“ประยุทธ์” เรียกประชุม ครม.เศรษฐกิจ ก่อนประชุมต่อหัวหน้าส่วนราชการ ถกปรับโครงสร้างเกษตรทั้งหมด แก้หนี้ 4.5 พันล้าน วาง 10 เงื่อนไขตัดหนี้สูญ พร้อมถกปรับปรุงโครงสร้างการผลิตข้าว ย้ำ ขรก.ทำงานเชิงรุก สั่งคลังประเมินฐานรายได้ประชาชนเป็นกลุ่ม “มหาดไทย-เกษตรฯ” ทำทะเบียนบุคคล หวังรัฐช่วยเหลือทั่วถึง ลุยประเมินผลงานทุก 3 เดือน
วันนี้ (30 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจที่ตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาล โดยมี ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
จากนั้นเวลา 10.30 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินทางเป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการและระดับกระทรวงและเทียบเท่า ครั้งที่ 2/2558 ที่อาคารสโมสรและหอประชุมกระทรวงคมนาคม โดยมี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูงและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้สักการะพระพุทธคมนาคมบพิธ และพระภูมิสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงเพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนการประชุม
ทั้งนี้ มีการหารือถึงแนวทางการปรับปรุงโครงสร้างทางการเกษตรทั้งหมด ตามแผนดำเนินงาน หรือ โรดแมป ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมีโครงการสำคัญ คือ โครงการแก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกรด้วยการจำหน่ายหนี้สูญวงเงิน 4,500 ล้านบาท
โดยกำหนด 10 เงื่อนไขในการตัดหนี้สูญ ประกอบด้วย หนี้ที่เกิดจากโครงการส่งเสริมหรือสงเคราะห์ของรัฐที่ไม่ประสบความสำเร็จ หนี้ที่เกิดจากภัยพิบัติธรรมชาติ หนี้ที่เกิดจากการเผชิญปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หนี้ที่ขาดอายุความ หนี้ค้างชำระเกินกว่า 10 ปีขึ้นไป หนี้ที่ไม่สามารถติดตามทรัพย์สินเพื่อดำเนินการบังคับคดีได้ หนี้ที่เกษตรกรผู้ยืมเงินเสียชีวิต สาบสูญ หาตัวไม่พบ หรือละทิ้งที่อยู่ หนี้ที่เกษตรกรผู้กู้ยืมเงินชราภาพ ทุพพลภาพ วิกลจริต หรือเจ็บป่วยเรื้อรัง หนี้ที่ลูกหนี้มีรายได้น้อย ไม่มีความสามารถ ในการชำระหนี้ และหนี้ที่มีการกู้ยืมเงินต่ำกว่า 10,000 บาท
รวมถึงการพิจารณาโครงสร้างการผลิตข้าวปี 2558 ถึง 2560 โดยปรับปรุงประสิทธิภาพและคุณภาพผลผลิต การส่งเสริมข้าวตลาดเฉพาะ การลดพื้นที่ปลูกข้าวนาปรัง การปรับเป็นเกษตรกรรมทางเลือก และการปรับเปลี่ยนจากปลูกข้าวไปปลูกอ้อย โครงการปรับโครงสร้างการผลิตปศุสัตว์ และโครงการอนุรักษ์ และพัฒนาการผลิตกระบือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเริ่มการประชุมนางสร้อยทิพย์ได้มอบโมเดลรถไฟให้แก่นายกรัฐมนตรีเป็นที่ระลึก จากนั้นนายกรัฐมนตรีกล่าวก่อนการประชุมว่า ขอให้ข้าราชการมีความภาคภูมิใจในอาชีพข้าราชการ และขอให้ทุกคนร่วมมือกัน วันนี้ประเทศชาติขับเคลื่อนด้วยข้าราชการ ข้าราชการต้องมีขีดความสามารถในการทำงานเชิงรุก ต้องแยกประเภทงานให้ชัดเจน คืองานตามแผนงานที่ใช้เวลาทำงานระยะยาว และงานนโยบายทั้งเรื่องเร่งด่วน และไม่เร่งด่วน ซึ่งให้ความสำคัญต่องานนโยบายเป็นหลัก ทั้งนี้ ข้าราชการต้องแยกแยะการทำงานให้ชัดเจน ต้องกำหนดวิธีการ เป้าหมาย และผลสัมฤทธิ์ของงานแต่ละประเภทในระยะเวลาที่กำหนดอย่างเป็นรูปธรรม สำหรับงานโครงการขนาดใหญ่ที่รัฐบาลได้กำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลชุดใดก็ตาม ข้าราชการต้องทำตามแผนที่กำหนดไว้ให้แล้วเสร็จ เช่น โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า วันนี้ลักษณะของประชาชนมีความเปลี่ยนแปลงจากเดิม มีความเป็นกลุ่มชน เป็นชุมชนมากขึ้น ทำให้ง่ายต่อการชักชวน และง่ายต่อการให้ความร่วมมือหรือไม่ร่วมมือ เพราะฉะนั้นข้าราชการต้องมีหน้าที่รวมกลุ่มประชาชนให้ได้ โดยการแยกประเภทประชาชนตามฐานรายได้ แล้วจัดขึ้นทะเบียน ซึ่งใช้ตัวเลขของบัตรประชาชนเป็นตัวกำหนดบุคคล พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงการคลังดำเนินการประเมินฐานรายได้ของแต่ละกลุ่ม และให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำทะเบียนบุคคลให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 3 เดือน เพื่อเป็นตัวชี้วัด ทำให้ง่ายแก่การดูแลของรัฐบาล รวมถึงการช่วยเหลือประชาชนอย่างตรงตามเป้าหมาย และเป็นการใช้งบประมาณในการช่วยเหลืออย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้งานนโยบายต่างๆได้สั่งการไป จะมีการตรวจสอบการทำงานทุกๆ 3 เดือน เพื่อขับเคลื่อนการทำงานให้รวดเร็วขึ้น