นายกฯ ถกผู้นำอาเซียนกับผู้แทนเยาวชนอาเซียน ชี้พลังสำคัญในการสร้างประชาคมให้ยั่งยืน กังวลสังคมขาดความเอื้ออาทรกัน แถมไม่เคารพกฎหมาย โดยเฉพาะทางสังคมออนไลน์ แนะส่งเสริมจิตสำนึกส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสังคมตามกลุ่มอาชีพ-เพิ่มความพร้อมด้านเศรษฐกิจในฐานะหุ้นส่วนภูมิภาค และส่งเสริมการเกษตรให้คนรุ่นใหม่ ให้มีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน ให้ภาครัฐหนุนแปรรูปผลผลิต
วันนี้ (27 เม.ย.) ณ ห้อง Conference Hall 3 ชั้น ๓ อาคาร KLCC เมื่อเวลา 12.15 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมระหว่างผู้นำอาเซียนกับผู้แทนเยาวชนอาเซียน (ASEAN Leader’s Interface with Representatives of ASEAN Youth) เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคเยาวชนในการสร้างประชาคมอาเซียนที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลางตามเจตนารมณ์ของปฏิญญาอาเซียน โดยเปิดโอกาสให้มีการหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยจะมีการนำข้อคิดเห็นของเยาวชนไปดำเนินการต่อไป
ในส่วนของไทย พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวในที่ประชุมว่า เยาวชนเป็นพลังสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างประชาคมอาเซียนให้ยั่งยืนต่อไป โดยที่เราต้องร่วมกันพัฒนาประชาคมอาเซียนให้เป็นสังคมที่เอื้ออาทรและแบ่งปันกัน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้แสดงความห่วงกังวลว่า สังคมปัจจุบันบางส่วนขาดความเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน และไม่เคารพกฎหมาย โดยเฉพาะการแสดงออกทางสังคมออนไลน์ โดยนายกรัฐมนตรีได้นำเสนอทิศทางในการพัฒนาและส่งเสริมบทบาทของเยาวชนอาเซียนให้เป็นผู้นำขับเคลื่อนอาเซียน ดังนี้ ประการแรก คือ การส่งเสริมจิตสำนึกส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสังคม เพื่อสนับสนุนให้เยาวชนของเรามีส่วนร่วมในการสร้างประชาคมอาเซียน รู้จักสิทธิ หน้าที่ เสรีภาพ ไปพร้อมๆ กัน และพร้อมรับปัญหาของภูมิภาค ไทยสนับสนุนการจัดกิจกรรมค่ายเยาวชนจิตอาสาเพื่อพัฒนาชุมชนในอาเซียน โดยนายกรัฐมนตรีเสนอว่าควรมีการแบ่งกลุ่มตามความสนใจโดยเฉพาะ เช่น กลุ่มอาชีพ กลุ่มธุรกิจ เพื่อส่งเสริมการบ่มเพาะทายาททางธุรกิจต่อไปอนาคต
ประการที่ 2 คือ การส่งเสริมความพร้อมด้านเศรษฐกิจให้แก่เยาวชนรุ่นใหม่ เยาวชนในฐานะผู้ประกอบการจะช่วยเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของภูมิภาค ทั้งนี้ เราไม่ใช่คู่แข่งแต่เราเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาของภูมิภาคไปพร้อมกัน อาเซียนควรต่อยอดกิจกรรมสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการเยาวชน จากการประชุมผู้ประกอบการรุ่นเยาว์ที่จัดขึ้นที่ประเทศไทยเมื่อปีที่ผ่านมา เพื่อสร้างงานและนวัตกรรมทางธุรกิจในหมู่เยาวชน
ประการที่ 3 คือ การส่งเสริมการเกษตรให้เยาวชนรุ่นใหม่ (smart farmer) ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญของความร่วมมือของอาเซียนในการพัฒนาเยาวชนด้านการเกษตร และให้เกษตรกรมีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน มีเกียรติและศักดิ์ศรี โดยภาครัฐควรส่งเสริมทางด้านการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรการค้าการตลาด (trading) ไทยได้ริเริ่มดำเนินโครงการลักษณะนี้กับกลุ่มประเทศ CLMV และพร้อมที่จะขยายกิจกรรมในกรอบการประชุมอาเซียนที่เหมาะสมต่อไป ในตอนท้ายนายกรัฐมนตรีได้กล่าวเชิญชวนให้เยาวชนมาช่วยกันสร้างประชาคมอาเซียน เพราะเยาวชนคืออนาคตอาเซียน เพื่อสร้างความพร้อมในทุกมิติให้แก่เยาวชนของเรานับแต่นี้ไป