xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” ถกภาคเอกชนอาเซียน แนะใช้สิทธิประโยชน์จากการเป็นประชาคม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรีประชุมร่วมผู้แทนสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน ให้ความมั่นใจรัฐบาลไทยยึดมั่นพันธกรณีระหว่างประเทศ เน้นความสำคัญในการดำเนินการเพื่อไปสู่ประชาคมอาเซียน เชื่อมโยงเศรษฐกิจ การค้า ภายใต้ความตกลงการค้าเสรี แนะภาคเอกชนใช้สิทธิประโยชน์ต่างๆ จากการเป็นประชาคมอาเซียนอย่างเต็มที่

วันนี้ (27 เม.ย.) เวลา 11.45 น. ณ ห้อง Conference Hall 1 ชั้น 3 อาคาร KLCC ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมระหว่างผู้นำอาเซียนกับผู้แทนสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน (ABAC) เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นด้านการค้าและการลงทุนกับผู้นำภาคเอกชนของอาเซียน ผู้แทนของไทย คือ นายอรินทร์ จิรา รองเลขาธิการประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณการรายงานกิจกรรมและผลดำเนินงานของสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน และเห็นว่าการดำเนินการตามมาตรการต่างๆ เพื่อไปสู่การจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว ไทยสนับสนุนให้ภาคเอกชนใช้สิทธิประโยชน์ต่างๆ จากประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเต็มที่ หากมีเรื่องใดที่จะช่วยให้การค้าและการลงทุนมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้นขอให้ภาคเอกชนเสนอมา โดยเห็นว่าภาครัฐควรทำหน้าที่ในการอำนวยความสะดวกโดยนายกรัฐมนตรีได้แสดงข้อคิดเห็นเรื่องการขยายความร่วมมือกับภาคเอกชนของอาเซียน ที่ไทยตระหนักถึงความสำคัญของการลดอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี การปรับประสานมาตรฐาน และการอำนวยความสะดวกทางการค้า และเห็นว่าการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนจะเป็นทางหนึ่งที่จะแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ซึ่งจะเพิ่มการค้า และดึงดูดการลงทุนเข้ามาในภูมิภาคมากยิ่งขึ้น

พร้อมกันนี้ไทยสนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของ SME เราได้กำหนดให้การพัฒนา SME เป็นวาระแห่งชาติ สอดคล้องกับประเด็นที่สภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียนให้ความสำคัญ การยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของ SME สามารถทำได้โดยการสนับสนุนการวิจัยและการพัฒนา การช่วยเหลือให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน รวมทั้งให้ความรู้ด้านการตลาด กฎระเบียบ และนวัตกรรม ส่งเสริมการสร้างเถ้าแก่ใหม่ๆทางธุรกิจ SME ส่งเสริมให้ทายาทเหล่านี้ได้มีโอกาสพูดคุยสร้างเครือข่ายและความคุ้นเคยกันตั้งแต่วันนี้ พร้อมกับให้ความสำคัญกับการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค และเห็นว่าการเร่งเจรจาความตกลงฯ ให้แล้วเสร็จภายในปี 2558 จะทำให้ภาคธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จากความตกลงฯ ที่ทันสมัย ครอบคลุม และมีมาตรฐานได้อย่างทันท่วงที

นอกจากนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ภาคธุรกิจและส่งเสริมภาพลักษณ์ของอาเซียน นายกรัฐมนตรีได้เสนอให้สภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียนพิจารณาพัฒนาตราสินค้าอาเซียน (ASEAN Brand) ในสาขาผลิตภัณฑ์ที่อาเซียนมีความเข้มแข็ง โดยหากภาคเอกชนประสงค์จะได้รับการสนับสนุนในประเด็นใดภาครัฐยินดีให้การสนับสนุน การจัดทำวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน พ.ศ. 2568 ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของอาเซียนในการรวมตัวกันให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้นซึ่งภาคธุรกิจอาเซียนมีบทบาทสำคัญในการให้ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ ทำอย่างไรให้อาเซียนมีเสียงดังมากขึ้น มีบทบาทมากขึ้นในเวทีโลก

สุดท้ายนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอให้ภาคธุรกิจอาเซียนมั่นใจว่ารัฐบาลไทยจะยังคงยึดมั่นต่อพันธกรณีระหว่างประเทศของไทย และจะให้ความสำคัญกับการดำเนินการเพื่อไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ตลอดจนการเชื่อมโยงเศรษฐกิจ การค้า ภายใต้ความตกลงการค้าเสรี ทั้งพหุภาคีและทวิภาคีต่อไป ให้โอกาสทุกประเทศในอาเซียนในฐานะเปรียบเสมือนครอบครัวเดียวกัน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ในส่วนนโยบายด้านเศรษฐกิจไทยส่งเสริมการอำนวยความสะดวกทางการค้า เช่น การเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษบริเวณชายแดน การปรับปรุงด่าน ลดขั้นตอนพิธีการศุลกากร และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ภายในประเทศ เพื่อรองรับการเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน เช่น การสร้างเส้นทางคมนาคม การพัฒนารถไฟทางคู่ หรือรถไฟความเร็วสูงตามขีดความสามารถซึ่งจะช่วยส่งเสริมโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับทุกภาคส่วน


กำลังโหลดความคิดเห็น