xs
xsm
sm
md
lg

ประยุทธ์ ลุยเดี่ยวแลกหมัดทั่วทิศ-ทางรอดอยู่ที่พลังศรัทธา !!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

สังเกตหรือไม่ว่าในช่วงเวลานี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กำลังเจอศึกหนักรอบด้านมากขึ้นเรื่อยๆ ลักษณะเหมือนกับว่า “ยืนซดแลกหมัด” แบบรอบทิศทาง ทั้งที่จะว่าไปแล้วเขาเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจที่สุดในประเทศนี้ก็ว่าได้ แต่มันก็เกิดขึ้นมาแล้ว

ถ้ามองกันในภาพรวม สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดบรรยากาศกดดันแบบนี้ก็ต้องมาจากเรื่องผลงานด้านการแก้ปัญหาเศรษฐกิจยังไม่เข้าเป้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่อง “ปากท้อง” ยังแก้ไม่ตก ชาวบ้านยังมีความรู้สึกว่าไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น หรือดีขึ้นกว่าเดิม มิหนำซ้ำเลวร้ายลงกว่าเดิม ของแพงกว่าเดิม ราคาสินค้าเกษตรล้วนตกต่ำ

อาจมีเพียงเรื่องความสงบเรียบร้อย ในด้านความมั่นคง ที่ชาวบ้านมีความพอใจ เนื่องจากมีอำนาจพิเศษ มีกฎหมายพิเศษอยู่ในมือ คอยควบคุมเอาไว้อย่างเข้มงวด ทำให้พวกกลุ่มการเมืองที่เคยป่วน ไม่กล้าขยับ

อย่างไรก็ดี หากพิจารณากันด้วยความเป็นธรรม ตามความเป็นจริงก็ต้องย้ำว่า สาเหตุที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ยังทำงานไม่เข้าเป้า เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่หมักหมมมายาวนาน เช่น เรื่องเศรษฐกิจ การเมืองที่เรื้อรังมานาน ปัญหาระบบราชการที่ล่าช้าอืดอาด และที่สำคัญมาเจอกับพวกข้าราชการ “เกียร์ว่าง” พวกข้าราชการที่เป็น “ขี้ข้า” นักการเมืองคอย “วางยา” มันก็เดินหน้าลำบาก

นอกเหนือจากปัจจัยภายนอกที่ควบคุมยาก นั่นคือ ตลาดส่งออกต่างประเทศที่เป็นคู่ค้าสำคัญทั้งในอเมริกา ยุโรป และเอเซีย มีปัญหาทางด้านเศรษฐกิจถดถอย ทำให้กำลังซื้อหดตัวย่อมส่งผลกระทบต่อการส่งสินค้าออกของไทยมาอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันตัวเลขการส่งออกของไทยในไตรมาสแรกอยู่ในขั้นติดลบ จนล่าสุดมีการลดอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจจากเดิมที่คาดว่าทั้งปีจะโตร้อยละ 4 เหลือไม่ถึงร้อยละ 3 กันแล้ว

ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มในอนาคตยังไม่เห็นหนทางกระเตื้องมากนัก ที่ยังมีหวังได้อยู่ในเวลานี้ก็คือการเติบโตของตัวเลขของนักท่องเที่ยวที่คึกคักเกินเป้าอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ฟันเฟืองเพียงตัวเดียวอาจไม่มีกำลังพอที่จะดึงขึ้นมาได้ทั้งระบบ

แต่ในช่วงที่กำลังหน้าดำคร่ำเครียดเร่งรัดแก้ปัญหากันอยู่นั้น ก็มีพระเสาร์เข้ามาแทรกซ้ำเติมเข้ามาอีก อย่างก็สองเรื่อง เรื่องแรกก็คือปัญหาที่ “องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ” ไม่รับรองมาตรฐานความปลอดภัยระบบการบินของไทยภายใต้การการกำกับดูแลของกรมการบินพลเรือน จนทำให้มีปัญหาด้านการบินอยู่ในขณะนี้ เท่าที่เห็นมีญี่ปุ่นสั่งห้ามหลายสายการบินของไทย ห้ามเพิ่มเที่ยวบิน ห้ามเปลี่ยนขนาดเครื่องบิน เป็นต้น ในเดือนเมษายนนี้

