xs
xsm
sm
md
lg

ฟันธงฝีมือนักการเมือง ทำระเบิดที่ขนอม ยันรปภ.มีเอี่ยว-โอ๊คโวยใส่ร้ายพ่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน-"บิ๊กโด่ง"ขอเวลาเจ้าหน้าที่ทำคดี "คาร์บอมบ์สมุย" ยันไม่ใช่ฝีมือเจ้าหน้าที่รัฐ ฉะนักวิชาการจ้อข้อมูลเท็จ ผบ.ตร.ยันมีอดีตนักการเมืองเอี่ยว "ไก่อู"ย้ำมีหลักฐานโยงชัด ตำรวจเผยพบหลักฐานชิ้นสำคัญแล้ว "ถาวร"ปูดแวะทำระเบิดที่โรงแรมในขนอม ทหารยัน 1 ใน 3 รปภ. มีส่วนพัวพัน "โอ๊ค"โวยวายใส่ร้ายพ่อมีเอี่ยวบึ้มสมุย โบ้ยคนในพื้นที่ทำได้สะดวกกว่า

พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีคาร์บอมบ์ ห้างสรรพสินค้าเซนทรัล เฟสติวัล เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ว่า ส่วนตัวค่อนข้างมั่นใจว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่ขยายผลต่อความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ น่าจะเป็นเหตุผลอื่น แต่ก็จะไม่ตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งทิ้งไป ส่วนผลการสอบสวนเพื่อติดตามผลความเชื่อมโยงนั้น พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จะเป็นผู้รับผิดชอบ โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปร่วมดำเนินการด้วย

“เราพยายามดำเนินการอย่างจริงจัง และขอชี้แจงว่า จะต้องใช้เวลาระยะหนึ่งก่อน เราจะไม่ทำอะไรให้ผิดพลาด เพื่อสืบสวนบางอย่าง เราอาจมองเห็นคนที่เกี่ยวพัน แต่ไม่เกี่ยวข้อง ก็ต้องติดตามต่อไป"พล.อ.อุดมเดชกล่าว

*** ยันไม่ใช่ฝีมือเจ้าหน้าที่รัฐ

ส่วนกรณีที่มีบางฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่ออ้างความชอบธรรมในการใช้อำนาจตาม มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวนั้น พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า เห็นว่าเป็นการวิเคราะห์ที่ไม่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงเลย เจ้าหน้าที่รัฐจะไปทำเช่นนั้นเพื่ออะไร เพราะเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือเปล่าๆ เพราะฉะนั้นการวิเคราะห์ในเชิงนี้จึงไม่ถูกต้อง ขอให้อย่าไปฟังนักวิชาการในลักษณะนี้ เพราะเป็นข้อมูลที่ไม่เป็นจริง ขอให้มาช่วยกันสร้างความสงบเรียบร้อยจะดีกว่า

ผู้สื่อข่าวถามว่า การข่าวได้วิเคราะห์หรือไม่ว่า เหตุใดจึงมีการก่อเหตุอยู่ ทั้งๆ ที่ คสช. กำลังดำเนินการได้ดีไปตามกรอบโรดแมป พล.อ. อุดมเดช กล่าวว่า ก็มีบางส่วนที่คิดไปเอง ถ้าความเรียบร้อยเกิดขึ้น บางคนหรือบางกลุ่มจะเสียประโยชน์ แต่ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะใช่ เพราะความสำเร็จของรัฐบาล คือ ความสำเร็จของชาติ ไม่ว่าจะกลุ่มใดก็ตาม ทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ถ้ารัฐบาลทำได้สำเร็จ ทุกคนก็ถือว่าได้สำเร็จผลไปด้วยกัน ส่วนบุคคลที่มี่ความคิดเห็นไม่ตรงกัน ตนคิดว่าควรจะคิดให้ดี อย่าไปคิดต่างเลย แล้วหันมาร่วมมือกันจะดีกว่า หากยังมีการพูดจาในลักษณะนั้น มิหนำซ้ำยังร่วมทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ก็จะถูกดำเนินการตามกฎหมายอย่างแน่นอน

