สังคมออนไลน์วิพากษ์ รบ.ทหาร ย้าย “หมอณรงค์” กก.ผู้ช่วย รมต. ชี้ฟ้าผ่าที่กระทรวงสาธารณสุข ชาว สธ.ต้องเอาปี๊บคลุมหัวกันแล้ว ย้ำคุณหมอต่อสู้กับอธรรมมาตลอด รบ.ยิ่งลักษณ์ยังไม่กล้าย้าย ระบุ รมต.ซึ่งไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันเนื่องจากเข้ากับข้าราชการประจำไม่ได้ ด้าน “สสจ.นครปฐม” ระบุเหมือนบรรจงใช้รองเท้าบูตเหยียบย่ำเข้าไปกลางใจผู้ปฏิบัติงาน
วันนี้ (12 มี.ค.) รายงานว่า นายไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ตั้งข้อสังเกตถึงกรณีการโยกย้าย นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ดังนี้
“สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ (ชินวัตร) หมอณรงค์ยืนหยัดต่อสู้กับอธรรมไม่หวั่นไหว แม้ถึงขั้นมีการขว้างระเบิดและยิงเอ็ม 79 ถล่ม แต่รัฐบาลนั้นก็ไม่กล้าย้าย เพราะยังกลัวความดี บัดนี้หมอณรงค์ถูกย้ายเสียแล้ว บุคลากรสาธารณสุขกำลังชุมนุม เมื่อคนดีมีความเสียสละลุกขึ้นทักท้วง จึงกระทบธรรม หากไร้ธรรมอำไพ ย่อมบรรลัยแน่นอน ปัญหาในกระทรวงมีแน่ แต่แก้ตรงปัญหาหรือไม่อีกเรื่องหนึ่ง”
ต่อมาได้โพสต์ข้อความ ระบุตอนท้ายว่า “แพทย์โรงพยาบาลชุมชน” โดยมีใจความว่า “ฟ้าผ่าที่กระทรวงสาธารณสุข พวกเราชาวสาธารณสุขต้องเอาปี๊บคลุมหัวกันแล้ว”
“และแล้วสิ่งที่ข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข ต้องทำใจรับชะตากรรมกับนักการเมือง คือ การเข้าก้าวก่ายการทำงานของข้าราชการประจำ ก็เกิดขึ้นอีกแล้ว เหมือนกับการปฏิวัติรัฐประหารที่ยังคงต้องอยู่คู่กับสงคมไทยอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ ฉันใดก็ฉันนั้น เมื่อข้าราชการที่เป็นคนดีของแผ่นดิน ที่ทำหน้าที่ปกป้องบ้าน คือ สธ. เพื่อประโยชน์ของประชาชน กลับถูกมองว่าแข็งข้อ ซึ่งสื่อสารมวลต่างออกมาแสดงความคิดเห็นทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งแต่ละคนมีมุมมองที่แตกต่างกันออกไป เหมือนที่มีคำพูดว่า ในดีมีเสียในเสียมีดี
เหตุนี้ก็เหมือนกับภาษิตโบราณที่ว่า เอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง ไม่ซีกย่อมทานน้ำหนักไม่ไหวแน่นอน ทั้งๆ ที่รู้ ปลัดณรงค์ก็ไม่เคยรู้สึกถึงความหวาดกลัวตรงนั้น ยังคงมุ่งมั่นเพื่อบทบาทหน้าที่ของผู้นำองค์กรสาธารณสุข ที่ต้องการพาองคาพยพของ สธ. ก้าวให้พ้นจากวังวนของกลุ่มแพทย์ชนบท องค์กรตระกูล ส. และนักการเมืองที่ก้าวก่ายการทำงานของภาคราชการ ซึ่งเต็มไปด้วยอำนาจและผลประโยชน์มากมายมหาศาล ในกรณีเดียวกันนี้ มีตัวอย่าง2 มาตรฐานให้ได้เห็นคือ การที่ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. ถูกสอบสวนโดย ป.ป.ท. ยังไม่เห็นมีการโยกย้ายผู้บริหารระดับสูงของ สปสช.เลย
นี่มันคืออะไรกัน รมต.ซึ่งไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันเนื่องจากเข้ากับข้าราชการประจำไม่ได้ จากการขาดภาวะผู้นำ ก็อยู่โดยบอกว่าข้าราชการประจำไม่สนองนโยบายซึ่งนโยบายท่านก็คืองานประจำของกระทรวงสาธารณสุขไม่มีอะไรแปลกใหม่ เขาทำกันอยู่แล้ว แม้ท่านไม่คิดมันปรากฏในงานประจำอยู่แล้ว ในขณะที่ข้าราชการประจำคือปลัดกระทรวงสาธารณสุขมีผลงาน โดยเฉพาะเรื่องเขตบริการสุขภาพ การแบ่งปันทรัพยากรภายในเครือข่ายสุขภาพ การเชื่อมโยงระบบบริการ พี่ช่วยน้อง น้องช่วยพี่ ทั้งคน เงิน ของ อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน แต่มาปรากฏเป็นรูปธรรม อย่างในสมัยท่านปลัดณรงค์ และท่านได้วางระบบบริการ หรือ service plan ทำให้สถานบริการมองภาพการเติบโต การพัฒนาการบริการอย่างมี่ทิศทางสนองตอบต่อความต้องการของประชาชน ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชนเพื่อมารับบริการ ในเขตปริมณฑลและกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นผลดีต่อประชาชน ในเขตบริการนั้นๆอย่างเอนกอนันต์ และในเรื่องระบบบริการสุขภาพระดับอำเภอ หรือ District Health system (DHS). เป็นการประสานการทำงานของเครือทั้งภาครัฐแลเอกชน คือ อปท. ภาคประชาชน อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ระบบสุขภาพกำลังขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างเป็นองคาพยพ เป้าหมายเพื่อประชาชน ในภาวะงบประมาณในการบริหารจัดการที่จำกัด และบางสถานบริการประสบปัญหาวิกฤตทางการเงินถึง 300 กว่าโรงพยาบาล แต่ทุกๆ แห่งก็ประคองตัวเพื่อให้บริการเดินไปข้างหน้าได้อย่างยากลำบาก ตามนโยบายท่านปลัดกระทรวง ทำให้ท่านปลัดกระทรวงต้องออกมาให้ข้อมูลถึงปัญหาและความเป็นจริงของระบบหลักประกันสุขภาพที่มีผลกระทบต่อการขับเคลื่อนระบบบริการ และภาระงบประมาณด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้นทุกปี จากการบริหารที่ไม่มีประสิทธิภาพของ สปสช. ชี้ให้เห็นถึงผลประโยชน์ทับซ้อนที่เกิดขึ้นใน สปสช. และองค์กรตระกูล ส. และทีมที่ปรึกษา รมต. สาธารณสุข จนกลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วประเทศ จึงกลายเป็นที่มาของการที่ ป.ป.ท. เข้าตรวจสอบการทำงานของ สปสช. ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ดี ตรงกับนโยบายของ คสช.และรัฐบาลชุดนี้
แต่จู่ๆ ฟ้าก็ผ่าลงมา แต่ก็ไม่ได้ผิดไปจากการคาดหมายของคนในกระทรวงสาธารณสุข และตัวท่านปลัดณรงค์เอง ท่านเคยปรารภในหมู่คนใกล้ชิดไว้ว่า ท่านอาจไม่ได้อยู่รับราชการจนถึงเกษียณอายุราชการเดือนกันยายน 2558 นี้ ฤๅท่านอาจจะลาออกก่อนการเกษียณ หรือโดนปลด ท่านเคยพูดว่า “เป็นปลัดกระทรวง วันเดียวกับเป็นปลัดฯ 2 ปีเศษ ก็คือปลัดกระทรวงสาธารณสุขเหมือนกัน” และท่านได้ยกคำพูดของ ท่านป๋วย อึ๊งภากรณ์ อีกข้อความหนึ่งว่า “คนเราถ้าไม่พะวงรักษาเก้าอี้ มักจะตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง” ท่านได้ทำแล้ว และปลัดคนต่อไปของกระทรวงสาธารณสุขจะเป็นใครไม่สำคัญ แต่มองอนาคตของคนในกระทรวงสาธารณสุข ต่อไปนี้คงต้องเป็นข้าทาสรับใช้ สปสช. องค์กรตระกูล ส. ชมรมแพทย์ชนบท และนักการเมือง. คงจะหาใครที่จะกล้านำพวกเราชาว สธ. ลุกขึ้นมาต่อสู้กับอำนาจนอกระบบเหล่านั้นไม่ได้อีกแล้ว ถึงคราวที่คนสาธารณสุขต้องเอาปี๊บคลุมหัวจริงๆ กันแล้วหละคราวนี้
เราหวังไว้ว่าการปฏิวัติรัฐประหารในครั้งนี้น่าจะนำพาการเปลี่ยนแปลงที่ ติดขัดในข้อกฎหมาย ที่แก้ด้วยสภาผู้แทนราษฎร จากการเลือกตั้งไม่ได้ เนื่องจากเป็นนโยบายประชานิยม แต่กาลกลับกัน กลายการเดินตามรอยนักการเมืองจากการเลือกตั้ง ไม่ต่างกันจริงๆ ปลัดณรงค์จะอยู่หรือไปไม่ใช่ปัญหา แต่ธรรมาภิบาล และ สธ.ยังต้องคงอยู่ ใครกันแน่ควรต้องลุกออกจากกระทรวงสาธารณสุข ชาว สธ.คงต้องเอาปี๊บคลุมหัวกันละคราวนี้ แพทย์โรงพยาบาลชุมชน”
