กรรมาธิการปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน สปช. จ่อยื่นแก้รัฐธรรมนูญให้รัฐจัดยุทธศาสตร์ชาติ 5 กลุ่ม ทั้งภาครัฐ เอกชน ภาคประชาชน วิชาการ และผู้ทรงคุณวุฒิ
วันนี้ (28 เม.ย.) พ.ต.ต.ยงยุทธ สาระสมบัติ ประธานคณะอนุกรรมาธิการจัดทำกฎหมายว่าด้วยยุทธศาสตร์ชาติ ในคณะกรรมาธิการปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวว่า คณะกรรมาธิการปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งมี นายธีรยุทธ หล่อเลิศรัตน์ เป็นประธาน ได้ร่วมกันผลักดันให้มีการบัญญัติยุทธศาสตร์ชาติไว้ในรัฐธรรมนูญสำเร็จดังปรากฏในร่างมาตรา 179 ความ สรุปว่า คณะรัฐมนตรีต้องดำเนินการตามกฎรัฐธรรมนูญ กฎหมายยุทธศาสตร์ชาติ และร่างมาตรา 284 (1) บัญญัติให้การบริหารราชการแผ่นดิน และการจัดสรรงบประมาณต้องดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ ในการอภิปรายแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญ ตนได้เสนอแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 78/1 ให้รัฐต้องจัดให้มียุทธศาสตร์ชาติเพื่อเป็นแม่บทที่เป็นกรอบชี้นำการกำหนดนโยบายและแผนกลุ่มภารกิจระดับประเทศต่างๆ สำหรับการพัฒนาประเทศ ซึ่งขณะนี้มี สปช. จากด้านอื่นๆ ที่มีความมุ่งหมายเหมือนกันเข้าร่วมลงนามขอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญของคณะกรรมาธิการปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน ครบ 26 รายชื่อแล้ว
สำหรับหน่วยงานที่จะร่วมกันบูรณาการบริหารจัดการยุทธศาสตร์ชาติ จะประกอบด้วย 5 กลุ่ม คือ กลุ่มภาครัฐ ประกอบด้วย หน่วยงานของรัฐ กลุ่มภาคเอกชน ประกอบด้วยสภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้า กลุ่มภาคประชาชน ประกอบด้วยสมาคมองค์กรส่วนท้องถิ่น กลุ่มภาควิชาการ ประกอบด้วย ตัวแทนจากที่ประชุมอธิการบดี และกลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบจากด้านต่างๆ จำนวนหนึ่งที่มีประสบการณ์สูงและไฟแรง ซึ่งการแก้ไขเพิ่มเติมยุทธศาสตร์ชาติไว้ในกฎหมายรัฐธรรมนูญ คงจะได้รับการพิจารณาด้วยดีจากกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นความสำคัญยิ่ง เป็นสิ่งดี มีประโยชน์ต่ออนาคตของชาติที่จะนำความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน มีอธิปไตย และศักดิ์ศรีในประชาคมโลกมาสู่ประเทศชาติและประชาชนชาวไทย
วันนี้ (28 เม.ย.) พ.ต.ต.ยงยุทธ สาระสมบัติ ประธานคณะอนุกรรมาธิการจัดทำกฎหมายว่าด้วยยุทธศาสตร์ชาติ ในคณะกรรมาธิการปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวว่า คณะกรรมาธิการปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งมี นายธีรยุทธ หล่อเลิศรัตน์ เป็นประธาน ได้ร่วมกันผลักดันให้มีการบัญญัติยุทธศาสตร์ชาติไว้ในรัฐธรรมนูญสำเร็จดังปรากฏในร่างมาตรา 179 ความ สรุปว่า คณะรัฐมนตรีต้องดำเนินการตามกฎรัฐธรรมนูญ กฎหมายยุทธศาสตร์ชาติ และร่างมาตรา 284 (1) บัญญัติให้การบริหารราชการแผ่นดิน และการจัดสรรงบประมาณต้องดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ ในการอภิปรายแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญ ตนได้เสนอแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 78/1 ให้รัฐต้องจัดให้มียุทธศาสตร์ชาติเพื่อเป็นแม่บทที่เป็นกรอบชี้นำการกำหนดนโยบายและแผนกลุ่มภารกิจระดับประเทศต่างๆ สำหรับการพัฒนาประเทศ ซึ่งขณะนี้มี สปช. จากด้านอื่นๆ ที่มีความมุ่งหมายเหมือนกันเข้าร่วมลงนามขอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญของคณะกรรมาธิการปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน ครบ 26 รายชื่อแล้ว
สำหรับหน่วยงานที่จะร่วมกันบูรณาการบริหารจัดการยุทธศาสตร์ชาติ จะประกอบด้วย 5 กลุ่ม คือ กลุ่มภาครัฐ ประกอบด้วย หน่วยงานของรัฐ กลุ่มภาคเอกชน ประกอบด้วยสภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้า กลุ่มภาคประชาชน ประกอบด้วยสมาคมองค์กรส่วนท้องถิ่น กลุ่มภาควิชาการ ประกอบด้วย ตัวแทนจากที่ประชุมอธิการบดี และกลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบจากด้านต่างๆ จำนวนหนึ่งที่มีประสบการณ์สูงและไฟแรง ซึ่งการแก้ไขเพิ่มเติมยุทธศาสตร์ชาติไว้ในกฎหมายรัฐธรรมนูญ คงจะได้รับการพิจารณาด้วยดีจากกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นความสำคัญยิ่ง เป็นสิ่งดี มีประโยชน์ต่ออนาคตของชาติที่จะนำความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน มีอธิปไตย และศักดิ์ศรีในประชาคมโลกมาสู่ประเทศชาติและประชาชนชาวไทย