*** ผบ.ตร.ชี้อดีตนักการเมืองมีเอี่ยว

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กล่าวว่า การสอบสวนมีความคืบหน้าไปมาก โดยประเด็นการก่อเหตุ ตำรวจยังคงไว้ทั้งเรื่องการก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ ปัญหาขัดแย้งผลประโยชน์ และปัญหาทางการเมือง แต่ค่อนข้างให้น้ำหนักไปที่ประเด็นทางการเมืองมากที่สุด เนื่องจากมีพยานหลักฐานค่อนข้างชัดเจนว่า มีอดีตนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ช่วยเหลือสนับสนุน เนื่องจากจุดเกิดเหตุ ไม่ใช่พื้นที่ที่มีความขัดแย้ง หรือเป้าหมายเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบ ส่วนจะเป็นนักการเมืองระดับใด ไม่ขอเปิดเผย

** “สรรเสริญ” ย้ำโยงการเมืองชัวร์

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ได้ติดตามการรายงานตลอดเวลา และเชื่อมั่นการทำหน้าที่ของทางตำรวจที่ได้ชี้แจงมีเหตุผล ทำให้สังคมรับทราบข้อมูลข่าวสารมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนการที่โยงใยไปถึงกลุ่มการเมืองนั้น ไม่ได้เป็นการกล่าวหาลอยๆ แต่มีหลักฐานหลายประการเชื่อมโยงถึง และจากพยานหลักฐานมีความเป็นไปได้น้อยมากที่จะเกี่ยวเนื่องกับการก่อเหตุในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงทำให้สังคมสบายใจว่า เป็นเรื่องของการสร้างสถานการณ์ ที่เกี่ยวข้องกับผู้เสียประโยชน์ทางการเมือง ส่วนรายละเอียดอยากให้ฟังทางตำรวจในฐานะผู้รับผิดชอบสำนวนเป็นหลัก หากตนอธิบายลึกเกินไป อาจทำให้เสียรูปคดีได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทาง พล.ต.อ.จักรทิย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร.ระบุว่า พบนักการเมืองเข้าไปในพื้นที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ก่อนจะเกิดเหตุ พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า ขอไม่ตอบรายละเอียด แต่ข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชี้แจงเป็นข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเป็นผู้บูรณาการ และนายกฯ เองรับทราบเรื่องนี้มาโดยตลอด ส่วนหลักฐานจะเกี่ยวข้องไปถึงใคร หากพาดพิงไปถึง เจ้าหน้าที่จะต้องเชิญตัวมาสอบปากคำ ขอให้เกิดความสบายใจได้ว่า ไม่ได้ละเว้นคนไหน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางการข่าวไม่พบว่า จะมีการก่อเหตุลักษณะนี้ในพื้นที่อื่น

*** ไล่ตรวจวงจรปิดละเอียดยิบ

สำหรับความคืบหน้าทางคดีนั้น ตามที่มีข้อมูลยืนยันว่า รถกระบะมาสด้า 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กข 4892 ยะลา ซึ่งใช้ก่อเหตุคาร์บอมบ์ เป็นรถขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ละแอ อ.ยะหา จ.ยะลา ที่ถูกปล้นไปเมื่อวันที่ 31 มี.ค.2558 ที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่ได้เชิญ นายอับดุลราซะ ดูมีแด ซึ่งเป็นคนขับรถคันดังกล่าวก่อนที่จะถูกปล้นมาซักถาม แต่นายอับดุลราซะยังคงให้การวกวน ไม่เป็นประโยชน์ จึงใช้กฎอัยการศึกควบคุมตัวไว้ที่กรมทหารพรานที่ 41 ค่ายวังพญา อ.รามัน จ.ยะลา เพื่อเข้ากระบวนการซักถาม ซึ่งจะครบกำหนัด 7 วัน วันที่ 17 เม.ย.

พล.ต.ต.ทนงศักดิ์ วังสุภา ผบก.ภ.จว.ยะลา กล่าวว่า การนำตัวนายอับดุลราซะไปซักถาม เนื่องจากเป็นบุคคลที่ต้องสงสัย ล่าสุดก็ยังให้การภาคเสธ แต่ก็มีบางส่วนที่มีประโยชน์ต่อรูปคดี มีการโยงใยถึงหลายคนในพื้นที่ ส่วนการขยายผลนั้นได้ให้ชุดสืบสวนตรวจสอบเส้นทางของรถ ที่ออกจากพื้นที่ไปยัง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งได้รายละเอียดมาส่วนหนึ่ง

*** พบหลักฐานสำคัญในรีสอร์ตขนอม

ที่ห้องประชุมเฉวง ชั้น 3 สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. ประชุมชุดคลี่คลายคดี โดยเฉพาะการตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดอีกครั้งว่าหลังจากนำรถมาจอดแล้วออกไปทางไหน ออกจากเกาะอย่างไร

พล.ต.ท.สุชาติ ธีระแสวง จเรตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การประชุมยาวนานกว่าทุกวัน เพราะมีการถกกันในหลายฝ่ายเพื่อหาข้อสรุปแต่ละประเด็น ซึ่งก็คืบหน้าไปมากแล้ว แต่ยังบอกอะไรมากไม่ได้ในรายละเอียด

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตำรวจพบข้อมูลอะไรบ้างในรีสอร์ตในพื้นที่ ต.ควนทอง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ที่มีการพบภาพวงจรปิดว่า รถคาร์บอมบ์แวะเข้าไปจอดในรีสอร์ตดังกล่าว พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวว่า พบหลักฐานสำคัญบางอย่าง แต่ยังบอกไม่ได้ว่าเป็นอะไร

** เผยขั้นตอนดัดแปลงรถก่อเหตุ

ขณะที่หน่วยข่าวด้านความมั่นคงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ข้อมูลว่า รถคันดังกล่าวได้ใช้เส้นทางยะหา-บ้านเนียง-บ้านหน้าถ้ำ แล้วเลี้ยงเข้า อ.กรงปินัง จ.ยะลา เพื่อดัดแปลงด้วยการเปลี่ยนป้ายทะเบียน ติดแผ่นแคฟร่าที่ผ่ากระโปรงรถ เพื่ออำพรางการตรวจสอบ ซึ่งกำลังสืบสวนว่า ได้ซื้อแคฟร่าจากร้านตกแต่งรถภายในเขตเทศบาลนครยะลาหรือไม่ เนื่องจากมีรายงานว่า กลุ่มคนร้ายนำไปดัดแปลงในหมู่บ้านที่ อ.กรงปินัง และรถคันดังกล่าวยังอยู่ใน จ.ยะลา จนถึงวันที่ 9 เม.ย. ก่อนที่จะนำไปเกาะสมุย

ทั้งนี้ หลังดัดแปลงรถเสร็จมีผู้พบเห็นวิ่งออกจาก จ.ยะลา ผ่านถนนสาย 418 ผ่านสี่แยกพระพุทธ อ.จะนะ จ.สงขลา เมื่อเวลา 14.45 น. ผ่านสามแยกหอนาฬิกาจะนะ เวลา 15.11 น. ผ่านหน้าปั๊มเชลล์จะนะ เวลา 15.16 น. ผ่านห้าแยกน้ำกระจาย อ.เมือง จ.สงขลา เวลา 15.46 น. ผ่านหน้าโรงเรียนนวมินทร์ จ.สงขลา เวลา 15.49 น. ผ่านหน้าตลาดสิงหนคร เวลา 16.01 น. ผ่านสี่แยกม่วงงาม อ.สิงหนคร เวลา 16.17 น. ผ่านหน้าปั๊มบางจาก อ.ระโนด เวลา 17.28 น.

** “บีอาร์เอ็น” ขยับก่อนมีบึ้มสมุย

จากการตรวจสอบภาพที่ด่านควนมีด อ.จะนะ ไม่พบรถคันดังกล่าว แต่พบว่าเมื่อผ่านหน้าปั๊มเชลล์ อ.จะนะ แล้วรถหายไป จึงเป็นไปได้ว่ารถคันนี้เลี้ยวซ้ายเข้าบ้านป่าพลู อ.จะนะ ก่อนถึงด่านควนมีดประมาณ 300 เมตร แล้วไปออกแยกควนมีด มุ่งหน้าไปสามแยกอ่างทอง 5 แยกน้ำกระจาย ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวนของศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้กระจายกำลังลงพื้นที่หาเบาะแสเพิ่มเติม โดยเฉพาะกลุ่มบุคคลที่คาดว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว

หน่วยข่าวยังรายงานอีกว่า เมื่อประมาณเดือน ก.พ.2558 ปรากฏความเคลื่อนไหวกลุ่มบีอาร์เอ็นระดับ ผบ.เขตทหาร เดินทางจากประเทศมาเลเซียเข้ามาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อพบสมาชิกและประชุมสั่งการ ทราบชื่อดังนี้ คือ นายสะมะอุง สุหลง หัวหน้า ผบ.เขตทหารที่ 2 รับผิดชอบ จ.นราธิวาส นายเปาะนิ ผบ.เขตทหารที่ 1 รับผิดชอบ จ.ยะลา และนายแซมะ มะจัง ผบ.เขตทหารที่ 3 รับผิดชอบ จ.ปัตตานี อ.จะนะ อ.เทพา อ.นาทวี และ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มว่ามีความเป็นไปได้สูง ที่ขบวนการพร้อมที่จะปฏิบัติการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่มากขึ้น ซึ่งกำลังตรวจสอบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคาร์บอมเซ็นทรัล เฟสติวัล สมุย หรือไม่ด้วย

*** เชื่อ 1 ใน 3 รปภ.ห้างมีเอี่ยว

พล.ต.เกื้อกูล อินทรนาจักร ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ได้ควบคุมตัวหัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) พร้อมพวก 5 คน มาที่ค่ายวิภาวดีรังสิต ตามมาตรา 44 ซึ่งทั้งหมดให้ความร่วมมือตอบข้อซักถามอย่างดี เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และพบว่า 1 ใน 3 คนที่ถูกคุมตัวในช่วงแรก มีส่วนพัวพันกับเหตุการณ์ ซึ่งหลังจากครบ 7 วัน ทหารจะส่งต่อให้ตำรวจสอบสวนต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ รปภ.ทั้ง 3 คน ที่อยู่ในการควบคุมตัวของทหารค่ายวิภาวดีรังสิต เมื่อครบกำหนดควบคุมตัวตามมาตรา 44 จำนวน 7 วันแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ต้องปล่อยตัวไปชั่วคราวก่อน และยังไม่มีการแจ้งข้อหา รปภ.ทั้ง 3 คน เพราะยังไม่มีหลักฐานที่ระบุการกระทำความผิด โดยตำรวจได้นำตัวรปภ.ทั้ง 3 คนไปตรวจดีเอ็นเอและทำประวัติก่อนปล่อยตัวไป แต่จะต้องมารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ ตามเวลาที่กำหนด

*** “โอ๊ค” โวย ปชป. ป้ายสีพ่อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 22.40 น.ของวันที่ 15 เม.ย. นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และผู้ต้องหาหนีคดีอาญาแผ่นดิน โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว Oak Panthongtae Shinawatra สืบเนื่องจากกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ทวิตข้อความถึง พระสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้หยุดโกหก ใสร้ายป้ายสีว่าเป็นคนบงการเหตุการคาร์บอมบ์ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งต่อมา นายสมชาย แสวงการ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้แสดงความคิดเห็นประเด็นนี้ทำนองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ทวิตเพราะอาจกังวลเรื่องการถูกตั้งข้อหาก่อการร้าย เพราะกลัวถูกซัดทอดโยงใยว่าเป็นผู้สั่งการวางระเบิด

นายพานทองแท้ โพสต์ในประเด็นดังกล่าวว่า 3 จังหวัดภาคใต้ ใครเป็นผู้ดูแลความสงบเรียบร้อย จ.สุราษฎร์ธานีเป็นพื้นที่อิทธิพลของนักการเมืองคนใด ถ้าจะก่อเหตุสร้างสถานการณ์ ใครจะเป็นผู้กระทำได้สะดวก มีหรือการข่าวระดับประเทศจะไม่รู้ไม่เห็น ถ้ามีคนบงการจริงๆ จะต้องระบุให้ชัดว่าเป็นใคร ไม่ใช่ไฟเขียวปล่อยให้ลิ่วล้อออกมาเห่าหอนกันเปรอะไปหมดแบบนี้ การควบคุมความสงบ ไม่ควรใช้วิธีบังคับให้ฝ่ายที่เป็นรัฐบาลอยู่เดิม กระดุกกระดิก พูดจาอะไรก็ไม่ได้ ส่วนฝ่ายม็อบป่วนเมือง จนเป็นเหตุให้ต้องปฏิวัติ รัฐประหาร กลับให้ตำแหน่งเป็นทางการ แถมปล่อยให้ออกมาเพ่นพ่าน เกะกะระรานชกเขาข้างเดียวแบบนี้ มันจะปรองดองกันได้อย่างไร