วันเดียวกัน สังคมออนไลน์มีการแชร์ข้อความของ นพ.บุญเรียง ชูชัยแสงรัตน์ สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม ระบุต่อกรณีการโยกย้าย นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขว่า
“นายกฯ ลุงตู่ และที่ปรึกษาสายแพทย์ ตระกูล สปสช. แค่เริ่มต้นด้วยการปลดปลัดกระทรวงสาธารณสุข ข้อหาไม่ตอบสนองนโยบายรัฐบาล พร้อมตั้งกรรมการสอบ ก็เหมือนบรรจงใช้รองเท้าบูตเหยียบย่ำเข้าไปกลางใจผู้ปฏิบัติงานตั้งแต่ระดับรองปลัด, นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด, หมอ รพ.ศูนย์ รพ.ทั่วไป, หมออนามัยจำนวนมากแล้วยังเป็นการผลักมิตร และแนวร่วมให้ออกห่าง...(และยังไปอุ้มชูมิตรที่มีแต่แผลเรื่องการใช้งบประมาณไม่โปร่งใสเสียอีก) แนวคิดของผู้ปกครองที่ว่า จะให้ใครมาเป็น “นาย” คนแวดวงสาธารณสุขไทย ก็ได้ อาจเข้าใจผิด...หมอณรงค์ปลูกต้นกล้าทางความคิดให้คนทุกระดับไว้มากแล้ว ณรงค์ 2, ณรงค์ 3 จะตามมาอีกมาก เรื่องจะสงบง่ายๆ อย่างนั้นหรือ? การปฏิรูปประเทศ, แนวทางปรองดอง จะดำเนินต่อไปอย่างไร อยากรู้จริงๆ”
ต่อมามีข้อความอีกว่า “พี่หมอ ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ไม่มีวันตาย หลังจากความอึมครึม อึดอัด ไม่แน่นอนมานาน วันนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าพี่หมอ ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ต้องเดินทางไปทำงานที่สำนักนายกรัฐมนตรี จิตตก หวั่นไหว เศร้า ว้าเหว่ เมื่อวานนี้ได้ยินเทปเสียงท่านสังฆราชที่เพิ่งสิ้นพระชนม์ชีพไปกล่าวไว้ว่า “เมื่อจิตใจผูกพัน ยึดมั่นสิ่งใด เมื่อสิ่งนั้นแปรปรวนเปลี่ยนแปลง จิตใจย่อมหวั่นไหว สั่นคลอน ไม่พ้นทุกข์ไปได้”
เป็นเพราะความผูกพัน ประทับใจ รู้สึกศรัทธา จึงเกิดความทุกข์ในจิตของตน เป็นเพราะยังไม่สามารถปล่อยวางความรู้สึกผูกพันนั้นได้ รู้สึกประทับใจที่ช่วงที่พี่เป็นรองอธิบดียืนอยู่แถวหน้า ดำเนินการกับบริษัทบุหรี่ที่ทำผิดกฎหมายโฆษณา ประทับใจที่ยามสู้รบ พี่ยืนอยู่ด้านหน้า ประกาศแข็งกร้าวไม่เกรงกลัว แม้อาจเกิดภยันตรายกับตนเองและครอบครัว ประทับใจที่พี่แสดงจุดยืนของข้าราชการไทยในความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
ประทับใจในความเด็ดเดี่ยวประกาศนโยบายเชิงบริหาร ปฏิรูประบบสุขภาวะหลายอย่าง ระบบการโยกย้าย วาระ 2 ปี 4 ปี ระบบการเตรียมการบุคคลทดแทนผู้เกษียณ ปฏิรูประบบหลักประกันสุขภาพ ระบบพี่น้องในสาธารณสุข ระบบคุณธรรม ระบบความโปร่งใส
ประทับใจที่พี่กตัญญูพูดถึงพระคุณคุณพ่อ (เตี๋ย) อยู่อย่างสม่ำเสมอ ประทับใจในการครองตน ครองคน ครองงานที่เสมอต้นเสมอปลาย และประทับอีกหลายๆ อย่างมิอาจกล่าวได้หมด อีกร้อยปีเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้ก็จะผ่านไป มีเหตุการณ์ใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย
ประวัติศาสตร์ประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุขจะประทับใจ พี่ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ของน้องๆ ของปวงชนชาวไทยตลอดไป สมกับคำว่า พี่หมอณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ไม่มีวันตาย นพ.บุญเรียง ชูชัยแสงรัตน์ นพ.สสจ.นครปฐม”