“ประยุทธ์” สั่งขับเคลื่อนเขตเศรษฐกิจพิเศษ ให้มหาดไทยหาที่ดินหลวงทำนิคมอุตสาหกรรม - ให้เช่า โวใช้งบลงทุนไปแล้ว 30 เปอร์เซ็นต์ ดีกว่ารัฐบาลที่ผ่านมาในรอบ 5 ปี แนะอย่าตระหนกเศรษฐกิจแย่ ให้ใช้เงินในประเทศ เห็นชอบกู้เงิน 5.7 หมื่นล้าน จัดการน้ำ - สร้างถนน เดินหน้ารถไฟฟ้า 10 สาย ภายในปี 2562 ส่วนประมูล 4จี บอกแค่ว่าไม่ต้องห่วง แต่รอตั้งกระทรวงดิจิตอลก่อน ไม่รู้เห็นมีคนหวานปากร่วมประมูลกี่เจ้า
วันนี้ (17 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ในการประชุมมีกว่า 70 เรื่อง โดยเป็นการแก้ไขปัญหาในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งแนวทางใหม่ ในการขับเคลื่อนเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยได้ตกลงกันว่าจะเพิ่มแนวทางในพื้นที่เดิม โดยหลายๆ อย่างต้องเป็นไปตามข้อกฎหมาย ทั้งผังเมือง การจัดเตรียมระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน การไฟฟ้า และประปา รวมทั้งสิทธิประโยชน์ในการลงทุน ซึ่งวันนี้ในเรื่องของสิทธิประโยชน์นั้น มีความเปลี่ยนแปลงไปมาก ซึ่งการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษจะมีทั้งการลงทุนในบีโอไอ เป็นการจัดตั้งโรงงานตามปกติ ของกระทรวงอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ตนต้องการให้พื้นที่ดังกล่าวนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยได้เสาะหาพื้นที่ว่างเปล่าของหลวง ซึ่งอาจมีการแก้ไขกฎหมาย เพื่อสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ โดยจะใช้ส่งเสริมใน 3 เรื่องคือ 1. ส่งเสริมเศษรกิจบีโอไอในลักษณะนิคมอุตสาหกรรม 2. ให้เอกชนมาเช่าพื้นที่เพื่อบริหารจัดการให้เกิดการแข่งขัน 3. เสริมเอสเอ็มอีในพื้นที่ให้เกิดความเข้มแข็ง
ทั้งนี้ คิดว่าจะมีความก้าวหน้า สามารถดำเนินการในระยะที่ 1 ได้ภายในปีนี้ เพื่อเป็นการนำร่อง ขณะที่หลายบริษัทในต่างประเทศต่างสนใจเข้ามาลงทุน ส่วนการจัดหาแรงงานนั้น กระทรวงแรงงานกำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งแรงงานต่างชาติในประเทศเพื่อนบ้านจะเข้ามา โดยต้องจดทะเบียนเพิ่มขึ้นให้เป็นแรงงานแบบเช้าไปเย็นกลับ และอีกส่วนคือแรงงานที่เข้ามารับจ้างตามฤดูกาล เช่น ตัดอ้อย ขุดมัน นอกจากนี้ ยังมีแรงงานรายปี ซึ่งรัฐบาลจะต้องแก้ปัญหาในการขึ้นทะเบียนให้กับแรงงานรายปี เพราะทำงานได้สักพักก็จะเปลี่ยนนายจ้าง และตนได้ย้ำไปยังองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ให้ช่วยกำกับดูแลในการจดทะเบียนเพื่อป้องกันไม่ให้แรงงาน ย้ายไปยังถิ่นฐานอื่น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ที่รัฐบาลใช้งบลงทุนถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งดีกว่ารัฐบาลที่ผ่านมา ที่เป็นไปตามเป้า เพราะมีการขับเคลื่อนในทุกส่วน โดยให้หน่วยงานในพื้นที่เข้าไปดูความต้องการของประชาชนพร้อมกับปรับแก้ และคาดว่าจะได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์แน่นอน และอยากฝากไปยังภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างขอให้สบายใจ รัฐบาลขับเคลื่อนได้มากแล้ว จากที่ทำสัญญาไว้แล้ว ต่อไปก็คงเริ่มการก่อสร้างได้ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ดีขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ที่ประชุมได้มีการพูดถึงการดูแลเอสเอ็มอี เนื่องจากผู้ประกอบการต้องการเงินทุน เพื่อพัฒนาตนเอง แต่ก็น่าเห็นใจ เพราะเอสเอ็มอีชั้นดี ธนาคารพาณิชย์เอาไปหมดแล้ว จึงเหลือแค่เอสเอ็มอีที่ไม่ค่อยเข้มแข็ง อย่างไรก็ตาม จะให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ลงไปดู และยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ทิ้งคนกลุ่มนี้