"การก่อการร้ายอาจสร้างความเสียหาย น้อยกว่าการปล่อยให้คนมีตำแหน่ง ออกมาก่อการระยำ สร้างความแตกแยกให้กับบ้านเมือง ถ้า คสช. จะใช้ มาตรา 44 ให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติจริงๆ ควรใช้ตบปาก พวกชักใบให้เรือเสีย เป็นอย่างแรก” นายพานทองแท้ระบุ

นายพานทองแท้ โพสต์ด้วยว่าการกระทำรัฐประหารครั้งที่ผ่านมา อ้างว่าทำไปเพื่อความปรองดองของคนในชาติ ต้องการให้คนทุกสีทุกฝ่ายรักกัน ทหารจึงจำเป็นต้องติดอาวุธออกมาควบคุมประเทศ สิ่งที่ชวนสงสัยก็คือ ทำไมบุคลากรหลายคน ที่ คสช. ควรจะคัดเอาคนที่เป็นกลาง ไม่นกหวีดไม่เหลืองไม่แดง เข้ามาทำงานเพื่อสร้างความสมานฉันท์ แต่ทำไมส่วนใหญ่ จึงเป็นพวก Hard Core สายนกหวีดติดธงอ้างชาติ กันซะเยอะ

** “ถาวร” ปูดทำระเบิดใน รร.ที่ขนอม

นายถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำกลุ่ม กปปส. กล่าวว่า หลายฝ่ายวิเคราะห์ในแนวเดียวกันว่า ผู้อยู่เบื้องหลังการว่าจ้างคนร้ายวางระเบิดที่เกาะสมุย คือ กลุ่มการเมืองที่เป็นฝ่ายตรงข้ามของ คสช. เพราะนายใหญ่ และตัวเองกำลังถูกตรวจสอบ และอาจจะถูกดำเนินคดีมากขึ้น จึงใช้วิธีการโต้ตอบเพื่อดึงองค์กรระหว่างประเทศเข้ามาแก้ไขปัญหาในประเทศไทย ตามยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศไทย โดยการข่าวระบุว่า รถที่ใช้ในกรณีนี้มี 3 คัน คือรถที่ใช้ประกอบวางคาร์บอมบ์ รถนำ และรถระวังหลัง เป็นรถฮอนด้าและมิตซูบิชิ โดยรถคันก่อเหตุ คือ มาสด้าที่ขับจาก จ.ยะลา ผ่านมาทาง จ.สงขลา ข้ามแพขนานยนต์จากฝั่ง อ.เมือง สงขลา ไปยังฝั่ง อ.สิงหนคร เมื่อวันที่ 9 เม.ย. เวลาประมาณ 16.00 น. เส้นทางผ่าน อ.สิงหนคร อ.สทิงพระ อ.ระโนด อ.หัวไทร มุ่งไปทาง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ใน อ.ขนอม

"คาดว่ามีการประกอบระเบิดที่โรงแรมดังกล่าวนี้ รถคันเกิดเหตุข้ามแพขนานยนต์ของท่าเรือราชา กำลังตรวจสอบว่านายตำรวจระดับพันตำรวจเอกนายหนึ่งจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ เรื่องนี้ตำรวจใน ศชต. ทราบความสัมพันธ์ของนายตำรวจคนนี้กับกลุ่มการเมืองกลุ่มใน 3 จังหวัดภาคใต้ว่าแน่นเฟ้นเพียงใด ดังนั้น ฝ่ายสืบสวนของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีฯ และสุราษฎร์ฯ ต้องหาตำรวจมือดีมาสาวข้อเท็จจริง อย่าเป็นการลูบหน้าปะจมูก โดยเฉพาะการเก็บกู้ภาพของ CCTV ตามเส้นทางที่รถคนร้ายใช้ผ่านจะต้องรีบทำเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย"
กำลังโหลดความคิดเห็น