อดีต ส.ส.เชียงราย เชื่อเลือกตั้ง-การเมืองวุ่นวาย หาก รธน.ยึดตาม กมธ.ยกร่างฯ ไม่แก้ไข มีร้องเรียนเหตุทำ ปชช.สับสน มีวิ่งเต้น ต่อรองผลประโยชน์ ทำนักการเมืองเป็นผู้ร้าย ฝาก สปช.ช่วยแก้ แนะอย่าให้ถึงขั้นประชามติ ยังมีเวลาปรับ รธน.ให้เป็น ปชต.ดีกว่า
วันนี้ (14 เม.ย.) นายสามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) จะอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญที่กรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ ทำขึ้นในวันที่ 20-26 เม.ย.นี้ว่า หากที่สุดแล้วร่างรัฐธรรมนูญไม่มีการแก้ไขในสาระสำคัญ ยังเป็นแบบที่ กมธ.ยกร่างฯ เขียนขึ้นมาตั้งแต่ต้น สิ่งที่จะตามมาคือ การเลือกตั้งที่วุ่นวาย นำไปสู่การร้องเรียนภายหลังเพราะวิธีการเลือกตั้งที่เขียนมานั้นประชาชนสับสน เมื่อเลือกตั้งแล้วการจัดตั้งรัฐบาลก็จะมีปัญหาเพราะจะมีการวิ่งเต้นล่ารายชื่อเพื่อให้ใครได้เป็นนายกฯ พอได้นายกมาแล้วการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีก็จะยุ่งยากอีก เพราะต้องให้ ส.ว.ตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีก่อน ก็จะมีการวิ่งหา ส.ว.อีก เมื่อได้รัฐบาลมาแล้วการบริหารงานก็จะเต็มไปด้วยแรงกดดันเพราะมีการต่อรองผลประโยชน์ตลอด ที่สุดแล้วการเมืองก็จะวุ่นวาย นักการเมืองก็จะดูเหมือนเป็นผู้ร้าย ทั้งที่ปัญหาเป็นเพราะระบบ และกติกา ที่สุดแล้วทหารก็ต้องออกมาอีก
“ขอฝากความหวังไว้ที่ สปช.ที่จะช่วยกันแก้ในสิ่งที่คิดว่าเป็นเรื่องสำคัญโดยปรับร่างใหม่ให้เหมาะสมอะไรที่คิดว่าจะนำไปสู่ปัญหาก็ต้องไม่ปล่อยไปตามนั้น” นายสามารถกล่าว
เมื่อถามว่า คิดว่าร่างรัฐธรรมนูญควรทำประชามติก่อนประกาศใช้หรือไม่ นายสามารถกล่าวว่า ในรัฐธรรมนูญชั่วคราวไม่ได้เขียนไว้ให้ทำประชามติ แต่ถ้ามีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญอย่างมาก หัวหน้า คสช.ก็อาจต้องใช้อำนาจพิเศษตามมาตรา 44 จัดให้มีการทำประชามติซึ่งต้องเสียเงินทอง อีกทั้งหากมีการทำประชามติแล้วฝ่ายที่มีอำนาจจะทำทุกอย่างให้ผ่านประชามติ ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยก็จะไม่ยอมรับหาทางทำให้ประชามติไม่ผ่าน สุดท้ายก็จะนำไปสู่ปัญหาอีก ทางที่ดีที่สุดอย่าให้ถึงขั้นต้องไปทำประชามติ ปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยตอนนี้จะดีกว่า เพราะถือว่ายังมีเวลา ยังมีขั้นตอนการอภิปรายของ สปช. และการแปรญัตติของแม่น้ำสายต่างๆ อยู่