“บิ๊กตู่” ย้ำ “คนดีพระคุ้มครอง” ไม่หวั่นเจอระเบิดใกล้ที่ประชุม ครม. สัญจร สั่ง ฝ่ายความมั่นคง เข้ม ปูพรมตรวจอาวุธทุกจังหวัด เชือดไก่จับผู้ร้ายข้ามแดน ใช้เวทีวันน้ำโลก ชวนคนหนีไปนอกให้กลับมา บอกลูกเมียคิดถึง “ผมพร้อมให้อภัย กลับมาเข้าสู่กระบวนการ”
วันนี้ (23 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่พบระเบิดที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ห่างจากสถานที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร เพียง 2 กม. ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ชี้แจงแล้วว่า เป็นระเบิดและเครื่องกระสุนเก่าที่ถูกนำมาทิ้ง และตนไม่กลัวเรื่องอะไรอยู่แล้ว เพราะเชื่อว่าทำความดีพระคุ้มครอง แต่ทั้งนี้ ก็ได้สั่งการให้มีการเข้มงวดในการตรวจอาวุธทุกจังหวัดทั่วประเทศ เนื่องจากประเทศเรามีชายแดนเปิด อาจมีการลักลอบขนอาวุธเข้ามาได้ ส่วนที่มีการตรวจพบถุงบรรจุอาวุธมีตราสัญลักษณ์ของ ร.1 พัน 1 รอ. นั้น ตนไม่ได้มองว่าเป็นการดิสเครดิต และถุงตราสัญลักษณ์ก็สามารถหาได้ทั่วไป ถ้าทำเช่นนั้นจริง ไม่โง่ก็บ้า หรือปัญญาอ่อน ส่วนจะเป็นอาวุธของกองทัพหรือไม่ เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอยู่
ส่วนความคืบหน้าการติดตามผู้กระทำความผิดที่หลบหนีไปยังต่างประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าในการประสานงานกับประเทศต่างๆ อยู่ แต่ไม่สามารถเปิดเผยในตอนนี้ได้ เพราะเกรงว่าอาจจะมีปัญหาในภายหลัง แต่ตอนนี้ก็อยากให้มีการจับกุมให้ได้ถึง 1 - 2 ราย เป็นตัวอย่าง เช่น นายชินวัฒน์ หาบุญพาด แกนนำ นปช. นายมนูญ ชัยชนะ หรือ อเนก ซานฟราน และส่วนใหญ่จะติดปัญหากับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เนื่องจากต่างประเทศไม่มีกฎหมายแบบนี้
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งในพิธีเปิดงานสัปดาห์อนุรักษ์ทรัพยากรน้ำแห่งชาติและวันน้ำโลก ประจำปี 2558 ว่า วันนี้รัฐบาลต้องจัดระเบียบบ้านเมือง เพื่อบริหารจัดการใหม่ทั้งหมด ที่ผ่านมา รอมาเป็นสิบๆ ปี ก็ทำไม่สำเร็จ วันนี้จึงต้องทำให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ไม่เช่นนั้นเราจะเข้ามาให้เหนื่อยทำไม จะมาสร้างความรำคาญทำไม ไม่ได้อะไรขึ้นมา ให้ไปดูว่าก่อนวันที่ 22 พ.ค. เกิดอะไรขึ้น นั่นคือ ประชาธิปไตยแบบไทยๆ ส่วนคนที่หนีไป จะหนีไปไหน หนีไปทำไม ไม่เกิดประโยชน์ ทุกคนคิดถึงลูกเมียหมด ขอให้กลับมา “ผมพร้อมให้อภัย กลับมาเข้าสู่กระบวนการ”
ส่วนกรณีมีการระบุว่า ผู้ต้องหาถูกซ้อมนั้น ตนเชื่อว่า ไม่น่าจะเป็นจริง ยุงกัดหรือไม่ ก็ไม่รู้ หลักฐานชัดเจนหากสาวไปถึงใครคนนั้นก็ต้องเข้าสู่กระบวนการ
“อยากกลับไปเป็นเหมือนก่อน 22 พ.ค. กันเหรอ ยืนยันจะมีการเลือกตั้งปลายปีนี้ ใครดีใจบ้าง ผมสั่งทำตามโรดแมปให้ท่านอยู่แล้ว แต่ข้อสำคัญคือ ต้องทำให้โปร่งใส ผมไม่อยากใช้อำนาจในทางที่ผิด ที่จับมามีความผิดคดีอาญาทั้งนั้นเรียกมาสอบสวน 7 วัน ส่งศาลแล้วปล่อยไป เราให้ความเป็นธรรม ด้วยการให้สู้ตามกระบวนยุติธรรม ไม่ได้เร่งรัดใครเพราะผมไม่เคยขัดแย้งกับใคร กฎหมายทุกฉบับใช้แล้วก็จบ เว้นแต่กฎอัยการศึก ที่ขนาดยังมีไว้แต่ก็ยังมีการแอบวางระเบิดกันอยู่เลย วันนี้เราเข้ามาแก้ปัญหาเดิมมากมายที่มีอยู่ ไม่มีรัฐบาลไหน ที่รัฐประหารมาแล้วทำแบบนี้ เพราะต้องการให้ทุกคนยอมรับ ถึงเหนื่อยผมก็ยอม ถ้าคิดแบบเดิมทุกคนมีเสรีภาพ 100% ก็จะถูกชักจูง มีการทุจริต พรรคการเมืองมีปัญหาหมด เราจึงต้องสร้างความเข้มแข็งให้พรรคการเมืองด้วย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว