“พล.อ.ประยุทธ์” หารือทวิภาคีบรูไน สรุปใช้ความร่วมมือเดิมทุกมิติ ย้ำสองฝ่ายจะขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงกันมากขึ้น เผย “บรูไน” พร้อมให้ร่วมมือด้านพลังงาน หลังนายกฯ ระบุ “ขณะนี้ประเทศไทยกำลังมีปัญหา” เชื่อ บรูไนสนับสนุนน้ำมันดิบ เน้นการร่วมลงทุนด้านพลังงานหลายบริษัท หวังคุ้มทุนมากกว่า
วันนี้ (25 มี.ค.) มีรายงานว่า ภายหลังเข้าเฝ้าและหารือข้อราชการกับสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การหารือทวิภาคี เป็นการหารือความร่วมมือเดิมที่มีอยู่แล้ว ทุกมิติ อาทิ ด้านความมั่นคง ที่ผ่านมาได้มีการแลกเปลี่ยนการฝึกศึกษาทางทหารร่วมกัน และทางบรูไนให้ความสนใจเรื่องการถวายความปลอดภัย การต่อต้านการก่อการร้าย โดยทั้งสองฝ่ายจะขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงกันมากขึ้น
“สำหรับความร่วมมือด้านพลังงาน ที่ขณะนี้ประเทศไทยกำลังมีปัญหา สมเด็จพระราชาธิบดีเต็มใจที่จะให้การสนับสนุนไทย และในโอกาสนี้ได้พูดคุยกับรัฐมนตรีพลังงานของบรูไนด้วย ทางบรูไนพร้อมสนับสนุนเรื่องน้ำมันดิบ อย่างไรก็ตามเห็นว่าการลงทุนด้านพลังงาน หากเป็นการร่วมทุนในหลายบริษัท น่าจะคุ้มทุนมากกว่า”
สำหรับการลงทุนด้านการเกษตร ทางบรูไนขอความร่วมมือ ทั้งด้านประมง เกษตรและอาหารฮาลาล เราขอให้สมเด็จพระราชาธิบดี ซึ่งเป็นผู้นำอาวุโสของอาเซียนช่วยเปิดเวที สินค้าทางการเกษตร และต้องพัฒนากระบวนการผลิตโดยใช้เทคโนโลยี เพื่อให้ต้นทุนการผลิตลดลง ราคาจะได้ดีขึ้น และขอให้สมเด็จพระราชาธิบดีช่วยประสานความร่วมมือของอาเซียนเกี่ยวกับการกำหนดราคาสินค้าเกษตร เพื่อไม่เกิดการแข่งขันกันเอง ส่วนอาหารฮาลาล เดิมที่ไทยกำหนดให้จังหวัดปัตตานีเป็นศูนย์กระจายสินค้าอาหารฮาลาลของไทยแต่ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากมีปัญหาความไม่สงบ ตนจึงเสนอให้ตั้งที่จังหวัดเชียงใหม่
ส่วนความร่วมมือทางด้านประมง จะร่วมมือกันมากขึ้น โดยบรูไนจะเปิดโอกาสให้ประเทศต่างๆ เข้ามาทำประมงในน่านน้ำของบรูไน ซึ่งนายกรัฐมนตรีขอให้บรูไนรับไทยไว้พิจารณาในลำดับแรกด้วย ขณะเดียวกัน ก็ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คุยกับอินโดนีเซียและประเทศรอบบ้านเพื่อทำการประมงร่วมกันให้ถูกกฎหมายด้วย เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาการค้ามนุษย์ แรงงานผิดกฎหมาย
โดยสมเด็จพระราชาธิบดี สนับสนุนการแก้ไขปัญหาภาคใต้ด้วยสันติวิธี และได้ทรงมีส่วนช่วยในการสร้างความเข้าใจ เกี่ยวกับการแก้ปัญหาภาคใต้ของไทยให้แก่องค์การความร่วมมืออิสลาม (โอไอซี)