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องปัญหา “การค้ามนุษย์” ที่ไทยเพิ่งถูกขึ้นบัญชีดำอยู่ในกลุ่มที่ 3 อาจมีผลกระทบในเรื่องสินค้าส่งออกในอนาคตอันใกล้หากการแก้ปัญหาไม่ได้ตามที่ต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา และกลุ่มประเทศยุโรป ต้องการ ซึ่งถือว่านี่คือเรื่องใหญ่ และปัญหาใหญ่ ส่งผลกระทบต่อเรื่องเศรษฐกิจเป็นลูกโซ่

เมื่อปัญหาเรื่องปากท้อง เรื่องเศรษฐกิจ ยังเป็นปัญหาใหญ่แก้ไม่ตก มันก็ให้ความศรัทธาถดถอยลงมาเรื่อยๆ ส่งผลกระทบต่อเนื่องไปถึงเรื่องการเมือง และภารกิจปฏิรูปที่กำลังเดินมาถึงจุดสำคัญ ที่เห็นอยู่ก็คือ การยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่กำลังถูกต่อต้านอย่างหนักจากบรรดาพรรคการเมืองและ นักการเมือง เนื่องจากพวกเขาเกรงว่ากระทบกับเรื่องของอำนาจในภายหน้า เช่นการถกเถียงกันในประเด็นสำคัญคือ ที่มาของนายกฯ การเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. เป็นต้น

ล่าสุด ที่กำลังเป็นปัญหาและสร้างแรงกดดันให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ก็คือ เรื่องการยกเลิกกฎอัยการศึก ที่คาดว่าจะยกเลิกก่อนช่วงสงกรานต์นี้ โดยจะบังคับใช้ มาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 ซึ่งมาตราดังกล่าวให้อำนาจหัวหน้า คสช. ทั้งบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ ซึ่งมีเสียงวิจารณ์ให้อำนาจล้นฟ้าไร้ขีดจำกัดกับบุคคลเพียงคนเดียว ทั้งที่ในความเป็นจริงเวลานี้ มาตรา 44 ก็ใช้บังคับอยู่แล้ว และควบคู่ไปกับกฎอัยการศึก มานานหลายเดือนแล้ว

อย่างไรก็ดี เชื่อว่า สาเหตุที่ต้องการยกเลิกกฎอัยการศึก ก็เพราะมาจากแรงกดดันทั้งจากภายนอกและภายใน มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่น การลงทุน การท่องเที่ยว แต่พอจะยกเลิกและใช้มาตรา 44 แทน ก็ถูกโจมตีหนักหน่วงไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเสียงที่มาจากบรรดาพรรคการเมือง ทั้งที่ในความเป็นจริงเชื่อว่า จะต้องมีประกาศ คสช. ตามมาในเรื่องการใช้อำนาจผ่านทางกลไกปกติ ผ่านทางศาล เป็นต้น

ดังนั้น ปัญหาที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรักษาความสงบแห่งชาติกำลังเผชิญหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ส่วนสำคัญมาจากหลายปัจจัย บางอย่างมาจากการคัดเลือกทีมงานที่ผิดพลาด รัฐมนตรีบางคนขาดวิสัยทัศน์ หรือมีระบบคิดแบบราชการ ถูกวางยาจากข้าราชการในขั้วการเมือง

แต่นั่นไม่เลวร้ายเท่ากับเรื่องการแก้ปัญหาเรื่องปากท้อง หากรัฐบาลล้มเหลว นั่นก็หมายความว่า ความศรัทธาจากสังคมจะถดถอยลงไปเรื่อยๆ ดังที่พิสูจน์ออกมาให้เห็นผลสำรวจทุกครั้งว่าชาวบ้านต้องการให้แก้ปัญหาอะไรเป็นอันดับแรก เพราะถ้าแก้ปัญหาให้พอใจ ความศรัทธาก็จะกลับมา ก็จะเป็นหลังให้พิงได้อย่างมั่นคง เรื่องอื่นก็จะลดระดับลงมา !!
กำลังโหลดความคิดเห็น