพยุโรปภายในเดือนนี้ เผยกรมประมงได้เอฟเอโอช่วยจัดทำกฎหมายทำประมงนอกน่านน้ำและการอนุรักษ์ กองทัพเรือลั่นเปิดได้แล้วศูนย์ควบคุมดูแลเรือทั้ง 22 จังหวัดชายทะเล
วันนี้ (6 พ.ค.) ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ว่าที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหากฎระเบียบว่าด้วยการป้องกัน ต่อต้าน และขจัดการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ไม่รายงาน และไร้การควบคุม หรือกฎไอยูยู (IUU) ของสหภาพยุโรป หรืออียู โดยมีตัวแทนจากกองทัพเรือ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เข้าร่วมชี้แจง โดยสถานการณ์ในการแก้ไขปัญหาในเรื่องการปรับปรุงพระราชบัญญัติการประมง และกฎหมายลูก ซึ่งอยู่ระหว่างการร่างของกรมประมง ประมาณ 70 ฉบับ โดยเป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการทำประมงไอยูยูที่จำเป็นและเร่งด่วนจำนวน 18 ฉบับ เป็นกฎกระทรวง 7 ฉบับ และเป็นกฎหมายกับประกาศกระทรวง 11 ฉบับ ล่าสุดทางกรมประมงได้ส่งให้กฤษฎีกาตรวจสอบร่างแล้ว
นอกจากนี้ยังมีกฎหมายรองที่เกี่ยวข้องกับมาตรการของรัฐ กับเจ้าของท่า และเกี่ยวข้องกับการป้องกันการทำประมงไอยูยู เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดสากล ซึ่งทางกรมประมงได้รับการสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายจากทางองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) ในการทำร่างกฎหมายลำดับรอง โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับประมงนอกน่านน้ำ และมาตรการการอนุรักษ์และบริหารจัดการประมงระหว่างประเทศ ส่วนกฎหมายรองลำดับอื่นๆ สามารถอาศัยอำนาจตามบทเฉพาะกาล ตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 ที่ประกาศไว้ได้
ส่วนการจัดทำแผนระดับชาติ ในการป้องกัน ยับยั้ง และขจัดการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม (NPOA-IUU) นั้น ทางกรมประมงได้ยกร่าง และปรับปรุง ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้อง เป็นการเพิ่มเติมรายละเอียด เกี่ยวกับตัวชี้วัด และช่วงเวลาดำเนินการตามที่กรรมาธิการยุโรปด้านประมง และทะเลเสนอแนะ ซึ่งทาง รมว. เกษตรฯ ชี้แจงว่า แผนดังกล่าวสัปดาห์จะมีคณะทำงานของอียู คณะแรกเดินทางมาเยี่ยมเยือนประเทศไทย โดยจะมีการหารือร่วมกัน ซึ่งอาจมีการปรับปรุงแผนต่อไป นอกจากนั้นจะมีแผนปฏิบัติการในช่วง 6 เดือนหลังจากนี้ด้วย
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับเรื่องมาตรการ และแผนปฏิบัติการ โดยขอให้แล้วเสร็จภายในปลายเดือน พ.ค.นี้ รวมถึงให้พิจารณาการปรับย้ายบุคคลากรที่อาจจะกระทำความผิด หรือเกี่ยวข้องกับไอยูยูว่าจะมีแนวทางดังกล่าวอย่างไร โดยขอให้ใช้แนวทางกฎระเบียบของกระทรวง ทบวง กรม ในการพิจารณา และมีการรายงานตามลำดับ หากมีข้อขัดแย้งข้อขัดข้อง ให้ทางกองทัพเรือเสนอมาที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต่อไปเพื่อดำเนินการ
สำหรับการจัดระเบียบเรือประมงไทย เพื่อให้เรือประมงไทยเข้าสู่ระบบการควบคุมได้อย่างถูกต้อง ทางกรมประมง ได้ร่วมกับกรมเจ้าท่า และกรมการปกครอง ในการออกหน่วยเคลื่อนที่จดทะเบียน และออกใบอนุญาต และรับจดแจ้งเครื่องมือควบคุม ในการทำประมง โดยมีเรือเข้ารับการจดทะเบียนทั้งสิ้น 59,070 ลำ และจดใบอนุญาต 28,364 ลำ โดยทางกองทัพเรือได้ชี้แจงว่า ได้มีการบูรณาการทำงานตามที่หัวหน้า คสช. ได้สั่งการ ณ วันนี้มีศูนย์ควบคุมดูแลเรือ ในการเข้าออกท่าทั้ง 22 จังหวัดชายทะเล โดยจะเริ่มปฏิบัติการได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ให้กองทัพเรือลงรายละเอียดเรื่องแผนงาน และงบประมาณ ที่อาจจะต้องใช้บูรณาการร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีโดยเร็วที่สุด
