รองนายกฯ บอก “ประยุทธ์” ยังไม่ได้ปรึกษาเรื่องการยกเลิกกฎอัยการศึก ระบุหากยกเลิกจริง ต้องเอาหลายเหตุมาประกอบ เพราะมีผลกระทบไม่เหมือนกัน
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีแนวคิดที่จะหากฎหมายอื่นมาแทนการใช้กฎอัยการศึก ว่า ตนยังไม่มีความคิดเรื่องนี้ แต่เคยคุยกันนานแล้ว ซึ่งรัฐบาลก็ตระหนักในเรื่องนี้อยู่ว่า ความจำเป็นที่จะยังคงใช้กฎอัยการศึกยังมีอยู่ ขณะเดียวกัน เสียงเรียกร้องให้ยกเลิกก็ยังมีอยู่เช่นกัน ส่วนจะให้คงอยู่หรือยกเลิกนั้น พูดกันตรงๆ ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย
ฉะนั้น การพิจารณาจะให้คงไว้หรือยกเลิกในบางพื้นที่จะต้องเอาหลายเหตุมาประกอบกัน ทางเลือก ทางออก ที่จะมาทดแทน ซึ่งตนได้รายงานไปตั้งแต่ปีที่แล้ว และเคยให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่ากฎหมายมีหลายประเภท หลายฉบับ ซึ่งก็แปลว่ามีผลกระทบไม่เหมือนกัน จึงมีหลายประเภทให้เลือกใช้ บางสถานการณ์ใช้กฎหมายอาญา ขณะที่บางสถานการณ์ใช้กฎหมายความมั่นคง และหากบางสถานการณ์ใช้กฎหมายความมั่นคงไม่ได้ ก็ต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ทำไมไม่สงสัยกันบ้างว่าสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ทำไมจึงไม่ใช้กฎหมายความมั่นคง ตนขอตอบว่า เมื่อใช้กฎหมายความมั่นคงไม่ได้ผลก็จำเป็นต้องใช้กฎอัยการศึกที่เป็นยาแรง ก็แสดงว่าผลไม่เหมือนกัน
“อย่าลืมว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมาเป็นการยึดอำนาจ ไม่ใช่งานภูเขาทอง ลอยกระทง ที่จะใช้อะไรเบ็ดเตล็ด มายึดอำนาจแล้วก็เรียกว่าสถานการณ์ไม่ปกติอย่างยิ่ง ก็ต้องใช้ยาที่แรงที่สุดในเวลานั้นคือกฎอัยการศึก หลังจากใช้มาระยะหนึ่ง โดยเสียงเรียกร้องก็ดี สถานการณ์ที่เปลี่ยนไปก็ดี ก็อาจจะมีความคิดที่จะผ่อนกลับมาสู่กฎหมายที่เบากว่า หรืออาจจะเลิกไปโดยที่ไม่มีกฎหมายอื่น ก็เป็นเรื่องที่คิดได้ แต่หลายอย่างมีผลกระทบของมัน ซึ่งคณะที่ปรึกษาเคยให้ความเห็นไปหลายครั้งแล้วว่าแต่ละอย่างมีผลกระทบอย่างไร ก็อยู่ที่ท่านจะเอาข้อมูลอะไรมาพิจารณา แต่ตอนนี้ยังไม่ได้คุยกันเลย”
นายวิษณุ กล่าวว่า นายกฯอาจจะคิด แต่ไม่ได้ให้ตนคิด ซึ่งตนเข้าใจว่ายังไม่ถึงตอนของกฎหมาย แต่เป็นชั้นของนโยบายความมั่นคง ถ้านายกฯกระโดดข้ามกับดักตรงนี้ไปได้ ตนถามว่าในแง่กฎหมายจะทำอย่างไร ก็ต้องกลับมาคิดกัน แต่ในเรื่องนโยบายตอนนี้เป็นการชั่งน้ำหนักเรื่องความมั่นคง กฎหมายเป็นเพียงเครื่องมือเท่านั้น