“ประวิตร” ยันรัฐบาลไม่ขัดข้องหากนิรโทษกรรมผู้ชุมนุมทางการเมืองในคดีที่ไม่ร้ายแรง แต่ต้องให้ทุกฝ่ายเห็นด้วยเพื่อให้เกิดความปรองดอง ยันพลเรือนขึ้นศาลทหารเฉพาะคดีก่อความไม่สงบเรียบร้อย เผยลงพื้นที่ภาคใต้ติดตามงาน กอ.รมน.ภาค 4 และ ศอ.บต.
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนออกเดินทางไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวกรณีที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเสนอให้มีการนิรโทษกรรมผู้ชุมนุมทางการเมืองทุกฝ่ายเพื่อสร้างความปรองดองว่า หากทุกฝ่ายร่วมมือ พูดคุยกัน และการดำเนินการในสิ่งที่ไม่ผิดกฎหมาย หรือไม่ใช่คดีร้ายแรง เช่น พยายามฆ่า จนทำให้เกิดความสูญเสีย ตลอดจนถึงประชาชนยอมรับได้ ทางรัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็ไม่ขัด โดยอยากให้คนในประเทศเกิดความปรองดอง หากมีการเสนอกฎหมายเข้ามา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ก็สามารถทำได้ แต่ทุกฝ่ายต้องเห็นด้วย
“อะไรก็ตามที่สามารถทำให้เกิดความปรองดองก็ทำไป เพียงแต่ขอให้ทุกฝ่ายและประชาชนยอมรับ เราก็เห็นด้วย เว้นแต่เรื่องที่ผิดกฎหมายของประเทศ เราทำไม่ได้”
พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า กรณีที่การเรียกร้องไม่ให้พลเรือนขึ้นศาลทหารนั้น ที่ผ่านมามีการผ่อนปรนมาตลอด ยกเว้นคดีที่ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ยืนยันเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนเต็มที่กับการทำงาน เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน ทั้งข้าราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร เราร่วมมือกันในการบูรณาการทำงาน ทั้งนี้ตนคงไม่ขอร้องให้หยุดการเคลื่อนไหว เพราะคิดว่าเป็นคนไทย ต้องมีจิตสำนึก หากยังมีการก่อกวน ถามว่ารัฐบาลจะทำงานได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ประเทศต้อการความรักความสามัคคีเพื่อเดินไปข้างหน้าและขับเคลื่อนการแก้ปัญหาของประเทศในทุกๆ ด้าน
สำหรับการเดินทางลงพื้นที่ภาคใต้นั้น พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า การเดินทางครั้งนี้ เพื่อไปติดตามการปฎิบัติงานของ กองอำนวยการรักษาความสงบภายใน ภาค 4 (กอ.รมน.ภาค 4) และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ตลอดจนการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ ทั้งนี้ยอมรับว่าสถานกานณ์ในภาพรวมเหตุการณ์ความรุนแรงลดลง แต่ก็ยังมีการก่อเหตุซึ่งทางเจ้าหน้าที่พยายามดูแลเพื่อให้ประชาชนเกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
