xs
xsm
sm
md
lg

“ประวิตร” เผยใต้ป่วนลดลง “บิ๊กโด่ง” รับพยายามถอนกำลัง จ่อเปิดตัวทีมคุยสันติสุข

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม(แฟ้มภาพ)
“บิ๊กป้อม” ย้ำทำให้เกิดสันติภาพทะเลจีนใต้ ขออย่ามองสัมพันธ์จีนเป็นกรณีพิเศษ ชี้ป่วนใต้ลดลงชัด ต้องทำความเข้าใจต่อเนื่อง แจง จนท.รับผิดเหตุทุ่งยางแดง ยันไม่อยากให้พลาด ผบ.ทบ.เผยปรับความต้องการกลุ่มต่างๆ ตรงกับ ปชช. หวังเกิดประโยชน์คุยสันติสุข รับคุยกันต่อเนื่องรอเปิดตัว แบ่ง 3 ขั้นทำสถานการณ์ให้ดีขึ้น เตรียมถอนกำลังหลังดีขึ้นตามลำดับ

วันนี้ (22 เม.ย.) ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงปัญหาในทะเลจีนใต้ว่า ปัญหาเรื่องทะเลจีนใต้ ประเทศไทยมีการประกาศความชัดเจนว่าจะให้เกิดสันติภาพอย่างแท้จริง และจะให้ความสะดวกในการประสานงาน โดยเราจะทำทุกอย่างให้เกิดสันติภาพอย่างแท้จริงในทะเลจีนใต้ เราไม่ต้องการให้เกิดการใช้กำลัง โดยนายกรัฐมนตรีพูดชัดเจน โดยนโยบายของกระทรวงกลาโหม จะอำนวยความสะดวกให้เกิดความปลอดภัยในทะเลจีนใต้

เมื่อถามถึงรัฐบาลจะให้ความสำคัญกับนานาประเทศเหมือนกับความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีนหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่อยากให้มองในเรื่องนี้เป็นกรณีพิเศษ แต่สมัยที่ตนเป็น รมว.กลาโหม ในยุคที่ผ่านมา รมว.กลาโหมจีนก็มาเยือน 2-3 ครั้ง และรัฐธรรมนูญบางประเทศระบุว่ารัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งไม่สามารถที่จะดำเนินการในเรื่องใดได้บ้าง ปัจจุบันรัฐบาลเปิดกว้างให้กับทุกประเทศ และทุกอย่างก็เกิดความสมดุลอยู่แล้ว ส่วนเรื่องการฝึกคอบร้าโกลด์ ไทยก็พร้อมที่จะฝึกกับทุกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น หรือประเทศต่างๆ

พล.อ.ประวิตรยังกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า การก่อเหตุในพื้นที่ถือว่าลดลงอย่างเห็นได้ชัดตามสถิติ แต่ในเรื่องปัญหาความไม่เข้าใจของประชาชนบางส่วนยังมีอยู่ ซึ่งการทำความเข้าใจก็ทำไปอย่างต่อเนื่อง เพราะปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้เกิดมาเป็น 10 ปีแล้ว ฉะนั้นจะต้องใช้ระยะเวลาในการทำความเข้าใจ และที่สำคัญให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ด้วย

พล.อ.ประวิตรยังกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ว่าเจ้าหน้าที่ไม่มีเจตนาที่จะทำให้เกิดความผิดพลาด แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แล้วก็มีการจัดตั้งคณะกรรมการ 3 ฝ่ายมาพิจารณาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทุกฝ่ายก็ลงความเห็นว่าเจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปปฏิบัติงานซึ่งได้เข้าไปในช่วงเวลากลางคืนก็ต้องยอมรับ เราก็ไม่ได้บอกว่าทำถูก แต่เจ้าหน้าที่ก็รับผิดชอบในเรื่องของผิดพลาด ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีสั่งการให้เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นและไม่ให้เกิดขึ้นแบบนี้อีก

ขณะที่ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า การปฏิบัติงานในพื้นที่ภาคใต้นั้นนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี พล.อ.ประวิตรเป็นคนรับผิดชอบ กรอบแก้ไขปัญหาไม่ได้ใช้เฉพาะกำลังเพียงอย่างเดียว แต่การแก้ไขปัญหาได้แก้ในภาพรวม โดยคณะกรรมการขับเคลื่อนได้มีการแบ่งกลุ่ม 7 งาน โดยครอบคลุมการทำงานแบบบูรณาการ ซึ่งที่ผ่านมาสามารถปรับความต้องการของกลุ่มงานต่างๆ ในทุกปัญหาให้กลับเข้ามา และตรงกับความต้องการของประชาชน และสามารถปรับแผนงานที่ไม่เคยปรากฏ โดยได้ทำแล้ว 50 เปอร์เซ็นต์ เป็นการแก้ไขปัญหาในระดับนโยบายข้างบน ทั้งนี้รัฐบาลหวังว่าจะให้เกิดประโยชน์การพูดคุยสันติสุข โดยมี พล.อ.อักษรา เกิดผล เป็นหัวหน้าคณะ

พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า การพูดคุยได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยมีการเดินทางพบปะกันในลักษณะทีมงานเพื่อหารือให้ลงตัว ยอมรับของคณะกรรมการทั้งสองฝ่าย และคิดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในโอกาสต่อไป ส่วนในพื้นที่ได้มีการควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่ โดยนายกรัฐมนตรีไม่อยากเปรียบเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ แต่จากการทำงานในช่วงที่ผ่านมา ตั้งแต่ ต.ค. 2557 ถึงปัจจุบัน สถานการณ์รุนแรงลดลงประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ ความสูญเสียหากเปรียบเทียบกับช่วงที่ผ่านมาลดลง 40 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าเป็นการดำเนินการจากการขับเคลื่อน และนโยบายภาคใต้จะพยายามดำเนินการให้มีส่วนร่วมมากขึ้น สนับสนุนการดำเนินการที่เราจัดตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการอำเภอ ที่จะทำให้คนในพื้นที่ส่วนราชการได้บูรณการในระดับล่าง และประกอบกับการยกระดับให้ภาคใต้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

“การทำความเข้าใจจะให้เพิ่มงานด้านกีฬาเพื่อเป็นการปูทางเข้าไป โดยจะเป็นประโยชน์ในรอบด้าน ให้การแก้ไขปัญหาภาคใต้ให้ดีขึ้น ทั้งนี้จะพยายามทำให้สถานการณ์ดีขึ้นตาม โดยแบ่งเป็น 3 ขั้น คือ 1. แก้ปัญหาตั้งแต่ปี 2547 ในการแก้ไขเฉพาะหน้า 2. ปฏิบัติการเชิงรุก กับการพัฒนา ขณะนี้อยู่ในปลายขั้นที่ 2 และ 3. การสร้างสันติสุขให้เกิดยั่งยืนต่อไป ทั้งนี้จะพยายามถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่เพื่อให้กำลังพลในพื้นที่ภาคใต้ และ ประชาชนดูแลตัวเอง ขณะนี้ถือว่าดีขึ้นตามลำดับ ในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมามีการทดลองการปรับกำลังหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ในส่วนหัว โดยให้กองพลทหารราบที่ 15 เข้าไปบังคับบัญชาในพื้นที่ แต่ก็ยังมีกำลังหลักอยู่” พล.อ.อุดมเดชระบุ


กำลังโหลดความคิดเห็น