ส่วนการค้าขายกับต่างประเทศ การค้าขายกับสหรัฐฯ และยุโรปนั้นดีขึ้น ขณะที่การค้าขายกับจีนและญี่ปุ่นลดลง ซึ่งมีหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องกัน ทั้งเรื่องความเข้มแข็งของประเทศ นวัตกรรม ต้นทุน ค่าแรง และต้นทุนสินค้า ของไทยแพงกว่าหลายประเทศ โดยต้องแก้ไขทั้งหมด ขณะนี้รัฐบาลกำลังปรับปรุงการวิจัยพัฒนาโดยพยายามมานำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นข้าว เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรมีความเข้มแข็งด้วย แม้ที่ผ่านมานโยบายของรัฐและเอกชนจะไม่ค่อยตรงกันก็ตาม
นายกฯ กล่าวว่า ในภาพรวมของเศรษฐกิจ หากประชาชนเกิดการตื่นตระหนกมากๆ ก็ไม่สามารถใช้จ่ายได้ แต่คนไทยก็ยังไปเที่ยวต่างประเทศอยู่ อาจจะด้วยไม่กล้าใช้เงินในประเทศเลยต้องไปต่างประเทศกัน ในฐานะนายกรัฐมนตรีอยากให้ทุกคนช่วยกันใช้เงินในประเทศ และอย่าสร้างความตื่นตระหนกมากนัก วันนี้ไม่ว่าอะไรจะลดลงต้องนำมาเทียบกับจีดีพี ถ้าการส่งออกลดลงจะส่งผลให้หนี้สาธารณะสูงขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบแนวทางการกู้เงินรวม 5.7 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการบริหารจัดการน้ำ 2.3 หมื่นล้านบาท และโครงการก่อสร้างถนน 3.4 หมื่นล้านบาท โดยมีการใช้เงินกู้ไปบ้างแล้ว ส่วนรายละเอียดต้องไปถามกรมทางหลวง เพราะมีแผนงานอยู่แล้ว อย่างวันนี้มีการประกาศภัยแล้วใน 29 จังหวัด ก็ต้องปรับโครงการอื่นแล้วนำงบมาใส่ส่วนนี้เพิ่มขึ้น โดยต้องดูสถานการณ์ด้วย นอกจากนี้ การอนุมัติงบประมาณนั้นก็เพื่อส่งเสริมให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย
ส่วนโครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคของประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่ทั้งระบบขนส่งมวลชน รถไฟฟ้า 10 สาย โดยจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ พยายามให้ทันปี 2561 - 2562 วันนี้ตนได้ให้นโยบายว่า การสร้างรถไฟมีหลายอย่าง 1. รัฐลงทุนร่วม 2. เอกชนลงทุน ซึ่งทั้งหมดต้องเกิดประโยชน์ต่อประชาชนโดยตรง และไม่ทำให้ค่าโดยสารแพงขึ้น การบริการต้องดีกว่าเดิม ประชาชนต้องมีความพอใจ รัฐบาลพร้อมชี้แจงทุกเรื่อง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการเตรียมการเกี่ยวกับเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ในยุคที่ 4 หรือ 4จี ว่า ในวันที่ 18 มี.ค. จะมีการประชุมคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องและไม่ต้องห่วง 4จี เกิดขึ้นได้อยู่แล้ว เกิดขึ้นในปีนี้อย่างแน่นอน การประชุมในวันพรุ่งนี้ก็คงจะจบเสียที เพียงแต่ต้องรอคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาเสียก่อน โดยจะต้องตั้งเป็นกระทรวงดิจิตอลขึ้นมาให้ได้ก่อน จากนั้นก็จะมีการประมูล และไม่มีผลประโยชน์กับใครทั้งสิ้น
ส่วนจะมีบริษัทใดเข้าประมูลบ้างนั้นตนก็ไม่ทราบ ไม่รู้ว่ามีกี่เจ้า ซึ่งการประมูลแข่งขันก็มีความเป็นไปได้ทั้งหมด บริษัทใดที่มีความพร้อมก็สามารถเข้ามาประมูลได้ อย่างที่เคยบอกไว้แล้วว่า การที่เราจัดกระทรวงไอซีทีใหม่ เพราะต้องการเอาโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่เดิมของรัฐ ทั้ง ทีโอที และบริษัท แคท เมื่อรวมกับเอกชนต่างๆ ก็จะได้ครบร้อยเปอร์เซ็นต์จากนั้นก็นำมาพัฒนาร่วมกันเพื่อใช้ประโยชน์